ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 200

สำหรับการชมเชยของฟางจุ่น เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “ท่านอาจารย์ลุงสองกล่าวชมเกินไปแล้วขอรับ ชมจนข้าแทบจะประหม่าแล้ว”

ฟางจุ่นส่ายศีรษะ “เจ้าทนไหวน่า”

ครั้นรวมตัวกับจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นๆ แล้ว ฝูงชนก็เคลื่อนกายออกจากบึงพิภพทันที เดินทางกลับนภาพิภพ

ถึงแม้ว่าจะบรรลุข้อตกลงในการรับมือปัญหาของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขต ในการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบปิดนภาก็ถือว่าเป็นการร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูด้วยเช่นกัน

ทว่าปัจจุบันสงครามทะเลสาบปิดนภายุติลงแล้ว การประลองฝีมือกับภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตสิ้นสุดลงชั่วคราว สำนักเขากว่างเฉิงก็ยังเป็นสำนักเขากว่างเฉิง สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงเป็นสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอและฟางจุ่นเดินทางจากบึงพิภพกลับไปยังนภาพิภพด้วยกัน ยังคงใช้เส้นทางเส้นที่ต้องเดินทางผ่านปฐพีพิภพ

ถึงแม้จะเป็นไปได้อย่างยิ่งว่ารังเก่าของภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตจะอยู่ที่นี่ กระนั้นผ่านสงครามดุเดือดก่อนหน้านี้ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งยังร่วมมือกันปราบปรามปฐพีพิภพอีกครั้งด้วย สำหรับตอนนี้นับว่ายังปลอดภัยอยู่

ในอีกด้านหนึ่ง หากจากบึงพิภพกลับนภาพิภพ ทว่าไม่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ ก็ต้องเดินทางทะลุผ่านจากเขตพื้นที่อัคคีพิภพ

หวงกวงเลี่ยยังไม่ออกจากฌาน สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์พ่ายแพ้สูญเสียยับเยินในสงครามถังตะวันออก หากในการทดสอบแห่งจันทราครั้งที่สาม เมิ่งหว่านไม่ได้ชนะจนได้มงกุฎจันทราไป เช่นนั้นกลุ่มคนของเยี่ยนจ้าวเกอและฟางจุ่นก็คงสามารถย่ำก้าวผ่านจากอัคคีพิภพไปได้โดยตรงโดยไม่เป็นไรเช่นกัน

เพียงแต่บัดนี้อาวุธศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นอยู่ในมือสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ แม้จะไม่ได้โจมตีตอบโต้ กระนั้นสถานการณ์ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอและฟางจุ่นจึงคิดทบทวนที่จะเดินทางทะลุผ่านอัคคีพิภพ ซึ่งจะต้องเผชิญกับการรุกโจมตีของอีกฝ่ายอีกครั้ง

ไม่เพียงแค่เขากว่างเฉิงเท่านั้น ซานสือเวิงยังพากลุ่มคนของเขาไร้พรมแดนกลับไปยังภูผาพิภพอีกด้วย โดยที่เดินทางผ่านปฐพีพิภพเฉกเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้กล้ำกรายไปทางฝั่งอัคคีพิภพนั้น

ส่วนอีกด้านหนึ่ง กำลังคนของตำหนักอัสนีสวรรค์เดินทางกลับอัสนีพิภพ ก็เดินทางผ่านปฐพีพิภพเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องอาศัยเส้นทางทางฝั่งวารีพิภพ

แน่นอนว่าด้านตำหนักอัสนีสวรรค์ จะไม่ร่วมเดินทางกับเขากว่างเฉิงและเขาไร้พรมแดน

เยี่ยนจ้าวเกอ สวีเฟย และซือคงจิงมองดูทางด้านเขาไร้พรมแดนครู่หนึ่ง แล้วก็มองมาทางฝั่งตนเองนี้อีก ภายในใจก็เกิดความรู้สึกไม่ดีอยู่บ้างชั่วขณะหนึ่ง

คนที่เร่งตามไปบึงพิภพทีหลัง ล้อมปราบภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตไม่นับ ฝ่ายตนเข้าร่วมการประชุมฝ่านภา ยามไปรุ่นเยาว์มีสามคน ยามกลับก็ยังมีสามคนเช่นกัน

ทางด้านเขาไร้พรมแดนนั้นก็เปล่าเปลี่ยวอยู่บ้าง หลิวเซิ่งเฟิงและจ้าวฮ่าว ทั้งสองคนถูกผู้สืบทอดหลักหักกระดูกอย่างต่อเนื่อง เซียวอวี่และจี้ฮั่นหรู่ต่างก็บาดเจ็บหนัก

เปรียบเทียบความสูญเสียของจอมยุทธ์ระดับสูงแล้ว ครานี้หอคลื่นโหมหนักหนามากที่สุด

ส่วนศิษย์รุ่นเยาว์ ครั้งนี้เขาไร้พรมแดนถูกโจมตีจิตใจที่หยิ่งทระนงโดยตรงจนพังทลายไปครึ่งแถบ

เทียบกันแล้ว ทางฝั่งตำหนักอัสนีสวรรค์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์อัสนีพิภพ ก็มีบรรยากาศหดหู่อัดอั้นตันใจเช่นกัน

เสียจื่ออี้ที่อายุมากที่สุด ระยะห่างกั้นจากขั้นฝ่านภาเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นตกลงจากท้องฟ้า เฉินหลินที่พลังความสามารถทั่วร่างโดยส่วนมากตกอยู่ที่สุนัขป่าปีศาจทมิฬทั้งสองตัว ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดชื่อว่าเจวี๋ยหาน ก็ถูกพ่านพ่านของเยี่ยนจ้าวเกอนั่งทับจนกลายเป็นเบาะหนังรองนั่งไปเสียแล้ว

ผนวกกับก่อนหน้าที่หลินโจวจะบาดเจ็บสาหัสด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอ แขนขวาที่ถนัดใช้กระบี่ของเยี่ยนส่านถูกชายหนุ่มฟันขาด คนรุ่นเยาว์ของตำหนักอัสนีสวรรค์ก็ประสบเจอกับอุปสรรคที่พบได้ยากเช่นกัน

ตลอดเส้นทางทะลุผ่านปฐพีพิภพ จนมาถึงยังภูผาพิภพ นภาพิภพ บริเวณเขตแดนติดกันทั้งสามทิศของปฐพีพิภพ กองกำลังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งสองดินแดนกล่าวลาซึ่งกันและกัน กลับไปยังแต่ละประตูสำนักของตนเอง

กลุ่มคนของฟางจุ่นพาพวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับมาถึงยังเขากว่างเฉิง โดยส่วนมากคนอื่นแยกย้ายกระจายกันไป เยี่ยนจ้าวเกอกลับตามฟางจุ่นไป ทั้งสองรุดหน้าไปพบหยวนเจิ้งเฟิง เจ้าสำนักรุ่นปัจจุบัน

ภายในตำหนักใหญ่ของสำนัก หยวนเจิ้งเฟิงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งประมุข คอยท่าอยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว

ขนาบเขาทั้งสองข้าง แบ่งออกเป็นเยี่ยนตี๋ สือเถี่ย และผู้อาวุโสเก่าแก่ทั้งสองท่านของสำนัก

ฟางจุ่นและเยี่ยนจ้าวเกอแสดงการคำนับต่อกลุ่มของหยวนเจิ้งเฟิง ไม่เหมือนเช่นคราวก่อนที่ชายหนุ่มมาพบเจ้าสำนัก ครานี้ ฟางจุ่นไม่ได้นั่งลงแต่อย่างใด แต่กลับยืนอยู่ที่เดิม อันดับแรกเขารายงานเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบปิดนภาให้แก่หยวนเจิ้งเฟิงอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

กลุ่มหยวนเจิ้งเฟิงได้เห็นรายงานของฟางจุ่นก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถึงอย่างไรเวลานี้ก็ยังคงตั้งใจฟังฟางจุ่นเองบรรยายด้วยคำพูด

ฟางจุ่นพูดจาเป็นระเบียบแบบแผนชัดเจน ภววิสัยเที่ยงธรรม ตรงที่ยังไม่แน่ใจนักสำหรับตนเอง ก็ไม่เพิ่มการตัดสินด้วยอัตวิสัยใดๆ เพียงแค่ยกข่าวคราวที่ตนรู้ เล่าออกมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์โดยไม่มีความรู้สึกส่วนตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี