ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 347

ขณะมองพายุสีดำที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เยี่ยนจ้าวก็เกอสูดลมหายใจลึก “อาหู่ ไปนั่งอยู่บนไฟตะเกียง ใช้ปราณจิตราคุ้มครองพิธี”

อาหู่มองบริเวณที่อยู่ไกลออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่ยังคงทำตามคำสั่งของเยี่ยนจ้าวเกอ

ร่างของเขาลอยอยู่เหนือน้ำพุ พลางเคลื่อนปราณจิตรา นั่งลงเหนือตะเกียงไฟสีทองที่เสาสูงสองต้นค้ำไว้

พายุสีดำแทรกด้วยปราณสีม่วงจางปรากฏบนร่างของอาหู่ ครอบคลุมบ่อน้ำข้ามชั่วยามด้านตะวันตกเอาไว้

เยี่ยนจ้าวเกอเข้าปะทะกับพายุสีดำที่ม้วนมาจากสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป

ด้านในพายุสีดำ ร่างชราร่างหนึ่งเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ สีหน้าเคร่งขรึม เป็นผู้อาวุโสเจิ้งซั่วแห่งเขานิมิตทมิฬ

ดวงตาของเจิ้งซั่วมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง

เขาไม่ได้ไปทะเลสาบน้ำแข็ง ทว่าตั้งใจตามหาร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอและอาหู่ต่อในที่ราบหิมะแดนเหนือ

ไม่รู้ควรบอกว่าเขาโชคดีเกินไป หรือว่าเยี่ยนจ้าวเกอโชคร้ายเกินไป เพราะหลังจากหาอยู่หลายวัน เจิ้งซั่วก็เจอบ่อน้ำข้ามชั่วยามจริงๆ

ครั้งนี้เจิ้งซั่วไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอีก

เขาตั้งใจทบทวนที่แกนน้ำแข็งใต้ดินก่อนหน้านี้ เพราะตนทำแผนการรั่วไหล เยี่ยนจ้าวเกอจึงวางหลุมพรางได้ เกือบจะทำให้ทุกคนถูกฝังอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง

ถึงแม้จะไม่ได้กลับไปทะเลสาบน้ำแข็ง แต่ตอนนี้เจิ้งซั่วผูกสัมพันธ์กับจอมยุทธ์แห่งตำหนักอัสนีสวรรค์แล้ว ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก่อนหน้านี้เขาได้รับเบาะแสมาอีก ว่าเยี่ยนจ้าวเกอใช้เศษอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในทะเลสาบน้ำแข็ง ทำให้สูญเสียพลังงานมหาศาล ต่อให้ยังมีพลังหลงเหลือ เขาก็ไม่เกรงกลัว

ดังนั้น ครั้งนี้เขาจึงต้องการลงมือเอง ไม่ให้เวลาเยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวและตอบโต้

ชายชราเหยียบอากาศเข้ามา พลางมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเย็นชา สองมือกลายเป็นกรงเล็บ ข่วนลงด้านล่างพร้อมกัน

จากนั้นพายุนิมิตทมิฬอันน่ากลัวก็พุ่งจู่โจมใส่เยี่ยนจ้าวเกอจากบนฟากฟ้า

ขณะโหมกระหน่ำ พายุคล้ายกลายร่างเป็นเสือดำ ร่างของมันยาวพาดผ่านผืนฟ้าและผืนดินเป็นร้อยจั้ง ดูดุร้ายยิ่งนัก

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองอีกฝ่าย เป็นเคล็ดวิชาเทพวายุนิมิตทมิฬกับกรงเล็บภูตพยัคฆ์เหมือนกันแท้ๆ ทว่าเจิ้งซั่วใช้แล้วกลับรุนแรงยิ่งกว่าอาหู่

นี่คือมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่ให้กำเนิดรูปญาณวรยุทธ์ และหลอมจิตราให้กลายเป็นญาณได้สำเร็จ ยิ่งชรายิ่งแข็งแกร่ง

การโจมตีอย่างสุดกำลังของเศษดวงตาราชันสายฟ้าที่ทะเลสาบน้ำแข็งก่อนหน้านี้ ทำให้ชายชราแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ที่มีระดับพลังเดียวกันกับเจิ้งซั่วระเบิดเป็นผุยผง

เสาระเบียงวังเทพในตอนนี้กำลังผนึกเสาน้ำแข็งที่แช่แข็งซากมังกร

แต่หลายวันมานี้เยี่ยนจ้าวเกอได้พลังสายฟ้าที่เสียไปจากการใช้เศษดวงตาราชันสายฟ้ากลับมาแล้ว

กระนั้นจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะกลาง ต่อสู่กับจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะต้น เป็นเรื่องที่ไม่มีหวังแม้แต่น้อย

อย่างน้อยอาหู่ก็ยอมรับว่าตนเองมิอาจทำได้

คู่ต่อสู้ผู้นี้มิใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ถึงแม้เขานิมิตทมิฬจะสูญสิ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงสืบทอดต่อมา ก็คือหนึ่งในวรยุทธ์ชั้นยอดของโลกแปดพิภพ

เจิ้งซั่วส่งเสียงกู่ร้อง เสือดำที่เกิดจากปราณวิญญาณพุ่งมาถึงด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ

เสือส่งเสียงคำราม เกิดลมซัดกระหน่ำ มันว่องไวยิ่งนัก แทบไม่ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ที่อยู่ในระดับเดียวกันเลย

ก่อนที่จะถูกทำลาย สำนักเขานิมิตทมิฬมีวรยุทธ์มากมาย นอกจากจะทรงพลังและดุดันแล้ว ยังขึ้นชื่อว่ามีความเร็วปานลมกรด

กรงเล็บของเจิ้งซั่วได้แสดงจุดเด่นเรื่องนี้ให้เห็นอย่างชัดเจน

เยี่ยนจ้าวเกอเจอการจู่โจมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทว่าใบหน้ายังคงสงบนิ่ง เขาขยับร่างกายอย่างว่องไวครั้งหนึ่ง

ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอพลันหายวับไปในพริบตา

ในตอนนี้เอง เขาใช้วรยุทธ์ที่ขึ้นชื่อในด้านความเร็วหลายชนิดอย่างทะลุปรุโปร่ง

เมื่อมีคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเป็นพื้นฐาน ปราณจิตราของเยี่ยนจ้าวเกอจึงทั้งยิ่งใหญ่และแข็งกร้าว

ภายใต้ผลของแรงระเบิดรุนแรง เยี่ยนจ้าวเกอหลบเสือดำที่พุ่งเข้ามาหาในพริบตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี