พ่านพ่านพุ่งพรวดออกมาฉับพลัน ร่างที่ยามปกติดูเหมือนว่าอ้วนถ้วนงุ่มง่าม ชั่วขณะนี้เร็วปราดดุจสายฟ้าแลบ ก้มศีรษะคาบไข่มุกสายฟ้าตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอขึ้น แล้วจึงวิ่งออกไปไกลอย่างฉับไว
ชั่วเสี้ยวขณะถัดมา เสียง ‘โครม’ ดังสนั่น แสงอสนีบาตดำมืดระเบิดตูม ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
เยี่ยนจ้าวเกอเบิกตาโพลง มองดูทิศทางที่ควันโขมงหนานั้น พื้นดินแต่เดิมถูกระเบิดจนเกิดเป็นหลุมโพรงมหึมาหลุมหนึ่ง
สายฟ้าโลกันตร์ระเบิดปะทุ กลิ่นอายเหี้ยมโหดดุร้ายแพร่สะพัดทั้งสี่ทิศ ส่งผลกระทบต่อประสาทสัมผัสของเยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เขาได้แต่เพียงร้อนรน
การขับเคลื่อนเศษชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าและเสาทางเดินวังเทพอย่างต่อเนื่อง ผลาญพลังเยี่ยนจ้าวเกอมากยิ่ง ความรู้สึกอ่อนแรงประหนึ่งน้ำลดค่อยๆ คืบคลานเข้ามา
ฉับพลันนั้น เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ส่งเสียงโห่ร้องดีใจออกมาพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นก็เห็นว่าในกลุ่มควันโขมง เงาร่างอ้วนโตร่างหนึ่ง ระคนด้วยความรู้สึกปราดเปรียวว่องไวหลายส่วน ทะลุออกมาจากภายในนั้น
พ่านพ่านที่ซุกซนไร้เดียงสากลับมาอยู่ข้างกายเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง แลบลิ้นเลียชายหนุ่มเบาๆ
ดูจากท่าทางของมันแล้ว คงโยนสายฟ้าโลกันตร์ทิ้งทันควัน ไม่ได้โดนสายฟ้ารุนแรงนั้นทำให้บาดเจ็บแต่อย่างใด เพียงแค่ถูกลูกหลงเฉียดแฉลบผ่านไปก็เท่านั้น
เยี่ยนจ้าวเกอพลันผ่อนลมหายใจ ความรู้สึกอ่อนเพลียหมดแรงยิ่งล้นทะลักทวี แทบจะท่วมนองตนเองแล้ว
ในตอนนั้นเขายังคงพยายามประคองสติ ก่อนจะเบือนศีรษะกลับไปมองอีกด้าน
ที่นั่น สือเถี่ยรวมพลังกับผู้อาวุโสสูงสุดเกาะทราย ปราบระงับเหวลึกสีแดงก่ำไว้ได้ในที่สุด
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ฝืนลุกขึ้น มือซ้ายคว้าเก็บแสงวามวาบ พลางส่งเสียงระบายความอัดอั้น ก่อนที่มือขวาจะชกหมัดหนึ่งออกไป
ภายใต้การปลุกกระตุ้นเจตจำนงหมัดวรยุทธ์ มหาค่ายกลแดนมารที่รากฐานได้ล่มสลายไปแล้วพลันเปล่งแสงขึ้นมาอีกครั้ง และพลังยังแข็งแกร่งเกรียงไรอย่างยิ่งอีกด้วย ราวกับแสงสายัณห์ยามตะวันรอนก็ไม่ปาน
“ท่านอาจารย์ลุงใหญ่ เตรียมตัวให้ดี” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเสียงทุ้ม
สือเถี่ยผงกศีรษะ จากนั้นลวดลายค่ายกลสีดำแต่ละสายประหนึ่งสายโซ่ ก็กรูเข้ามาพันรอบร่างของสือเถี่ย
ลวดลายค่ายกลสีดำรวมตัวกันโดยมีสือเถี่ยเป็นศูนย์กลาง เยี่ยนจ้าวเกอพลันย่อกายนั่งลง คุกเข่าลงข้างหนึ่ง หมัดมือขวาหมัดหนึ่งชกลงไปบนพื้นดินโดยตรง!
มหาค่ายกลแดนมารพลิกผันเสียงดังอึกทึก ลวดลายค่ายกลแต่ละสายย้อนกลับโดยมีสือเถี่ยเป็นศูนย์กลาง ฉุดดึงไอมารสีแดงโลหิตที่เหมือนกับไร้ขอบเขตสิ้นสุดโดยรอบ พรั่งพรูไปทางเขา
สีหน้าท่าทางสือเถี่ยเด็ดเดี่ยวหนักแน่น ไม่เห็นความไหวหวั่นแม้แต่น้อย ทั่วทั้งร่างประหนึ่งแปลงเป็นเพชร แข็งแกร่งนิรันดร์ ไม่เขยื้อนไม่สั่นไหว
เขาเฉกเช่นหินโสโครกริมทะเลอย่างไรอย่างนั้น ต่อให้เจอลมโหมพัด ห่าฝน หรือแม้กระทั่งคลื่นทะเลสาดซัด ก็ตั้งตระหง่านไม่ไหวติงอยู่เสมอ
ครั้นยามลวดลายค่ายกลสีดำดึงลากไอมารสีโลหิตมายังร่างกายเขา สือเถี่ยพลันประกบสองมือเป็นวงแหวน แล้วจึงซัดสาดไปยังเหวลึกแดงก่ำเบื้องล่าง
ไอมารสีโลหิตจำนวนมากพลันไหลผ่านร่างกายของเขา ถูกเทสู่ภายในเหวลึกแดงก่ำต่อเนื่องไม่ขาดสาย
เยี่ยนจ้าวเกอพ่นปราณขุ่นมัวออกมายาวๆ คำหนึ่ง แล้วค่อยสูดอากาศเข้าลึก ราวกับวาฬดูดน้ำอย่างไรอย่างนั้น
เขาผุดลุกขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะสืบเท้ารุดหน้า โผนกระโจนไปยังเบื้องหลังสือเถี่ย
หมัดซ้ายที่เยี่ยนจ้าวเกอเก็บไว้ช่วงเอว ชกตรงออกไปบนแผ่นหลังสือเถี่ยดังสนั่น
สือเถี่ยรับหมัดไม่สะทกสะท้าน มหาค่ายกลแดนมารพลิกผันกลับตามหมัดนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ โซ่ลวดลายค่ายกลทั้งหมดย้อนกลับพร้อมกันจากแผ่นหลังสือเถี่ย โดยมีหมัดซ้ายเยี่ยนจ้าวเกอเป็นศูนย์กลาง กลายเป็นลายภาพที่ผิดแผกและยังซับซ้อนลายหนึ่ง สลักอยู่ในอากาศเปล่า
เบื้องล่าง เหวลึกแดงก่ำสะท้อนความแน่วแน่ไม่ยินยอมออกมา หากแต่กลับประกบปิดในที่สุด ด้วยอานุภาพที่ไม่อาจขัดขวางได้!
พื้นดินกว้างที่แตกระแหงปิดสนิทอีกครั้ง มิติเวลาที่บิดเบี้ยวฟื้นคืนกลับเป็นปกติ
นพยมโลกที่กำลังย่างกรายแห่งนี้ ถูกอุดปิดกลับไปอย่างทุลักทุเล
เยี่ยนจ้าวเกอร้องคำรามลากเสียงยาว อาคมพิสดารที่ลอยอยู่ระหว่างหมัดซ้ายของตนและแผ่นหลังของสือเถี่ย เริ่มบังเกิดความเปลี่ยนแปลง
อาคมแปรสภาพเป็นธารแสง แบ่งจากหนึ่งกลายเป็นสอง สายหนึ่งเบื้องหน้าสายหนึ่งเบื้องหลัง แยกกันตกลงไปบนร่างเยี่ยนจ้าวเกอและสือเถี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี