ภูเขาไท่ซานทับมีรสชาติอย่างไร?
จูเชียนไม่เคยลิ้มรสมาก่อน หากแต่เข้ารู้สึกว่า ตนเองตอนนี้ ก็เผชิญความรู้สึกประหนึ่งภูเขาไท่ซานทับอย่างไรอย่างนั้น
เยี่ยนจ้าวเกอกดฝ่ามืออันน่าหวาดหวั่นลงมา ทำให้โครงกระดูกทั่วร่างจูเชียนส่งเสียงดัง ‘กรอบแกรบ’ ขึ้นพร้อมกัน
มีหยดเหงื่อและเลือดอันละเอียดน่ากลัวไหลซึมออกมาจากรูขมขนทั่วร่างจูเชียน อาบย้อมจนเขากลายเป็นมนุษย์เลือดคนหนึ่ง
จูเชียนกัดฟัดกรอด พยายามปลุกปราณจิตราของตน
ปราณจิตราที่เปี่ยมล้นไปด้วยสติปัญญาภายในจุดตันเถียนกลับคืนสู่สภาพเดิม ก่อตัวเป็นสิ่งที่เหมือนกับผืนปฐพีกว้าง ประหนึ่งดินอันอุดมสมบูรณ์ สามารถบ่มเพาะพลังที่ยิ่งมหัศจรรย์กว่าได้
สิ่งที่จูเชียนได้รับจากการบรรลุการบำเพ็ญเพียรวิถีวรยุทธ์ รวมถึงสติปัญญาของการสัมผัสฟ้าดิน ก็คือทั้งสองกลายเป็นเมล็ดพันธุ์วิเศษเม็ดหนึ่ง ได้รับการบำรุงจากภายในดินวิเศษนั่น
ในที่สุดเมล็ดพันธุ์วิเศษก็ค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนสภาพ ราวกับเมล็ดแตกหน่ออย่างไรอย่างนั้น เริ่มกลับมาเกิดใหม่!
พลังอันแก่กล้าก่อเกิดจากที่นี่ ก่อตัวกลายเป็นรากฐานของมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะท้าย
จิตวิญญาณวรยุทธ์ของจอมยุทธ์คนหนึ่งเริ่มปรากฏต้นอ่อนออกมาอย่างช้าๆ แล้ว
จูเชียนกระตุ้นหน่อวิเศษของตน พลังในกายพลันบ้าระห่ำ ต้องการยันท้องฟ้าที่ทับลงมาเหนือศีรษะขึ้นไปอีกหน
หากแต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ให้โอกาสนี้กับเขา ปล่อยพลังฉับไวกว่าจูเชียน!
เขาขับเคลื่อนดัชนีฟ้าคำรน ฝ่ามือนภากว่างเฉิงฟาดโจมตีลงเป็นครั้งที่สาม ซัดพลังที่จูเชียนเพิ่งจะปลดปล่อยจนพินาศก่อนเป็นอันดับแรก ดับสภาวะแตกหน่อจนสิ้นซาก!
พลังอันบ้าคลั่งฟ้าถล่มดินทลาย ดับสลายความหวังทั้งหมดและการขัดขืนทั้งปวงของจูเชียนโดยสิ้นเชิง
แขนของจูเชียนถูกแยกออก เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือหนึ่งลง อัดศีรษะของเขาจนเละเสียงดังสนั่น!
ราวกับเยี่ยนจ้าวเกอทำเรื่องเล็กน้อยเรื่องหนึ่งที่ไม่มีค่าพอจะกล่าวถึง ไม่ได้ให้ความสนใจจูเชียนที่อ่อนแรงทรุดลงตรงหน้าตน หากแต่ออกแรงสืบเท้า
ลวดลายค่ายกลสีทองโคจรต่อไป ตามการย่ำเท้าบนพื้นดินของเยี่ยนจ้าวเกอ
ท้องฟ้าเหนือศีรษะก็มีลวดลายค่ายกลอันลึกลับมหัศจรรย์และซับซ้อนปรากฏขึ้นเช่นกัน ดูแล้วคล้ายมหาค่ายกลคุ้มกันเขากว่างเฉิงที่ย่อขนาดลงอย่างมาก
ลวดลายค่ายกลนี้ผสานเข้ากับอักขระยันต์ใต้เท้าเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็มีกระแสปราณหลากสายแผ่ขยายออกไปทั่วสารทิศ
กระแสปราณยื่นขยายออกไปไกลโพ้น ผนึกเชื่อมเข้ากับมหาค่ายกลนภาที่แท้จริงอย่างไร้สุ้มเสียง
เยี่ยนจ้าวเกอปักหลักอยู่เหนืออักขระยันต์สีทอง รู้สึกเพียงมุมมองเบื้องหน้าบังเกิดความเปลี่ยนแปลงหลายส่วนเช่นกัน บริเวณที่เส้นสายตาพาดผ่าน คล้ายกับยืนอยู่บนมวลเมฆมองต่ำลงไปเบื้องล่าง
“ตำแหน่งคน ก่อตั้งมั่นคง!” เยี่ยนจ้าวเกอพ่นลมหายใจยาวออกมาคำหนึ่ง ไม่ได้คลายใจ หากแต่ใช้ประโยชน์จากวิธีของตน ถือโอกาสในการเชื่อมต่อกับมหาค่ายกลนภา ใคร่ครวญศึกษาค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ค่ายนี้ขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
จากการตั้งใจศึกษาเสริมเติมในความรู้ที่ตนเองมีอยู่ ระดับความรู้ซึ้งในด้านค่ายกลของเยี่ยนจ้าวเกอจึงเลิศล้ำอย่างยิ่ง
ทว่ามหาค่ายกลนภา ในฐานะหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทั้งหกบนโลกแปดพิภพยุคปัจจุบัน มหาค่ายกลคุ้มกันเขากว่างเฉิง ก็มีจุดที่ไม่ธรรมดาเป็นของตนเองเช่นกัน
ขณะเดียวกับที่พลังแก่กล้า หลักการค่ายกลของมันก็ลึกลับซับซ้อนแลลึกซึ้งอย่างยิ่งเช่นกัน
หลังจากเยี่ยนตี๋รับตำแหน่งเจ้าสำนัก แม้ว่าจะรับช่วงต่อมหาค่ายกลนภาจากหยวนเจิ้งเฟิง เยี่ยนจ้าวเกอเองก็เป็นบุตรของเขา ทว่ามีกฎเกณฑ์บางอย่างที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้เช่นกัน ผู้เป็นบิดาจึงไม่ถ่ายทอดความละเอียดลึกซึ้งของมหาค่ายกลนภาให้แก่บุตรชายโดยง่าย
ท้ายที่สุดแล้วความเข้าใจที่มีต่อมหาค่ายกลนภาของเยี่ยนจ้าวเกอก็มีขอบเขตจำกัด แต่บัดนี้กลับต้องเร่งอนุมานและคาดคะเน
กระนั้น สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว มหาค่ายกลนี้ก็ไม่ได้ไร้เส้นเลือดลมสามารถตามรอยไม่ได้เช่นกัน
‘การสืบทอดมีต้นตอหรือสาเหตุมาจากสายนภา แต่ผ่านการปรับแก้จากยอดฝีมือในอดีตแต่ละสมัย มีความแตกต่างอยู่มากมายแล้ว’ เยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ กระจ่างชัดในใจ “เป็นค่ายกลที่วิจิตรประณีตยิ่ง’
‘ก่อนหน้านี้ประสบผลพลิกตะวันที่มีผลทลายค่ายกลถึงสองครา ทำให้ค่ายกลเกิดความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างหนักหนา แต่ก็ยังคงสามารถฟื้นคืนกลับเป็นปกติได้’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี