ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 202

เยี่ยนจ้าวเกอมองดูเสาหินครึ่งท่อนที่แตกหักนั่น ในใจรู้สึกอิ่มเอิบอย่างยิ่งยวด

สำหรับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในตอนแรก เยี่ยนจ้าวเกอจดจำขึ้นใจเสมอมา การที่มีโอกาสสัมผัสร่องรอยซากวิกฤตการณ์ เป็นเรื่องที่เขารู้สึกสนใจอย่างยิ่งยวด

ทว่าเท่าที่เขารู้ จนถึงปัจจุบัน โลกแปดพิภพดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังมาก่อน

หนึ่งเดียวที่คล้ายกับจะจริงทว่าก็เหมือนกับไม่จริง คือการสืบทอดของเขากว่างเฉิงที่ตนอยู่ในตอนนี้ ใกล้เคียงกับวังเทพในช่วงเวลาอันคลุมเครือ เพียงแต่ว่ายังต้องรอการยืนยัน

นอกจากนี้แล้ว ตามข้อมูลข่าวสารที่เยี่ยนจ้าวเกอมีในขณะนี้ โลกแปดพิภพตั้งแต่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ จนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับวังเทพอีกเลย

เสาหินแตกหักท่อนนี้ที่ปัจจุบันโผล่ขึ้นมาในมหาทะเลทราย ณ วายุพิภพ กลับเป็นเศษซากที่เหลือหลังจากเสาทางเดินของวังเทพแต่กาลก่อนแตกหัก

สิ่งนี้ทำให้จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอพลันร้อนรุ่มขึ้นมา

ตนอยากจะสืบหารายละเอียดของวิกฤตการณ์ใหญ่ในอดีตมาโดยตลอด เทียบกับร่องรอยอื่นแล้ว ร่องรอยของวังเทพมีคุณค่ามากยิ่งกว่า

แม้ว่าโดยรูปลักษณ์ เสาหินจะพังเสียหายไปแล้ว กระนั้นเทียบกับร่องรอยอื่นๆ ส่วนใหญ่ กลับสามารถเก็บรักษาเบาะแสและข้อมูลได้มากยิ่งกว่า

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอจ้องมองเสาหินที่อยู่ในภาพลวงตาเงาแสงอย่างตั้งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาก็เอ่ยกับพวกหยวนเจิ้งเฟิงว่า “ลวดลายทั้งซับซ้อนทั้งเก่าแก่โดยแท้ คิดจะถอดความหมาย ยากเป็นอย่างยิ่งขอรับ”

“เพียงแต่ว่า จู่ๆ ข้าก็มีความคิดบางอย่าง แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าเอ่ยว่ามีความมั่นใจมากเท่าใด และจะสามารถนำเสาหินกลับมาได้หรือไม่?”

“หากได้ของจริงอยู่ในกำมือ คิดทบทวนอย่างละเอียด โอกาสถอดความหมายยิ่งสูงกว่า”

ผู้อาวุโสเหอส่ายศีรษะเล็กน้อย “เจ้าเองน่าจะรู้จักมหาทะเลทรายแดนตะวันตกของวายุพิภพ สถานการณ์ที่นั่นซับซ้อนเป็นอย่างมาก จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ล้วนยากจะทำตามอำเภอใจ”

นางก็กลัดกลุ้มใจอยู่บ้างเช่นกัน “เสาหินนั่น พัวพันยุ่งเหยิงอยู่กับพลังธรรมชาติของมหาทะเลทรายแดนตะวันตก ยากจะนำมันออกมาได้ ทำได้แค่เพียงปล่อยมันไว้ที่เดิม”

มุมปากเยี่ยนจ้าวเกอกระตุกเล็กน้อย

ความหมายคือ ตนเองต้องรุดหน้าไปหาเสาหินที่ตนเองใคร่เห็นด้วยตัวเอง?

หยวนเจิ้งเฟิงกล่าว “มีแนวคิดไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องราวไม่ได้รีบเร่ง ฤดูกาลปัจจุบันนี้ เป็นช่วงที่พายุนิมิตทมิฬของมหาทะเลทรายแดนตะวันตกรุนแรงที่สุด จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เข้าไปล้วนยังยากจะยึดครองความได้เปรียบ”

“รอให้ผ่านไปสองสามเดือน หลังพายุนิมิตทมิฬเบาลงแล้ว ค่อยเข้าไปเถิด”

“ร่องรอยนั่นรวมเป็นหนึ่งเดียวกับมหาทะเลทรายแดนตะวันตก ถึงแม้ว่ายากจะขุดค้นเคลื่อนย้ายก็ตาม แต่พวกเราขุดไม่ได้ คนอื่นก็ขุดไม่ได้เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผู้อื่นทำลายอีกด้วย”

เจ้าสำนักมองเยี่ยนจ้าวเกอ “จ้าวเกอเองก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบจนเกินไปนัก จำเรื่องราวให้ขึ้นใจไว้ก็พอแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ หยุดถ่ายปราณจิตราเข้าสู่ผลึกหิน ภาพลวงตาเงาแสงเบื้องหน้าพลันสลายหายไป

ชายหนุ่มมองดูเสาหินที่ค่อยๆ หายไปอยู่ตรงหน้า แววตาของเขาหยั่งลึกและเงียบสงัดอยู่บ้าง

สำหรับคนอื่นแล้ว นี่เป็นซากร่องรอยวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่ยากจะถอดความหมายทำความเข้าใจ

ทว่าสำหรับตนเองแล้ว นี่เป็นลูกกุญแจที่จะไขเรื่องราวอันยากจะเข้าใจ เป็นการวางแผนเพื่ออนาคตตนเอง ขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นจังหวะโอกาสอันดีเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตาลงชั่วครู่ บางทีก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีที่จะนำเสาหินออกมาจากภายในมหาทะเลทรายแดนตะวันตกเลย…

เพียงแต่ว่าเป็นดังเช่นหยวนเจิ้งเฟิงกล่าว ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน ภัยธรรมชาติเช่นพายุนิมิตทมิฬนี้ บ่อยครั้งที่ไม่ใช่พละกำลังมนุษย์จะสามารถต้านทานได้จริงๆ

มหาปรมาจารย์ที่ถูกพายุนิมิตทมิฬฉีกเป็นชิ้นๆ ล้วนไม่รู้ว่ามากเท่าไรแล้ว

ปีที่แล้วๆ มาสำนักเขานิมิตทมิฬ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์วายุพิภพหวังมาโดยตลอด ว่าจะสามารถควบคุมมหาทะเลทรายแดนตะวันตก และภัยพิบัติมากมายของที่แห่งนั้นให้ได้โดยสิ้นเชิง

กระนั้นจวบจนพวกเขาดับสูญสิ้นสุดลง ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จจริงๆ มาก่อน

เขตอิทธิพลที่ปัจจุบันสำนักเขากว่างเฉิง สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และสำนักเขาไร้พรมแดนแบ่งฮุบดินแดนวายุพิภพ แท้จริงแล้วล้วนก็เป็นการยึดครองสถานที่ที่สามารถบุกเบิกได้ พื้นที่แห้งแล้งขาดน้ำเหมือนเช่นมหาทะเลทรายแดนตะวันตกนั้น ควบคุมไว้เพียงแค่บริเวณรอบนอกเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี