ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 253

‘สงครามนี้ ยอดฝีมือของฝ่ายศัตรูเองก็น้อย นอกจาก ซือหม่าฉุย ‘ราชันมังกร’ แล้ว ก็ไม่มีมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณคนไหนอีก’ เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งมองเจดีย์สูงสีทองนั่น พลางจมสู่ห้วงความคิด

อาหู่ยิ้มกว้างเห็นฟัน “แม้ว่าจะมีการดักซุ่ม แต่การทำลายมหาค่ายกลแดนมารนี้ก่อน ถึงอย่างไรก็ไม่น่าผิดไปได้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่สามารถทำให้นพยมโลกมาถึงที่นี่ได้กระมัง?”

“อีกทั้งทำลายมหาค่ายกลแดนมารแล้ว ศัตรูก็สูญเสียข้อได้เปรียบชัยภูมิเช่นกัน”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้เอ่ยตอบ เพียงมองรอบๆ ทั้งสี่ด้าน และมองลวดลายแต่ละสายที่ตัดสลับกันนั่น เริ่มคิดคำนวณทบทวนในใจไม่หยุดหย่อน

หลังจากเหตุปั่นป่วนที่ทะเลสาบปิดนภา เยี่ยนจ้าวเกอได้รับบทเรียนและประสบการณ์ กัดฟันพยายามทุ่มเวลาในด้านวิถีค่ายกลอย่างแท้จริงครั้งหนึ่ง

ถึงแม้จะมีเวลาจำกัด ไม่สามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินในชั่วประเดี๋ยวได้ ทว่าก็มีความก้าวหน้าที่ฉับไวเช่นกัน

‘มหาค่ายกลแดนมารนี้ ท้ายที่สุดแล้วมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะให้นพยมโลกมาถึง เป็นค่ายกลที่ทำลายเส้นเขตมิติเวลา’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ ‘กระนั้น หากต้องการลอบทำด้วยเล่ห์กลล่ะก็ จะเป็นที่ด้านมิติแปรปรวนด้วยหรือไม่?’

‘เปิดประตูสวนทาง ส่งพวกเราไปยังนพยมโลกจากโลกแปดพิภพแห่งนี้หรือ? แต่ก็รู้สึกว่าไม่เหมือน…’

เยี่ยนจ้าวเกอคิดหาวิธีปัญหาแบบแผนค่ายกลไม่ตก ความคิดเหลือคณานับผุดขึ้นในใจราวกับสายฟ้าแลบ

ที่แห่งนี้เขากับอาหู่หยุดมือแล้ว ยอดฝีมือเขากว่างเฉิงคนอื่นๆ กลับไม่ได้หยุดฝีเท้าบุกเข้าโจมตี

มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณคนหนึ่ง ใช้กระบวนท่าดาบวิญญาณแปดฉากผ่าออกไป พลังปราณดั้งเดิมกลายสภาพเป็นม่านแสงกั้น คลุมเจดีย์สูงสีทองนั่นไว้

ชั่วขณะถัดมา ม่านแสงกั้นรอบทิศนั้นแตกกระจายออกพร้อมกัน เชื่อมกับเจดีย์สูงสีทองที่เดิมก็จะล้มแหล่มิล้มแหล่ เริ่มถล่มพังทลายลงในที่สุดเช่นกัน

ชายหนุ่มตั้งใจสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของการพังทลายเจดีย์สูงสีทอง และมหาค่ายกลแดนมาร

ชั่วเวลาฉับพลันนั้น เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นถึงปัญหา

เปรียบเทียบการโคจรของมหาค่ายกลแดนมารในตอนนี้ กับมหาค่ายกลใต้ทะเลสาบปิดนภาที่ถูกเขาทำลายสิ้นครั้งนั้น ทั้งสองหาได้แตกต่างกันไม่ หนำซ้ำยังเหมือนกันทุกประการ

ทว่าเมื่อถึงตอนที่มหาค่ายเกิดเริ่มผันกลับดับสูญ กลับมีความต่างเล็กน้อย

เจดีย์สูงสีทองกำลังถล่ม ประตูแสงสีแดงดับลงในที่สุด ลวดลายค่ายกลสีดำราวกับสายโซ่ทุกสายขาดสะบั้นอย่างต่อเนื่อง

ไอมารสีดำอันเข้มข้นในโลกหล้าเริ่มไหลย้อนเข้าสู่ภายในร่างกายผู้กลายเป็นมารที่อยู่ที่นี้ ทำให้พวกเขาเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่

ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็คล้ายคลึงกัน ประหนึ่งภาพฉากครั้งในทะเลสาบปิดนภาปรากฏขึ้นอีกครั้ง

มีเพียงหนึ่งอย่างที่ไม่เหมือน!

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกถึงพลังของมหาค่ายกลแดนมารแห่งนี้ คล้ายกับกำลังถูกนำพาไปยังสถานที่อื่นอย่างคลุมเครือ ตามการถล่มลงของเจดีย์สูงสีทอง!

เขาเชิดศีรษะขึ้นทันใด บัดนี้ไม่มีเวลากล่าวมากความ ชายหนุ่มกระโดดลงจากเสาทางเดินวังเทพ จากนั้นยกเสาขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง พุ่งไปทางเจดีย์สูงสีทองที่กำลังถล่มลงอย่างรวดเร็ว

จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นๆ มองดูเยี่ยนจ้าวเกอยกเสาทางเดินวังเทพมหึมาพุ่งพรวดไปทางเจดีย์สูงสีทอง ต่างก็รู้สึกงุนงงอยู่บ้าง “ศูนย์กลางค่ายกลก็กำลังจะล่มสลายแล้ว เขากำลังจะทำอะไร ละโมบความดีความชอบรึ?”

“แต่หากว่าละโมบความชอบล่ะก็ พวกเราหลายคนเช่นนี้เห็นอยู่ เจ้านำหน้าทลายค่ายกล ช่วยเหลือทุกคนตีฝ่าเข้ามา ไหนเลยความชอบชั้นแรกจะขาดส่วนหนึ่งของเจ้าไปเล่า”

มหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณที่เข้าใกล้เจดีย์สูงสีทองนั้นที่สุด ยามนี้ก็มองทางเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความงงงันเช่นกัน พลางมุ่นคิ้วเล็กน้อย “จ้าวเกอไม่ต้องห่วง ดาบนั่นของข้าดาบเดียว รับรองได้ว่าทำลายเจดีย์สูงสีทององค์นี้ได้…”

ไม่รอให้เขากล่าวจบ เยี่ยนจ้าวเกอกระวีกระวาดตัดบท “ท่านผู้อาวุโสฉง รักษาเจดีย์นี้ไว้ก่อน อย่าให้มันพังลงมา!”

ครั้นประโยคนี้ออกจากปากชายหนุ่ม ทุกๆ คนก็อ้าปากตาค้าง

แม้แต่จอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตกับผู้กลายเป็นมารที่ยังคงเหลือรอดอยู่ในที่นี้ ต่างก็ตะลึงงันอยู่กับที่ ตกอยู่ในภวังค์มองดูเยี่ยนจ้าวเกอ

กระทั่งในฝันผู้อาวุโสฉงก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะโพล่งประโยคเช่นนี้ออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี