เยี่ยนจ้าวเกอเร่งเดินทางไปยังเขตเชื่อมทะเลสาบ พร้อมกับอาหู่และพ่านพ่าน
ที่นั่น เขาพบกับสือเถี่ยและสวีเฟยที่มาถึงที่นี่เช่นกัน
ในที่สุดแล้วก็เป็นสือเถี่ยที่ออกโรงจัดการกับปัญหา ณ เขตเชื่อมทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเองก็ทราบข่าวที่เกี่ยวข้องกับฟางจุ่นและลู่เวิ่นเช่นกัน
อาหู่มองทางเยี่ยนจ้าวเกอ ดวงหน้าเจื่อน ฝ่ายชายหนุ่มนวดขมับตนเองเบาๆ “ท่านอาจารย์ลุงใหญ่ ศิษย์พี่สวี ตอนนี้ยอดฝีมือระดับสุดยอดคนอื่นๆ ในสำนักเป็นอย่างไรบ้าง?”
สวีเฟยกล่าวตอบ “ท่านอาจารย์อาเยี่ยนต่อสู้ดุเดือดกับจอมมารศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมิติต่างแดน ส่วนผู้อาวุโสจางและผู้อาวุโสซินเฝ้าระวังมหาค่ายกลสำนัก ขณะที่เสริมกำลังให้กับท่านอาจารย์อาเยี่ยน ก็เตรียมพร้อมรับมือศัตรูอื่นเข้าโจมตี ผู้อาวุโสเหอกำลังคุ้มกันท่านอาจารย์ปู่ และท่านอาจารย์ป้าฟู่กำลังตามหาท่านอาจารย์อาฟาง”
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะไร้สุ้มเสียง กลุ่มคนพลางพูดพลางเดิน
บนเขตแดนเขตเชื่อมทะเลสาบมีทะเลสาบมากมาย ทอดยาวเหยียดเป็นผืนหนึ่ง ประหนึ่งดินแดนบึงแห่งวารีพิภพขนาดย่อมๆ
สืบเท้ามาถึงตรงนี้ ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอมีความรู้สึกเหมือนกลับไปยังแถบทะเลสาบปิดนภาแห่งบึงพิภพอย่างไรอย่างนั้น
ครั้นเข้าใกล้ส่วนใต้ของเขตเชื่อมทะเลสาบ พลังปราณน่าผวาที่ดูดจิตวิญญาณผู้คน ทำให้จิตใจผู้คนไหววูบไม่สงบก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ชายหนุ่มทอดมองไปไกลโข ก็แลเห็นหมอกดำหนาทึบแผ่กระจายทั่วท้องฟ้า ภายในเมฆหมอกสีดำมีสายฟ้าแลบสีแดงโลหิตวาบวับขวักไขว่ ปรากฏเป็นทัศนียภาพคล้ายวันสิ้นโลกผืนหนึ่ง
ใต้ทะเลสาบทอดยาวมืดสนิทดุจน้ำหมึก คล้ายเห็นได้ว่าค่ายกลมหึมาวางอยู่บนพื้นดินรางๆ ลวดลายค่ายกลแต่ะลายทอธารแสงสีดำวามวาว
เยี่ยนจ้าวเกอหันศีรษะมองทางสือเถี่ย “ท่านอาจารย์ลุงใหญ่ ศาสตร์วิชาที่อีกฝ่ายเคลื่อนย้ายสถานที่มาเยือนของประตูนพยมโลก ลึกล้ำพิศวงยิ่งยวด คลายออกไม่ง่าย น่าจะไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว หนนี้พวกเราต้องเตรียมป้องกันล่วงหน้าให้ดีก่อนเช่นกันถึงจะได้”
สือเถี่ยเอ่ย “เกินกว่าครึ่งเป็นเช่นนี้”
พวกเขาห้อตะบึงไปทางเขตศูนย์กลางมหาค่ายกลแดนมาร ที่ค่อนข้างผิดแผกไปคือไม่ได้พบจอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตสักคนคอยขัดขวาง
ม่านตาดำเยี่ยนจ้าวเกอหดลงเล็กน้อย “พวกเขาต้องวางเล่ห์กลเป็นแน่ หากศูนย์กลางมหาค่ายกลแดนมารของที่นี่ถูกทำลาย สถานที่มาถึงของประตูนพยมโลกจะแปรเปลี่ยนอีกหน”
“ตอนนี้ไม่ขัดขวาง แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สนใจ หากแต่อีกฝ่ายต้องการหลอกใช้จังหวะที่พวกเราปิดผนึกประตูนพยมโลกอีกครั้ง ถึงค่อยเข้ามาจู่โจมโดยพลัน”
“ยามนั้น พวกเราเบนความสนใจอยู่ที่การปิดผนึกประตูนพยมโลก สถานการณ์ก็จะเอื้ออำนวยพวกเขา”
สือเถี่ยและคนอื่นๆ ได้ยินแล้ว ต่างมุ่นหัวคิ้วแน่น
เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจขุ่นมัวออกมายาวๆ คำหนึ่ง “ซึ่งพวกเรา ไม่อาจนิ่งดูดายมองดูประตูนพยมโลกมาเยือนได้ แต่ว่า…”
ชายหนุ่มมองดูรอยประทับมารบนหลงมือซ้ายตนเอง ก่อนจะหรี่ลง “แต่ความเข้าใจที่มีต่อมหาค่ายกลแดนมารของพวกเรา ก็พัฒนาขึ้นกว่าสองคราก่อนมากนักแล้วเช่นกัน”
พวกเขาครุ่นคิดตลอดทาง สืบเท้าเขตศูนย์กลางแดนมารสีแดงก่ำนั่นอีกครั้ง แลเห็นเจดีย์สูงสีทองตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าตนเองอีกหน สีหน้าอารมณ์เยี่ยนจ้าวเกอเรียบเฉยไร้ทุกข์ไร้สุข
ที่แห่งนี้ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด เหลือเพียงมหาค่ายกลแดนมารยังคงโคจรเสียงดังกึกก้อง
ยอดเจดีย์สูงสีทอง สะท้อนฉายประตูแสงสีแดงลงบนพื้น ต้องการชักนำนพยมโลกมาเยือนโลกใบนี้
ลวดลายค่ายกลสีดำแต่ละสาย ยื่นขยายออกไปทั่วสารทิศ แล้วรวมเข้าหากันอีกครั้ง พันอยู่บนเจดีย์สูงสีทองราวกับสายโซ่อย่างไรอย่างนั้น
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ลังเลแม้แต่น้อย ลอยตัวขึ้นเบื้องบน สองฝ่ามือเหินขึ้นลง ตบฟาดไปบนลวดลายค่ายกลสีดำแต่ละเส้นเหล่านั้นฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าราวกับทะลุดอกไม้แฉลบต้นหลิวก็ไม่ปาน
ระหว่างที่ลวดลายค่ายกลเหล่านี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟาด ด้านบนพลันปรากฏวงแหวนเล็กๆ ออกมาวงหนึ่ง
ในวงแหวนเปล่งประกายแสงขาววิบวับ ลวดลายหนึ่งที่ซับซ้อนและยังลี้ลับมหัศจรรย์ปรากฏให้เห็น สลักไปบนลวดลายค่ายกลของมหาค่ายกลแดนมารประหนึ่งรอยตรา
“ถึงเสาทางเดินวังเทพจะใช้การไม่ได้ชั่วขณะ…” แววตาเยี่ยนจ้าวเกอสงบนิ่ง โจมตีออกไปฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่า
สุดท้ายเขาก็มาถึงฐานเจดีย์สูงสีทอง เขายื่นสองมือออกไปวาดเค้าโครงลายยันต์ขนาดยักษ์ออกมา จากนั้นประทับไปบนเจดีย์สูงสีทอง
“ท่านอาจารย์ลุงใหญ่!” เยี่ยนจ้าวเกอร้องตะโกนเรียก สือเถี่ยเตรียมการเอาไว้แล้ว บัดนี้เขาเหินขึ้นก้าวใหญ่เช่นกัน เหยียบย่ำอากาศเปล่าจนมาถึงยอดเจดีย์สูง ก่อนจะฟาดฝ่ามือหนึ่งลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี