ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 345

เยี่ยนจ้าวเกอมองเก้าอี้น้ำแข็งตัวนั้น สามารถรู้สึกได้ถึงพลังราวกับพยัคฆ์หมอบมังกรเวียนที่แผ่ออกมาบนนั้น เนิ่นนานไม่กระจายไป

เขาสามารถเห็นภาพปรากฏการณ์ในอดีตได้ ราวกับทะลุเวลามา มีจอมยุทธ์แกร่งกล้าขั้นศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น จากนั้นก็เห็นเสาน้ำแข็งที่อยู่กลางตำหนักใหญ่

ชายหนุ่มเดินมายังข้างเก้าอี้ แล้วหันหน้ามองไปยังตำหนักใหญ่ มองดูซากมังกรที่ถูกแช่แข็งผนึกไว้อยู่กลางตำหนักใหญ่

เวลานี้อาหู่ก็สงบใจลงแล้วเช่นกัน จึงเอ่ยถามว่า “คุณชาย จะเก็บซากมังกรนี้ไปน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่ง พวกเราจะนำมันไปโดยสมบูรณ์ได้อย่างไร?

“นั่นไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามีแผนการอยู่ในใจแล้ว พวกเราตรวจสอบของสิ่งอื่นภายในตำหนักเย็นสักหน่อยก่อน” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว

อาหู่รับปาก ขันอาสาเดินไปเสาะหา

เยี่ยนจ้าวเกอหยุดอยู่กับที่ ลูบคางตนเองพลางครุ่นคิด

รอจนตอนที่อาหู่กลับมา ก็เห็นว่าได้ของมาเต็มไม้เต็มมืออย่างยิ่ง

ชายร่างใหญ่ที่เดิมทีตื่นเต้นอย่างหนักเพราะว่าซากมังกร หากแต่ยามนี้ยิ่งยิ้มจนไม่เห็นตา

เนื่องจากอยู่ในวังน้ำแข็งมาเป็นเวลานาน ของจำนวนมากจนถึงวันนี้ล้วนผุพังไปหมดแล้ว เสียมูลค่าและผลลัพธ์ที่ควรจะมีไป

หากแต่แม้จะเป็นเช่นนั้น สถานที่ที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์พำนักในอดีต ก็ยังคงทิ้งของวิเศษเอาไว้เป็นจำนวนมากเช่นกัน บัดนี้ยังคงสามารถใช้งานได้

ในฐานะยอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์ ทรัพย์สินส่วนตัวจึงยังคงสมบูรณ์อย่างยิ่ง

ถึงแม้ว่าจะไม่อาจเทียบได้กับทรัพย์สินสะสมของกลุ่มอิทธิพลดินแดนศักดิ์สิทธิ์เฉกเช่นเขากว่างเฉิงนี้ ทว่าในฐานะจอมยุทธ์กดิ์สิทธิ์ที่มีชีวิตอยู่ลำพัง ก็นับว่าอู้ฟู่อย่างแท้จริง

ของสะสมของจอมมารศักดิ์สิทธิ์หยวนเทียน ถึงจะอยู่ในระดับศักดิ์สิทธิเช่นเดียวกัน แต่จำนวนก็ยังด้อยกว่ามาก

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอตรวจสอบของครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ดูท่าครั้งสุดท้ายที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งกลับมาที่นี่ เขาออกไปในทันที ทว่าไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด ในความคิดของเขา บางทีอาจจะเป็นเพียงครั้งหนึ่งที่ออกไปข้างนอกตามปกติเท่านั้น”

“อย่างน้อย ในการคาดการณ์ของเขา ก็ไม่ใช่ว่าจะไปแล้วไม่กลับ”

เยี่ยนจ้าวเกอรำพึงรำพันไตร่ตรอง “บางทีเขาอาจจะไปค้นหาความลับของสิ่งที่เรียกว่า ‘หมู่มังกรลงสู่ทะเล’ ถึงตอนนี้เขาหายตัวไป เป็นตายร้ายดีกลายเป็นปริศนา”

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ตรวจดูของวิเศษที่เก็บได้จากภายในวังน้ำแข็งเหล่านี้อีกครั้ง เพื่อหาเบาะแสความเป็นไปได้

สุดท้ายแล้ว เกล็ดที่แตกหักหลายชิ้นกลับดึงความสนใจของเยี่ยนจ้าวเกอมากที่สุด

“เกล็ดมังกร…” ถึงแม้ว่าพลังชีวิตในเกล็ดมังกรจะค่อยๆ สลายไปแล้ว ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอยังคงแยกแยะออกมาได้อย่างรวดเร็ว

เขาเดินมาถึงตรงเสาน้ำแข็งที่อยู่กลางตำหนักใหญ่นั่น เพื่อสังเกตซากมังกรที่ถูกแช่แข็งผนึกไว้ภายในนั้นอย่างละเอียด จากนั้นก็มองดูเกล็ดที่แตกบิ่นในมือของตัวเองซ้ำอีก

“บางทีหลังจากนำเกล็ดมารวมเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้งแล้ว อาจจะได้อะไรบางอย่าง” หลังเยี่ยนจ้าวเกอไตร่ตรองเรียบร้อยแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเสาน้ำแข็งมหึมาที่อยู่ตรงหน้า

เยี่ยนจ้าวเกอเหยียดมือออกไปกดบนเสาน้ำแข็ง สัมผัสพลังความเย็นภายใน แล้วปิดเปลือกตาลง

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เขาก็นำเสาทางเดินวังเทพที่แปรสภาพออกมามีลักษณะเหมือนกระบองหินสั้นออกมาอีกครั้ง

เสาทางเดินวังเทพกลายขยายใหญ่มหึมาอีกครั้ง ค้ำตำหนักใหญ่ของวังน้ำแข็งไปพร้อมกับเสาน้ำแข็งต้นนั้น

แล้วเยี่ยนจ้าวเกอก็นำมือทั้งสองข้างกดไปบนเสาน้ำแข็งที่แช่แข็งผนึกซากมังกรเอาไว้ ก่อนจะกรอกปราณจิตราของตนเข้าไปภายใน

มีลวดลายเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมปรากฏออกมาแต่ละรูป โดยมีมือทั้งสองข้างเป็นศูนย์กลาง ระหว่างที่ส่องสว่างพร่างพราวซึ่งกันและกัน ก็เริ่มมีริ้วแสงปรากฏขึ้นบนเสาน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง

เขาดึงฝ่ามือข้างหนึ่งกลับมา แล้วหยิบวงแหวนเงินคู่หนึ่งออกมาจากภายในบรรด่ของที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งทิ้งเอาไว้

เมื่อหมุนนิ้วมือเบาๆ วงแหวนเงินทั้งสองวงก็แยกกันลอยออกมา วงหนึ่งอยู่ด้านบน วงหนึ่งอยู่ด้านล่าง

วงแหวนเงินที่ลอยขึ้นบน ตกลงไปที่ตำแหน่งของเสาน้ำแข็งที่เชื่อมกับเพดานตำหนักใหญ่ ส่วนวงแหวนเงินที่ลอยออกมาด้านล่าง ก็ตกลงไปที่ส่วนฐานของเสาน้ำแข็งด้านล่าง

วงแหวนเงินทั้งสองวงก็กลายสภาพเป็นวงแหวนแสงสีขาวเงิน ค่อยๆ หลอมรวมเข้าสู่ภายในเสาน้ำแข็ง หายไปไม่พบอีก

ชายหนุ่มหัวร่อพลางกล่าว “ไม่ต้องกังวล อย่างน้อยก็พอให้เดินทางหนนี้ได้”

ไม่นานนัก กระสวยเบิกดินแดนก็พุ่งพรวดออกมาสู่ผิวดิน ทั้งสองเห็นท้องฟ้าและดวงตะวันอีกครั้ง

เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระสวยเบิกดินแดน แล้วหันกลับไปทอดสายตามอง ท่ามกลางพายุหิมะทั่วท้องฟ้า ทุ่งหิมะสุดขอบแดนเหนือกว้างขวางในครรลองสายตา มีแต่เปล่าเปลี่ยวไปทั่วบริเวณ

“ถึงแม้ว่าที่นี่จะอยู่ใกล้กับอัสนีพิภพ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พื้นที่ครอบครองของตำหนักอัสนีสวรรค์” เยี่ยนจ้าวเกอส่ายศีรษะ

พวกหลินโจวอาจจะไม่รู้จักกระสวยเบิกดินแดน ทว่าก็น่าจะรู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีของวิเศษชิ้นนี้อยู่

กระนั้นนอกจากพวกเขาจะเฝ้าอยู่นอกทะเลสาบน้ำแข็งแล้ว กลับไม่มีวิธีทางมากนักเช่นกัน กำลังคนไม่มีพอที่จะกระจายไปล้อมพื้นที่โดยรอบไว้ได้

การที่ตนเองขับเคลื่อนกระสวยเบิกดินแดนอยู่ใต้ดิน สามารถเลือกเส้นทางใดก็ได้ ช่างสะดวกอย่างยิ่งยวด

สำหรับจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์แล้ว การคิดหาวิธีเปิดทางเข้าวังน้ำแข็งให้ได้เร็วที่สุด ยังเกินความเป็นจริงอยู่บ้าง

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยกับอาหู่ว่า “พวกเราไปเถอะ ทำลายร่องรอยให้ดี เลี่ยงไม่ให้เจอคนไล่ตามร่องรอย”

ทั้งสองเดินทางไปยังทิศตะวันออก รีบไปทางบ่อน้ำพุสีฟ้าที่ค้นพบก่อนหน้านี้อีกครั้ง

ชายหนุ่มคำนวณระยะเวลา พลังชีวิตของที่นั่นน่าจะสั่งสมเพียงพอแล้ว

หลังจากบุกป่าฝ่าดงหลายวัน สุดท้ายก็กลับมายังที่เดิม เยี่ยนจ้าวเกอทลายน้ำแข็งหิมะและดินเยือกแข็งออกไปอีกครั้ง บ่อน้ำพุร้อนสีฟ้าที่มีไอน้ำพวยพุ่งออกมา ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

เขาหยิบของที่มีลักษณะเป็นผลึกหินโปร่งแสงก้อนหนึ่งออกมา หย่อนลงไปในบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้า

ชั่วพริบตาเดียว บ่อน้ำพุร้อนก็เปลี่ยนเป็นเดือดพล่านยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันแสงสีฟ้าก็ซีดลงไปจนหมด กลับกลายเป็นสีแดงโลหิต

………………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี