ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 297

กลางท้องฟ้า ธารแสงสายหนึ่งทอดข้ามมา

ขณะเดียวกับที่เยี่ยนจ้าวเกอเร่งไปทางคูเมืองที่เป็นตำแหน่งคน สือเถี่ยก็พาสวีเฟยเร่งเดินทางไปยังสถานที่ที่เป็นตำแหน่งฟ้าเช่นกัน

สือเถี่ยห้อตะบึงไปตามเส้นทาง ฉับพลันนั้นประกายตาฉายแวบ มองไปยังที่ไกลออกไป

บริเวณทิศนั้น เขารู้สึกถึงพลังปราณอันดุดันมุทะลุและแกร่งกล้ากลุ่มหนึ่งปรากฏผลุบโผล่ ไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใด คล้ายว่าเป็น ‘ราชันมังกร’ ซือหม่าฉุย

อีกฝ่ายคล้ายกับสังเกตเห็นการมีอยู่ของสือเถี่ยเช่นกัน ทว่าดูเหมือนพะว้าพะวังในใจ หาได้กระชั้นเข้ามาไม่

สวีเฟยมองยังสือเถี่ย ฝ่ายสือเถี่ยละสายตากลับ กล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “เป็นซือหม่าฉุย”

“อาจารย์…” สวีเฟยมองดูแผลช่วงเอวของสือเถี่ยที่ยังคงมีอยู่ด้วยความเป็นกังวลอยู่บ้าง

สือเถี่ยสั่นศีรษะ “วางใจ ข้าไม่เป็นไร”

สวีเฟยไม่เอ่ยอะไรอีก หากแต่แววกังวลในดวงตา ไม่เห็นว่าลดน้อยลงไปแม้แต่นิด

ผู้เป็นอาจารย์นำเขารุดหน้าต่อไป หลังจากเดินทางไปได้ครู่หนึ่ง พวกเขาก็มองลงไปเบื้องล่าง

ที่ตรงนั้นมีเด็กชายอายุสิบเอ็ดสิบสองปีผู้หนึ่งกำลังต่อกรกับศัตรู

ถึงแม้จะยังเยาว์วัย แต่กลับมีพลังฝึกปรือระดับปรมาจารย์แล้ว เลือดลมทั่วกายยิ่งดุจมังกรดุจช้าง ประหนึ่งมังกรเด็กตัวหนึ่ง ฆ่าฟันคู่ต่อสู้ล้มระเนระนาด

แจ่มชัดว่าเป็นศิษย์ที่สือเถี่ยรับไว้เมื่อไม่กี่ปีนี้ อิงหลงถูนั่นเอง

อิงหลงถูในเวลานี้ยังดูตะลึงงันอยู่บ้าง ทว่าก็ใจจดใจจ่ออย่างหาที่เปรียบไม่ได้

แม้จะยังลงมือยังไม่ถึงขั้นโหดเหี้ยมอำมหิตสุดขีดขนาดนั้น กระนั้นก็จำคำสั่งสอนของเหล่าผู้อาวุโสและศิษย์พี่ชายศิษย์พี่หญิงขึ้นใจ ว่าความเมตตาต่อศัตรู ก็คือความหฤโหดต่อตนเช่นกัน

อิงหลงถูกต่อยหมัดหนึ่งคู่ต่อสู้ผู้หนึ่งกระเด็น ดึงความสนใจของศัตรูที่พลังฝึกปรือสูงกว่า

ศัตรูถลามาทางเขา ทว่าคนเพิ่งถึงกลางทาง ทั้งสรรพางค์กายก็แข็งทื่อ เป็นอัมพาตล้มพับกับพื้น ขาดใจโดยพลัน

จอมยุทธ์ภาคีบึงน้ำไร้ขอบเขตคนอื่นรอบๆ ต่างก็ลงสนามรบเช่นเดียวกัน

จอมยุทธ์ปรมาจารย์เหล่านี้ สือเถี่ยไม่จำเป็นต้องออกมือ เพียงแค่พลังปราณและเจตจำนงหมัด ก็สามารถสั่นสะท้านพวกเขาให้สิ้นใจตายคาที่ได้อย่างง่ายดาย

อิงหลงถูสัมผัสถึงพลังปราณของอาจารย์ตน จึงแหงนหน้ามองไป บนดวงหน้าพลันเผยรอยยิ้มอันเบิกบานออกมา

“ไปพร้อมกัน” สือเถี่ยไม่เอ่ยมากความ ม้วนเอาอิงหลงถูพาไปด้วยกันทันใด ฝีเท้าไม่หยุดนิ่ง ห้อตะบึงไปยังจุดมุ่งหมายอย่างต่อเนื่อง

เด็กชายมองสือเถี่ยและสวีเฟยด้วยความประหลาดใจ “อาจารย์ ศิษย์พี่ มีศัตรูจำนวนมากบุกโจมตีไปบนเขาแล้ว…”

สวีเฟยเอ่ย “ฮานหลงเอ๋อร์ทำใจให้สบาย ตอนนี้พวกเรากำลังรับมือพวกเขาอยู่”

อิงหลงถูออกแรงผงกศีรษะ

ศิษย์อาจารย์ทั้งสามเหินบินไปตามเส้นทาง ไม่นานนักก็ไปถึงเป้าหมาย อันเป็นตำแหน่งที่เยี่ยนจ้าวเกอบอกกล่าวก่อนหน้า

นี่คือยอดเขาแห่งหนึ่งนอกเขากว่างเฉิง สูงโดดตั้งตระหง่าน อยู่ในกลุ่มเขาทอดยาวโดยรอบ ราวกับจะแทงทะลุท้องนภา

สือเถี่ยลอยตัวลงบนปลายยอดเขานั่น ก่อนจะต่อยหมัดหนึ่งออกไป พลันบังเกิดเป็นแสงสุกสว่างหลากสายพรั่งพรู รวมตัวกลายเป็นอักขระยันต์มหึมายันต์หนึ่งบนยอดเขา

แสงสุกสว่างพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อตัวเป็นลำแสงสายหนึ่งกลางนภาอากาศรำไร

มือของสือเถี่ยชูขึ้นด้านบน พาให้พายุลมงวงสายหนึ่งก่อตัวขึ้นโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง คลุมครอบยอดเขาเดียวดายลูกนี้ไว้

ด้วยการปกคลุมของพายุลมงวง โลกหล้ามีปราณวิญญาณหลากสายถูกดึงรวบรวมมายังที่แห่งนี้ตลอดเวลา ขณะที่อักขระยันต์บิดเบี้ยว ก็ค่อยๆ ขยายกลายเป็นค่ายกลค่ายหนึ่งที่เล็กนิดและยังลึกลับมหัศจรรย์ ลวดลายค่ายกลเปล่งแสงขาวสะอาดวามวาบ

บริเวณใจกลางที่ลวดลายค่ายกลจำนวนมากรวมตัว ปรากฏอักษรโบราณตัวหนึ่งออกมา

อักษรอันเก่าแก่โบราณ ความหมายของมัน คือ ‘ฟ้า’

สวีเฟยเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าตนควรลงมือ เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นทันควัน กดสองหมัดลงไปบนหินผาของยอดเขาพร้อมกัน

แสงวาวโรจน์ของยันต์อักษร ‘ฟ้า’ เปล่งประกายจ้าตาขึ้นในชั่วขณะนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี