แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะเห็นตนเองเป็นคนใจดีมาตลอด ทว่าหากกล่าวถึงจิตใจแล้ว เมื่อมีผู้ใดต้องการต่อกรกับตน เช่นนั้นตนก็ไม่ถึงกับต้องถอยให้
จอมมารหยวนเทียนปรากฏตัว เป็นความกดดันจากภายนอกที่ภาคบึงน้ำไร้ขอบเขตตั้งใจสร้างให้เขากว่างเฉิงอย่างไม่ต้องสงสัย เพื่อดึงดูดความสนใจของทั้งสำนัก ล่อเสือออกจากถ้ำ ฉกฉวยโอกาสในสถานที่อื่น
ต่อให้หนอนบ่อนไส้มีระดับพลังฝึกปรือสูงเพียงใด อยากจะชักนำหยวนเทียนลอบเข้าสู่ศูนย์กลางเขากว่างเฉิง เช่นนั้นทั้งสำนักคงจะเห็นเป็นเรื่องเล็กไม่ได้แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เขากว่างเฉินจนใจก็คือ หยวนเทียนปรากฏตัวเช่นนี้ จะไม่สนใจคงไม่ได้
ไม่เช่นนั้นการทำลายล้างที่กำเริบเสิบสาน อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในเวลาอันสั้นจากคนผู้นี้ อาจจะรุนแรงเทียบการมาถึงของนพยมโลกไม่ได้
หากถูกคนนอกก่อความวุ่นวายบนพื้นที่ของตนเอง และเขากว่างเฉิงยังคงปิดสนิท เช่นนั้นพวกเขาก็คงเสียหน้าแ
ส่วนการที่หยวนเทียนมายังเขตสัจจเมฆ ถือโอกาสจัดการเยี่ยนจ้าวเกอ นั่นเป็นเรื่องที่อยู่ในแผนการ
ภายในนั้นอาจจะยังมีความคิดบีบบังคับให้เยี่ยนตี๋นำเสื้อคลุมนภาออกจากเขามาด้วยก็เป็นได้
ถึงพวกเยี่ยนจี๋จะไม่ใช่คนขี้ขลาด แต่ช่วงเวลาละเอียดอ่อนเช่นนี้ หยวนเจิ้งเฟิงเข้าณานอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ ความคุกคามจากภายในและภายนอกถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ไม่แน่ว่าเขากว่างเฉินอาจจะกระทำการที่ขัดกับหลักการของตน อดทนอดกลั้น หลังจากนั้นค่อยคิดบัญชีกับหยวนเทียนอย่างช้าๆ
จับเยี่ยนจ้าวเกอไว้ ก็เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการบีบเยี่ยนตี๋ออกจากสำนัก
หยวนเทียนปรากฏตัว ตอนนี้จะหนีก็คงไม่ทันเช่นกัน เยี่ยนจ้าวเกอสงบจิตใจ ทอดสายตามองไกลออกไปอย่างใจเย็น
ตรงเส้นขอบฟ้าแสนไกลนั้น ไอหมอกสีเทาหลายสายปรากฏขึ้นปกคลุมไปทั่ว กำลังโลกสะพัดมาทางเรือนบรรพบุรุษตระกูลเยี่ยน
ท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ที่เดิมทีส่องสว่าง เวลานี้หายไปไม่เห็นโดยสิ้นเชิง ระหว่างฟ้าดินเหลือเพียงสีเทาขมุกขมัวทั้งผืน
ท่ามกลางทะเลหมอกสีเทากว้างใหญ่ ปรากฏเงาร่างนับไม่ถ้วนขึ้นมาเลือนราง เมฆสีเข้มราวกับกลายเป็นใบหน้าที่เจ็บปวดและปิดเบี้ยวมากมาย มองลงมาจากเบื้องบน พลางส่งเสียงคำรามอย่างไร้เสียงพร้อมๆ กัน
เยี่ยนจ้าวเกอและพวกอาหู่รู้สึกได้ถึงความมืดมิดและหนาวเหน็บเป็นระลอกๆ ได้อย่างชัดเจน
นั่นไม่ใช่ความหนาวเย็นที่เกิดขึ้นจากร่างกายและประสาทสัมผัส แต่เป็นความรู้สึกเย็นที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจ เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับความน่าประหวั่นพรั่นพรึงที่หมายจะเอาชีวิต
ชายหนุ่มมองเมฆดำนั่น พยักหน้าพลางกล่าวกับตนเอง ‘มีเงาของเผ่ามารที่ไม่แน่นอนในอดีตอยู่หลายส่วนจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าภายในเป็นความคิดที่เริ่มแทรกซึมเข้าสู่ฝ่ายธรรมหรือยัง’
เท่าที่เยี่ยนจ้าวเกอรู้ เผ่ามารที่ไม่แน่นอนก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เคยพบเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่แก่นของหลักการ จนถึงการสืบทอดของยอดฝีมือในสำนัก ล้วนมีการโต้เถียงและเปลี่ยนถ่ายอย่างช้าๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงระหว่างนั้น เยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้ เพียงแค่ได้ยินข่าวลือมาบ้างก็เท่านั้น
ทว่าภายในเผ่ามารที่ไม่แน่นอนยังไม่มีการกำหนด จึงกลับคืนสู่ฝุ่นละอองเช่นเดียวกับฟ้าดิน คล้ายกับตามการมาถึงของวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
บัดนี้เห็นเมฆดำมืดฟ้ามัวดิน ความรู้สึกของเยี่ยนจ้าวเกอเกิดความไม่ชัดเจนขึ้นมาบ้างอย่างอดไม่อยู่ ในหัวปรากฏความทรงจำในอดีตขึ้นมามากมาย
เมฆดำปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินในพริบตา ปิดบังแสงตะวัน ทำให้เขตสัจจเมฆาราวกับจมดิ่งสู่รัตติกาล
หยวนเทียนมาถึงแล้วก็ไม่พูดมา เจตจำนงหมัดวรยุทธ์ที่แก่กล้ากดอัดลงมา แม้จะเป็นเพียงเจตจำนงหมัดลวงตา แต่ก็แข็งตัวราวกับจะจับต้องได้
ค่ายกลคุ้มกันของเรือนบรรพบุรุษตระกูลเยี่ยน ราวกับแท้จริงแล้วไม่มีอยู่ เมื่ออยู่เบื้องหน้าของหยวนเทียน
มังกรแสงหลายสายยังคงเริงระบำ ทว่าไร้ประโยชน์ ไม่อาจป้องกันหยวนเทียนไว้ได้โดยสิ้นเชิง
ราวกับว่าไม่จำเป็นต้องแยกแยะ เจตจำนงหมัดของหยวนเทียนก็กำหนดเป้าหมายไว้ที่เยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
ร่างกายของเยี่ยนจ้าวเกอเริ่มลอยขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
ส่วนอาหู่ พวกเยี่ยนเหวินเจิน และคนที่อยู่ในเรือนบรรพบุรุษตระกูลเยี่ยน ต่างก็รู้สึกร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมาโดยทั่วกัน
จากนั้นพวกเขาเพียงรู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกายของตนเองทั้งหมด คล้ายกับถูกคนใช้มือจับไว้ แล้วออกแรงบีบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี