ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 19

เยี่ยนจ้าวเกอตะโกนออกไปว่า “โยนเชื้อไฟทิ้งไปเสีย เขาอาศัยเชื้อไฟในการกำหนดตำแหน่ง!”

เยี่ยจิ่งที่เพิ่งรู้ตัวรีบโยนเชื้อไฟสัจจะอัคคีไปโดยเร็ว

แต่พลังหมัดของมหาปรมาจารย์มีความเร็วมากเกินไป แม้ว่าจะมีทำเลของปราการมังกรขวางกั้น แต่มวลพลังนั้นก็มาถึงในพริบตา รวดเร็วจนเยี่ยจิ่งอาจจะหลบไม่ทันโดยสิ้นเชิง

โชคดีที่การประมือของปีศาจหานและหัวหน้าค่ายชื่อหลิงก่อนหน้านี้ ทำให้หน้าผาหินที่อยู่รอบตัวเยี่ยจิ่งพังลงจนไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างไปแล้ว

พลังหมัดที่สองของหัวหน้าค่ายชื่อหลิงยังมาไม่ทันถึง เพียงแค่ลมมรสุมที่ก่อตัวขึ้นก็ทำให้หน้าผาหินพังทลายลง

ร่างของเยี่ยจิ่งตกลงไปด้านล่างอย่างควบคุมไม่อยู่ โชคดีที่พ้นจุดสำคัญไปได้อย่างฉิวเฉียด แม้ว่าจะถูกมรสุมไฟเล่นงานจนบาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่างกาย แต่จนสุดท้ายก็ยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้

เพียงแต่คนอื่นในเหตุการณ์ต่างพากันร้องด้วยความตกใจ พลางมองเยี่ยจิ่งที่จมลึกลงไปในใจกลางปราการมังกรที่มองไม่เห็นก้น!

ด้วยวรยุทธ์ที่เยี่ยจิ่งมีอยู่ การตกลงไปในปราการมังกรเช่นนี้ ทำให้เขาแทบจะไม่มีโอกาสรอดกลับมา

แม้ว่าจะไม่ได้ตายด้วยหมัดของหัวหน้าค่ายชื่อหลิง แต่ผลลัพธ์เช่นนี้ก็ยากจะหลีกหนีความตายพ้นเช่นกัน

สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้วแท้ๆ แต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลสุดท้ายได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ศิษย์ร่วมสำนักทุกคนจะมีความสัมพันธ์กับเยี่ยจิ่งเช่นไร พวกเขาต่างก็รู้สึกโศกเศร้าไปพร้อมกันไปชั่วขณะหนึ่ง

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

เขากลับมีความรู้สึกง่วงหงาวหาวนอนด้วยซ้ำ

การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของปีศาจแซ่หานคนนั้น ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอเชื่ออย่างหมดใจ ว่าเยี่ยจิ่งผู้นี้จะมีต้องมีรัศมีแบบคนเป็นพระเอกปกคลุมตัวอยู่เป็นแน่

เพราะฉะนั้นการกระโดดหน้าผาเช่นนี้ ออกจะเป็นเรื่องง่ายดาย

ไม่เพียงเยี่ยจิ่งจะไม่ตาย แต่ยังอาจได้พบพานกับปาฏิหาริย์ ได้คัมภีร์เพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์สักสองสามเล่ม เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่าเขาคงไม่กล้าท้าทายใครแน่

เยี่ยนจ้าวเกอที่มองดูเยี่ยจิ่งตกลงไปเบื้องล่างด้วยทีท่าที่ดูสงบผิดปกติ ราวกับมีความรู้สึกว่า ‘ข้ามองเจ้าออกหมดแล้ว’

และในตอนนั้นเอง ในหุบเหวเบื้องล่างซึ่งมีหมอกดำปกคลุมอยู่นั้น พลันมีแสงเจิดจ้าไหลทะลักออกมา

แสงหลายเส้นพันเกี่ยวอยู่กับกลุ่มหมอกดำ ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า เกิดเป็นคลื่นบ้าคลั่งเสมือนกับพลังทำลายล้าง

“นั่นคือ…เตาผลึกหินชั้นในของข้า มันระเบิดหลังจากที่ตกลงไปในหุบเหวก่อนหน้านี้…อย่างนั้นหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอตะลึงงัน

จากนั้นเขาก็เห็นคลื่นพลังทำลายล้างอันบ้าคลั่งที่กำลังพวยพุ่งขึ้น ปะทะเข้ากับเยี่ยจิ่งผู้กำลังตกไปเบื้องล่างพอดี!

ครั้นเห็นภาพตรงหน้า เยี่ยนจ้าวเกอก็เหม่อลอยขึ้นมาในทันที “…สรุปแล้วชะตาชีวิตของเจ้านั้น ดีหรือไม่ดีกันแน่”

สายตาของเยี่ยจิ่งเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เขากลับทำได้เพียงเบิกตากว้างมองดูร่างของตนเองแตกกระจุยกระจาย เขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดไปแล้ว กระทั่งไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอันรุนแรง

“เยี่ยน-จ้าว-เกอ!!”

เยี่ยจิ่งมองดูเตาผลึกหินชั้นในแตกกระจาย พร้อมกับมองดูตนเองถูกดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องคำรามอันเต็มไปด้วยความคั่งแค้นและไม่พอใจของเขา ดังสะท้อนอยู่ในปราการมังกร

ทันใดนั้น แหวนสีแดงคล้ำที่สวมอยู่บนนิ้วที่มือข้างขวาของเขาปรากฏแสงที่น่าทึ่งออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ชั่วขณะที่แสงสีแดงเข้มสว่างขึ้นมา มรสุมเพลิงจากหมัดของหัวหน้าค่ายชื่อหลิงก่อนหน้านี้พลันอับแสงไป จนดูราวกับดวงไฟเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตา

นัยน์ตาของเยี่ยนจ้าวเกอหดเกร็งตามไปด้วย เขามองเห็นได้รางๆ ว่ารอบกายของเยี่ยจิ่งกำลังสะท้อนเงาของบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากแหวนสีแดงคล้ำวงนั้น

ในเงานั้นปรากฏภาพโลกที่กำลังลุกไหม้

ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงคล้ำนั้น มีหินหลอมละลายกำลังปะทุ หินหนืดไหลไปทั่วทั้งผืนดิน เป็นดังเช่นวันสิ้นโลก

กลิ่นอายของภัยพิบัติ การล่มสลาย และความทุกข์ทรมานมหาศาลทะลักออกมาในภาพนั้น เพียงแค่มองหินหนืดปะทุกระเด็น ก็คล้ายกับเห็นภาพของนรกที่ลุกโชนไปด้วยกองเพลิงอันน่าพรั่นพรึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี