เยี่ยนจ้าวเกอมองบรรดาฝูงชนวัยเยาว์เบื้องหน้า ไม่ได้กล่าวอะไรต่อไป
มีบางเรื่อง หากทำเลยเถิดเท่ากับไปไม่ถึงไหน กลับจะทำให้พวกเขารู้เรื่องราวมากยิ่งขึ้น น่าจะทำลายความกระตือรือร้นและความมั่นใจของพวกเขาไปเสียด้วยซ้ำ
พอถึงการฝึกฝนของระดับปรมาจารย์ นอกจากขั้นจิตราชั้นในระยะกลางและขั้นจิตราชั้นนอกระยะต้นแล้ว แม้ว่าความได้เปรียบในด้านเลือดลมและเนื้อหนังมังสาของอิงหลงถูจะยังคงเห็นได้ชัด ทว่าไม่ได้ฝืนฟ้าอะไรเช่นนั้นอีกต่อไป
หลังจากประสบผลสำเร็จระดับปรมาจารย์แล้ว ความได้เปรียบในด้านเลือดลมและเนื้อหนังมังสาของอิงหลงถู จะแสดงออกในด้านการต่อสู้จริงเป็นส่วนใหญ่ ความเร็วในการฝึกฝนประจำวัน ไม่น่าตื่นตะลึงอะไรเช่นนั้นอีกต่อไป
ถึงกระนั้น ร่างจิตนภา นอกจากโลหิตดุจมังกรดุจหัตถีแล้ว ยังมีลักษณะเด่นในความคิดอันปราดเปรียว ปฏิกิริยาโต้ตอบฉับไวอีกด้วย
ด่านหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ระดับปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกจะเข้าปะทะระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภา ฝึกปราณจิตราจนปรากฏสติปัญญา ด่านนี้ที่จอมยุทธ์จะเกิดแรงบันดาลใจและตระหนักรู้ สำหรับหลงถูแล้วก็ง่ายดายกว่าคนทั่วไปมากเช่นกัน
ขณะเดียวกัน ข้อได้เปรียบข้อนี้ ในการฝึกฝนภายหลัง รวมไปถึงระดับขั้นที่สูงยิ่งขึ้น จะเกิดผลกระทบลึกซึ้งและยาวนานอยู่ตลอด
ตัวเยี่ยนจ้าวเกอเองก็ปรับแก้จุดอ่อน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายตนเองตลอดเวลา ผ่านจังหวะโอกาสและวิธีการหลากหลายรูปแบบในกระบวนการฝึกฝนยามปกติ
ซึ่งฝึกกายเพชรจนถึงขั้นสุดเฉกเช่นสือเถี่ย ร่างกายยิ่งประดุจเพชรเคลือบสีก็ไม่ปาน พลังป้องกันร่างกายเหนือกว่าจอมยุทธ์ทั่วไปเป็นอย่างมาก
สถานการณ์คล้ายคลึงยังมีอีกไม่น้อย เพียงแต่ล้วนเป็นการฝึกฝนจนประสบผลสำเร็จในภายหลัง ไม่เหมือนเช่นอิงหลงถู ที่เป็นมีพรสวรรค์เป็นต้นทุน
เยี่ยนจ้าวเกอมองฝูงชนพลางกล่าว “พรสวรรค์ดี นั่นหมายความว่าจุดเริ่มต้นอยู่สูง แต่ไม่อาจตัดสินผลสำเร็จในท้ายที่สุดได้ ที่สุดแล้วทั้งหมดทั้งมวลนี้ยังคงต้องพึ่งตนเอง”
“ความคิดหลงถูไม่ซับซ้อน มุ่งมั่นศึกษาหมั่นเพียรฝึกฝน แท้จริงแล้วผู้คนรอบข้างไม่จำเป็นต้องพะวักพะวนมากไปกว่านี้”
“ตรงกันข้ามคือทุกๆ คน ยิ่งอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งจะระงับสภาวะจิตใจไว้” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างเฉยเมย “ไม่กลัวว่าพรสวรรค์ของคนอื่นจะดีกว่าเจ้า แต่กลัวคนที่พรสวรรค์ดีกว่าเจ้า แล้วพยายามมากกว่าเจ้า”
“จุดเริ่มต้นล้าหลังกว่าแล้ว ในระหว่างไล่ตามให้ทันไม่ออกแรงให้มากขึ้น จะไล่ตามคนที่นำหน้าอยู่ได้อย่างไร?”
ชายหนุ่มปรบมือเบาๆ “เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่หวังให้ผู้ที่นำหน้าตนอยู่ล้มลงเท่านั้น เรื่องที่พิงโชคล้วนๆ เช่นนี้ พวกเจ้าคิดว่าพึ่งได้อย่างนั้นหรือ?”
บรรดาศิษย์อ่อนอาวุโสล้วนรู้สึกตื่นตัวอยู่ภายในใจ เมื่อได้รับการสั่งสอนอย่างเข้มงวด “ขอบคุณศิษย์พี่เยี่ยนที่ชี้แนะ ข้ารอคอยที่จะตั้งใจฝึกฝน”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันศีรษะกลับไปมองเฟิงอวิ๋นเซิงแวบหนึ่ง
เท่าที่เขารู้ หญิงสาวเรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของผู้ไล่ตามแล้ว
คนบ้าระห่ำฝึกฝนอย่างสือเถี่ยและฟู่เอินซูเช่นนั้น ต่างก็ชมเชยนางมากยิ่งขึ้น
พรสวรรค์ของนางสุดยอดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยการมุมานะพากเพียร พลังฝึกปรือจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ดึงดูดสายตาเหมือนเช่นอิงหลงถูกขนาดนั้นก็ตาม ทว่าก็ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงเพราะนางด้วยเช่นกัน
เฟิงอวิ๋นเซิงกลับมีสีหน้าเหมือนเช่นปกติ มองดูเหล่าฝูงชนศิษย์วัยเยาว์พลางยิ้มน้อย กระนั้นครั้นนางสบสายตากับเยี่ยนจ้าวเกอวูบหนึ่ง พวกเขาต่างก็ถอนใจไร้สุ้มเสียง
ถึงแม้ว่าหลักการปลุกใจของเยี่ยนจ้าวเกอจะไม่เลว กระนั้นเหล่าผู้วัยเยาว์คนอื่นคิดอยากจะไล่อิงหลงถูให้ทัน ความยากยังคงมากมายยิ่ง
ในโลกที่อารยธรรมวิทยายุทธ์เจริญงอกงามขึ้น ความได้เปรียบเฉพาะตัวอันแก่กล้า หลายต่อหลายครั้งไม่ใช่เรื่องที่ปริมาณจะสามารถชดเชยได้
ไม่ใช่เพียงแค่อิทธิพลดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งหก เช่นสำนักเขากว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังชั้นหนึ่งหรือสอง หรือกระทั่งต่ำกว่านั้นอีก ล้วนจะพยายามอบรมบ่มเพาะผู้สืบทอดที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างสุดกำลัง
ทรัพยากรสุดท้าย จัดให้คนกลุ่มน้อยเป็นสิทธิพิเศษตลอดเวลา นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ด้วยเหตุนี้จึงสร้างสถานการณ์ที่ยอดฝีมือยิ่งแข็งแกร่งได้ง่ายอย่างมาก
ข้อมูลที่เยี่ยนจ้าวเกอล่วงรู้นั้น มากเสียยิ่งกว่าเฟิงอวิ๋นเซิง
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ พิธีชำระล้างน้ำพุกิเลนของเขากว่างเฉิง เดิมเหลือใช้ได้เพียงสามครั้ง หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอเองและเฟิงอวิ๋นเซิงได้รับพิธีชำระล้าง ปัจจุบันเหลือใช้ได้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ซึ่งพิธีชำระล้างน้ำพุกิเลนครั้งนี้ ปัจจุบันเป็นไปได้อย่างน้อยแปดส่วนที่จะตกเป็นของอิงหลงถู
ส่วนลู่เวิ่น ศิษย์สืบทอดหลักเขากว่างเฉิงเช่นเดียวกันกับเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้ที่เฝ้านึกถึงพิธีชำระล้างน้ำพุกิเลนมาโดยตลอด เกรงว่าความหวังของเขาจะสูญสลายไปโดยสิ้นเชิงเสียแล้ว
นี่ยุติธรรมสำหรับลู่เวิ่นหรือไม่? ถ้าหากเขาล้วนแกร่งกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิง และอิงหลงถูทั้งสามคน เช่นนั้นก็ต้องไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี