ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 239

ในสายตาเยี่ยนจ้าวเกอปรากฏเงามืดกลุ่มหนึ่งวับวาบ แปลกตาทว่าก็คุ้นเคย

เอ่ยว่าแปลกตา เป็นเพราะก่อนหน้าเคยพบพานทั้งหมดเพียงสองครา

เอ่ยว่าคุ้นเคย เป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอเคยได้กลิ่นอายความตายภายใต้กระบี่ของเขา

ผู้มาเยือนสวมหน้ากากดำสนิทเอาไว้บนใบหน้า สวมหมวกบังลม พันโพกตั้งแต่ศีรษะจนถึงเท้าอยู่ภายในเสื้อคลุมสีดำ ราวกับเมฆดำสะกดท้องฟ้า

สีสันเพียงหนึ่งเดียวทั่วร่าง มีเพียงลูกตาดำที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งกำลังฉายแสงโลหิตออกมาคู่นั้น กับประกายกระบี่ริบหรี่ที่เปล่งแสงระยิบระยับในฝ่ามือเขา!

เป็นกระบี่อันไร้ซึ่งสุ้มเสียง ที่แทงตรงมาทางเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง

เทียบกับการลอบจู่โจมสังหารคราก่อนในเขตไอมารที่ทะเลสาบปิดนภาแล้ว ชายชุดดำถูกอาหู่ทำให้เผยไต๋ ลงมือครานี้ไม่ได้จึงอำพรางเช่นนั้นอีก หากแต่ทวีความรวดเร็วและรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ!

ประกายกระบี่อันมืดสลัวดุจสายฟ้าแลบดำสนิทสายหนึ่งแทงใสยังเยี่ยนจ้าวเกอ

ดวงตาราชันสายฟ้าในดวงตาข้างขวาของเยี่ยนจ้าวเกอ กำลังแข่งประลองกำลังกับเสื้อคลุมขนกระเรียนที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

การรุกโจมตีของมหาปรมาจารย์ชุดดำ มาได้อย่างพอดีกับจังหวะโอกาสที่เยี่ยนจ้าวเกอมิอาจแยกสมาธิทำเรื่องอื่น ทั้งว่องไว แม่นยำ และเด็ดขาด!

ต้องการให้เยี่ยนจ้าวเกอถึงสถานตายในการโจมตีคราเดียว!

ร่างเยี่ยนจ้าวเกอประหนึ่งสายฟ้าฟาดครั่นครื้นอย่างไรอย่างนั้น ความเร็วทั้งกายยกระดับถึงขีดสุด ฉายวาบไปข้างๆ อย่างว่องไว

พิจารณาจากความเร็วและการเคลื่อนไหวร่าง เทียบกับจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ที่โดดเด่นที่สุดในระดับเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอยังเหนือยิ่งกว่าไม่น้อย!

ถึงแม้ผู้มาเยือนจะมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ หากแต่ท่าทีของเขาไม่ใช่การลอบจู่โจมสังหาร เยี่ยนจ้าวเกอจึงหลบหลีกกระบี่ที่แทงมาในครั้งนี้ได้สำเร็จ

กระนั้นประกายกระบี่ของผู้มาเยือน ภายใต้การส่องแสงสลัววามวาบ กระบี่หนึ่งเร็วยิ่งกว่าอีกกระบี่หนึ่ง ไล่ตามร่างของเยี่ยนจ้าวเกอมาติดๆ

ดูเหมือนว่าการรุกโจมตีของอีกฝ่าย ชื่อเสียงและพลังไม่รุนแรงเฉกเช่นพวกอาหู่ขนาดนั้น หมัดต่อฝ่ามือส่งเสียงดังลั่น โดยรอบยุ่งเหยิงระเกะระกะทั้งผืน พื้นดินหินผาจำนวนมากแหลกละเอียดเป็นผุยผง

ทว่าในประกายกระบี่ที่ดูเหมือนว่ามืดสลัวริบหรี่เล่มนั้น กลับคล้ายว่าโอบอุ้มก่อตัวพลังอันน่าหวาดหวั่นยิ่งไว้

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ฉงนใจแม้แต่น้อย ถ้าหากขณะตนเองถูกประกายกระบี่สายนี้แทงเข้า เนื้อหนังมังสาที่ฝึกฝนหมัดนอแรดและหมัดวิญญาณสยบคลื่น ผ่านการฝึกฝนต่อสู้โชกโชน แข็งแกร่งทนทานทว่ายืดหยุ่น คงจะแทงทะลุในชั่วพริบตา

กระนั้นเขาแยกแยะวิถีวรยุทธ์พลังฝึกปรือของอีกฝ่ายออกแล้ว

วิชาอับแสงสังการ รวมศูนย์พลังเป็นเส้นเดียว รวบรัดดาใดเปรียบ ไม่มีสิ่งใดไม่อาจทำลาย ปราณจิตราเกาะกลุ่มถึงขั้นที่เก็บซ่อนลำแสงและสุ้มเสียง ดุจเทพเซียนอำพรางปรีชาของตน

มีเพียงยามเก็บเกี่ยวชีวิตคู่ต่อสู้เท่านั้น จึงจะค่อยปะทุท่วงทีอันพร่างพราวออกมา

สิ่งเดียวที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอระแวดระวังก็คือ อาวุธของคู่ต่อสู่ในขณะนี้ เป็นอาวุธวิญญาณระดับล่างชิ้นหนึ่ง

อาวุธวิญญาณระดับล่าง เยี่ยนจ้าวเกอมีมากมาย เยอะยิ่งกว่าจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์คนไหนเสียอีก

ภายในนั้นส่วนมากเป็นอาวุธที่เขายึดมาจากมือศัตรูที่ปราชัยให้กับเขา

แต่ปัญหาอยู่ที่เจ้าของอาวุธในอดีตเหล่านี้ โดยส่วนมากเป็นจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์เฉกเช่นเยี่ยนจ้าวเกอ

ซึ่งแท้จริงแล้วจอมยุทธ์ปรมาจารย์ นับเป็นผู้อับจนหนทางสำแดงอานุภาพของอาวุธวิญญาณได้โดยสิ้นเชิง!

ส่วนมหาปรมาจารย์กลับต่างออกไป แม้ว่าคู่ต่อสู้เบื้องหน้าจะเป็นเพียงมหาปรมาจารย์ขั้นหนึ่ง ขั้นซ่อนจิตระยะแรก ทว่ามีอาวุธวิญญาณระดับล่างชิ้นหนึ่งในมือ กลับคล้ายพยัคฆ์ติดปีกไม่ปาน!

อาวุธวิญญาณที่อยู่ในมือมหาปรมาจารย์ กับอาวุธวิญญาณที่อยู่ในมือปรมาจารย์ เป็นสองมโนภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

จู่ๆ มหาปรมาจารย์ชุดดำผู้นี้ก็ขยับมือขึ้น ไม่เอื้อนเอ่ยสักคำ เพียงแสดงวิชาอับแสงสังหารของตนเองอย่างเต็มที่ สำแดงอานุภาพของกระบี่ยาวอันเป็นอาวุธวิญญาณในมือออกมาทั้งหมด

ประกายกระบี่เลือนราง ดูเหมือนริบหรี่มืดสลัว กระนั้นกระบี่หนึ่งฉับไวกว่าอีกกระบี่ กระบี่หนึ่งแกร่งกล้ากว่าอีกกระบี่ ปลดปล่อยพลังราวย้ายภูเขาถมสมุทร จู่โจมมาทางเยี่ยนจ้าวเกอ!

เศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าถูกเสื้อคลุมขนกระเรียนตรึงเอาไว้ชั่วคราว การที่เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ตรงหน้า จึงไม่ง่ายเช่นกัน

อาหู่ที่อยู่นอกห้องกราดเกรี้ยวเหลืออด แสดงพลังทั้งปวง ต้องการถลาเข้าไปในกระท่อม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี