“เส้นทางเดินง่าย มรรคาเดินยาก” ได้ยินคําพูดของสวีเฟย เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางหัวเราะ ทุกคนต่างยิ้ม เยี่ยนจ้าวเกอพูดต่อ “ข้าจะไปเขานครหยกก่อน” หลังบอกลาทุกคน เยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏตัวด้านนอกประตูเขา
นครหยก ถึงเขาจะขึ้นสู่มหาชาล คงอยู่ทุกที่ แต่อยู่ในเขานครหยก ยังคง
รักษามารยาท เข้าไปจากประตูเขา ลูกศิษย์ที่เฝ้าเขานครหยกย่อมแจ้งข่าวในทันที ทั้งเชิญเยี่ยนจ้าวเก
อเข้าประตูเขา ขึ้นเขาไปพบเยว่เจิ้นเป่ย เยว่เจิ้นเป่ยได้รับข่าว ออกมาต้อนรับทันที “อาจารย์ลุงเยว่” เยี่ยนจ้าวเกอไม่เสียมารยาทกับเยว่เจิ้นเป่ย แต่
ว่าเยว่เจิ้นเป่ยยังคงคารวะคืน แสดงความยินดีที่เยี่ยนจ้าวเกอขึ้นสู่มหา
ชาล จากนั้นจึงพูดคุยเหมือนปกติ
บุรุษที่ใบหน้าแน่วแน่เคร่งขรึมผู้นนี้ ตอนนี้มือสั่นเล็กน้อยอย่าง หากได้ยาก
เยว่เจิ้นเป่ยเหมือนคาดเดาเจตนาการมาของเยี่ยนจ้าวเกอได้ แต่ ว่าไม่ได้เอ่ยปากถาม เพียงมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “พวกเราทําสําเร็จแล้ว!”
เขากางแขนเสื้อ ปราณพิสุทธิ์จางๆ ส่งเงาคนสองสายออกมา
เห็นหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีนั่งเคียงไหล่ แยกกันยื่นมือซ้ายมือขวา ออกมาประกบฝ่ามือกัน
เป็นเนี่ยจิงเสินกับอวี่เย่
สองคนเชื่อมมือ อีกมือหนึ่งต่างประสานท่ากระบี่ตั้งไว้ที่อก หลับ สองตา ปรับลมหายใจเงียบๆ
เยว่เจิ้นเป่ยเห็นดังนั้น พลันกลั้นลมหายใจเล็กน้อย
“ค่ายกลสิบสองเทพมารสวรรค์ดับสูญ ศิษย์พี่เนี่ยจะมากจะน้อยก็ ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง” เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “แต่สมควรไม่มีอุปสรรค ใหญ่ ข้ามอบเมฆาไร้ขอบเขตบรรพกําเนิดโกลาหลแก่ศิษย์พี่เนี่ยแล้ว ประสานในนอกกับบรรพครรภ์ก่อนกําเนิดของเขา อาศัยจังหวะเวลา
สองชั้นที่ข้าฝ่าภัยพิบัติฟ้ากําเนิดและนพยมโลกสิ้นสูญ สามารถสังหาร มารทองแกได้!”
ถ้าเนี่ยจิงเสินกลายเป็นเปลือกร่างคืนชีพของมารสวรรค์บรรพ กําเนิด เกรงว่ายากหันหลังกลับอีก
ตอนนี้ในที่สุดฝนก็ผ่านพ้นฟ้าแจ่มใส
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านหลังคนทั้งสอง ฝ่ามือสองข้างแยกกันกด บนกลางหลังพวกเขา
เนี่ยจิงเสินกับอวี่เย่ร่างสั่นสะท้าน ลืมตาขึ้นพร้อมกัน
ฝ่ามือที่ประกบกันของพวกเขาแยกออกจากกัน ต่างรวมกายจิต เป็นหนึ่ง ค่อยๆ พ่นลมหายใจออกคําหนึ่ง
เนี่ยจิงเสินมองขวามือของตัวเอง จากนั้นก็จ้องทางขวามือโดย สัญชาตญาณ
ที่เห็นเป็นสตรีอาภรณ์เขียวนางหนึ่ง กําลังมองเขาที่อยู่ทางซ้ายมือ เช่นกัน
เนี่ยจิงเสินริมฝีปากสั่นไหว ไม่ได้ส่งเสียง
อวี่เย่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เพียงมองเขาไม่ละสายตา รอยยิ้ม
ค่อยๆ บานขึ้นบนใบหน้า เนี่ยจิงเสินหันหน้า ตรงข้ามเป็นอาจารย์ของตัวเอง เยว่เจิ้นเป่ยสีหน้ายังคงแน่วแน่เคร่งขรึม แต่ดวงตาอบอุ่นถึงขีดสุด บุรุษอาภรณ์ดํา ลุกขึ้นยืนจากพื้น จากนั้นค่อยๆ ก้มกราบบุรุษน่า
เกรงขามที่อยู่ตรงหน้า เขาริมฝีปากสั่นไหว ในที่สุดก็ส่งเสียง “อาจารย์ ศิษย์กลับมาแล้ว” เนี่ยจิงเสินที่อยู่ตรงหน้าขึ้นสู่ระดับมหาชาลเหมือนเยี่ยนจ้าวเกอ
เยว่เจิ้นเป่ยจิตใจสั่นไหว กลับไม่สนใจมารยาท เขาสูดหายใจลึก เงยหน้าขึ้นน้อยๆ หลังนิ่งไปครู่หนึ่ง จึงกล่าวเสียง
อ่อนโยน “ประเสริฐ ประเสริฐ!” นอกจากประโยคนี้ เยว่เจิ้นเป่ยตอนนี้ถึงกับกล่าวคําพูดอื่นๆ ไม่
ออก เนี่ยจิงเสินกราบเยว่เจิ้นเป่ยหลายรอบ จากนั้นลุกขึ้นยืน หมุนตัว
ไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม ยกมือขึ้นกําเป็นหมัด ยื่นเข้าหาเนี่ยจิงเสิน
เนี่ยจิงเสินเห็นดังนั้น ใบหน้าที่เกร็งอยู่ก็มีรอยยิ้มเช่นกัน ยื่นมือ
ออกมากําเป็นหมัด ชนหมัดกับเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนจ้าวเกอชักมือกลับ มองเนี่ยจิงเสิน มองอวี่เย่ จากนั้นค่อย
มองเยว่เจิ้นเป่ย “อาจารย์ลุง หลังจากการวางหมากบนนพยมโลกใน
ครั้งนี้ยังมีผลกระทบอยู่บ้าง พวกเราศึกษาดูสักหน่อย” “ได้” เยว่เจิ้นเป่ยพยักหน้า พาเยี่ยนจ้าวเกอผละไป สองคนมอบพื้นที่ให้เนี่ยจิงเสินกับอวี่เย่โดยไม่ได้นัดกัน หลังบอกลาเยว่เจิ้นเป่ย เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองเขานครหยก พ่น
ลมหายใจยาวๆ การวางหมากบนนพยมโลกในครั้งนี้ ไม่เพียงสํานักเต๋าสม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี