หากถกเฉพาะเจาะจงถึงระดับพลังฝึกปรือ จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงที่บุกเข้าสู่ภายในลานที่พักอาศัยในดินแดนบรรพชนตระกูลหวังคราวนี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่ใช่จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงที่สุด
หากแต่พูดถึงระดับความเข้าใจในมหาค่ายกลแดนมารตรงหน้าแล้ว ไม่มีใครเหนือไปกว่าเขา
เยี่ยนจ้าวเกอมุ่งไปข้างหน้าตลอดทาง นับเป็นคนที่เข้าใกล้เจดีย์สูงสีทองศูนย์กลางมหาค่ายกลแดนมาร เหนือดินแดนบรรพชนตระกูลหวังที่เร็วที่สุดด้วยซ้ำไป
บนเจดีย์สูงสีทอง ขณะนี้มีแสงสีแดงเปล่งประกายวามวาว เกาะกลุ่มกลายเป็นประตูแสงสายหนึ่ง ทอดเงาลงไปยังเบื้องล่าง
ลวดลายค่ายกลแต่ละสายประหนึ่งสายโซ่สีดำ พันเกี่ยวอยู่บนเจดีย์สูงสีทอง ลวดลายค่ายกลยื่นขยายไปทั่วสารทิศภายในไอมาร
ทว่าจริงอย่างที่สือเถี่ยกล่าว ทำลายมันเสีย ไม่ต้องรอให้มหาค่ายกลแดนมารเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจนถึงที่สุด
กลุ่มของเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงอย่างเร็วรี่ บัดนี้มหาค่ายกลแดนมารเพิ่งจะตั้งขึ้นมา ยังไม่ได้โคจรอย่างแท้จริง
เจดีย์สูงสีทองและลวดลายค่ายกลทุกสายที่พันรอบอยู่บนนั้น ดูเหมือนว่าเลือนรางลวงตาเช่นกัน ไม่ได้ควบแน่นกลายเป็นจริงอย่างถึงที่สุด กระทั่งประตูแสงที่แปรสภาพมาจากแสงแดงนั่น ล้วนปรากฏให้เห็นว่าอ่อนแออย่างยิ่งยวด แม้จะกำลังทอดเงาลงไปเบื้องล่าง กระนั้นก็เพิ่งจะเป็นรูปเริ่มต้นเท่านั้น
หากแต่พลังปราณน่าหวาดหวั่นและมอมเมาจิตใจคนที่มีต้นกำเนิดจากนพยมโลก เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่เคลื่อนพ้นไป
เยี่ยนจ้าวเกอพุ่งพรวดไปทางเจดีย์สูง เฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ ยังมีพ่านพ่าน รวมถึงจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นๆ ส่วนหนึ่งก็ตามมาเช่นกัน
ขณะนี้เฟิงอวิ๋นเซิงลงมาจากหลังพ่านพ่านแล้ว นางกุมดาบยาวสีดำสนิทไร้ประกายเล่มหนึ่ง จนมั่นคงแนบแน่นอยู่ในมือ
ระหว่างที่มือยกดาบขึ้นฟันลงมา ผู้กลายเป็นมารคนหนึ่งก็ล้มลงภายใต้ดาบของนางแล้ว
คู่ต่อสู้คนหนึ่งอยู่ห่างออกไป ในมือยกชูกงล้อมหึมาล้อหนึ่ง เส้นผ่านศูนย์กลางเกือบสองหมี่
บริเวณขอบกงล้อเป็นคมมีดเฉียบแหลมที่เวียนรอบทั้งสิ้น ราวกับฟันเลื่อยแถบหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
อีกฝ่ายตะโกนร้องเสียงดัง ภายใต้การสั่นไหวของปราณจิตรา ก็ยกกงล้อนี้ขึ้นขว้างมาทางกลุ่มของเฟิงอวิ๋นเซิง!
ด้วยการหมุนของกงล้อนั้น คมมีดพลันหายไปไม่พบ เห็นเพียงแสงสีทองเปล่งประกายบริเวณขอบ เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อคล้ายกับขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าในทันใด ทวีความโหดร้ายน่าประหวั่นยิ่งกว่าเดิม
กงล้อมหึมาลอยฉวัดเฉวียนกลิ้งมา พลังที่แผ่ออกมาน่าตื่นตะลึง ต้องการฟันร่างกายของกลุ่มเฟิงอวิ๋นเซิงจำนวนสิบกว่าคนให้ขาดพร้อมกันในหนเดียว!
จอมยุทธ์กว่างเฉิงคนอื่น พากันกุลีกุจอหลีกทาง
จอมยุทธ์กว่างเฉิงที่ระดับพลังสูงกว่าเฟิงอวิ๋นเซิงคนหนึ่ง กระโดดลอยตัวขึ้น ปลายเท้าอยู่บริเวณกลางกงล้ออย่างแม่นยำ
สายตา ความสามารถในการตัดสินใจ และความเร็วล้วนยอดเยี่ยมถึงที่สุด หลีกลี้กงล้อผ่านไปได้สำเร็จ ก่อนจะถือโอกาสถลันพุ่งไปทางชายผู้นั้นที่ขว้างล้อมา
ครั้นหลบหลีกและบุกจู่โจมได้ในกระบวนท่าเดียว ผู้คนที่เห็นก็อดส่งเสียงชื่นชมเซ็งแซ่ไม่ได้
เฟิงอวิ๋นเซิงกลับเหมือนว่าเหม่อลอย ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
เพิ่งมีคนจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจ ก็แลเห็นเฟิงอวิ๋นเซิงพลันชูดาบยาวสีดำในมือขึ้น!
ชั่วขณะถัดมา ดาบก็คล้อยลงมา!
เสียงปะทะเสียดสีอันแหลมเสียดหูดังขึ้น จากนั้นก็เห็นกงล้อพลันแบ่งจากหนึ่งกลายเป็นสอง แฉลบผ่านทั้งสองฟากร่างของเฟิงอวิ๋นเซิงผ่านไป ลอยกระเด็นออกไปทางด้านหลังไกลลิบ แล้วจึงตกกระแทกลงที่พื้น
ครั้นดาบหนึ่งของเฟิงอวิ๋นเซิงออกไป เท้าแตะลงแผ่วเบา ทั้งกายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วจึงตกลงมาราวกับฝนดาวตก!
พริบตาเดียวขนาบชิดเบื้องหน้าคู่ต่อสู้คนหนึ่ง คมดาบอันเย็นเยียบบ้าระห่ำบุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่ ฟันลงจากเหนือศีรษะ จากนั้นกดลงต่อเนื่อง ผ่าคู่ต่อสู้ผู้นั้นจากกึ่งกลางตามแนวแบ่งจากหนึ่งเป็นสองซีก!
ท่าทางเหี้ยมโหดเช่นนี้ ออกมาจากมือของสาวงามแฉล้ม ขั้วตรงข้ามเด่นชัดจนทำให้ทุกคนต่างต้องชายตามอง
กระนั้นหลังคมดาบผ่าลงมาสังหารศัตรูคนนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงกลับไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
ราวกับว่าเคยชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติ นางพลิกหมุนฝีเท้า กระโจนเข้าหาคู่ต่อสู้อีกคนหนึ่งโดยไม่มีความลังเลใดๆ
พ่านพ่านตามติดอยู่หลังกายเฟิงอวิ๋นเซิง ถึงแม้ว่าแท้จริงแล้วพลังของมันตอนนี้จะแกร่งกว่าเฟิงอวิ๋นเซิงก็ตาม ทว่าเมื่อเห็นภาพฉากนี้ ดวงตากลมโตทั้งสองข้างก็พลันกะพริบปริบๆ หดคออันอ้วนท้วนลงตามใต้จิตสำนึก
คนอื่นๆ ตามหลังมาติดๆ สามารถตามฝีเท้าของตนได้ทัน เยี่ยนจ้าวเกอในฐานะคมดาบ ก็ฝ่าทะลวงอยู่เบื้องหน้าไม่หยุดยั้ง รับหน้าที่เบิกทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี