ขณะมองพายุสีดำที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เยี่ยนจ้าวก็เกอสูดลมหายใจลึก “อาหู่ ไปนั่งอยู่บนไฟตะเกียง ใช้ปราณจิตราคุ้มครองพิธี”
อาหู่มองบริเวณที่อยู่ไกลออกไปด้วยความเป็นห่วง แต่ยังคงทำตามคำสั่งของเยี่ยนจ้าวเกอ
ร่างของเขาลอยอยู่เหนือน้ำพุ พลางเคลื่อนปราณจิตรา นั่งลงเหนือตะเกียงไฟสีทองที่เสาสูงสองต้นค้ำไว้
พายุสีดำแทรกด้วยปราณสีม่วงจางปรากฏบนร่างของอาหู่ ครอบคลุมบ่อน้ำข้ามชั่วยามด้านตะวันตกเอาไว้
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าปะทะกับพายุสีดำที่ม้วนมาจากสถานที่ที่อยู่ไกลออกไป
ด้านในพายุสีดำ ร่างชราร่างหนึ่งเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ สีหน้าเคร่งขรึม เป็นผู้อาวุโสเจิ้งซั่วแห่งเขานิมิตทมิฬ
ดวงตาของเจิ้งซั่วมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง
เขาไม่ได้ไปทะเลสาบน้ำแข็ง ทว่าตั้งใจตามหาร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอและอาหู่ต่อในที่ราบหิมะแดนเหนือ
ไม่รู้ควรบอกว่าเขาโชคดีเกินไป หรือว่าเยี่ยนจ้าวเกอโชคร้ายเกินไป เพราะหลังจากหาอยู่หลายวัน เจิ้งซั่วก็เจอบ่อน้ำข้ามชั่วยามจริงๆ
ครั้งนี้เจิ้งซั่วไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นอีก
เขาตั้งใจทบทวนที่แกนน้ำแข็งใต้ดินก่อนหน้านี้ เพราะตนทำแผนการรั่วไหล เยี่ยนจ้าวเกอจึงวางหลุมพรางได้ เกือบจะทำให้ทุกคนถูกฝังอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง
ถึงแม้จะไม่ได้กลับไปทะเลสาบน้ำแข็ง แต่ตอนนี้เจิ้งซั่วผูกสัมพันธ์กับจอมยุทธ์แห่งตำหนักอัสนีสวรรค์แล้ว ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก่อนหน้านี้เขาได้รับเบาะแสมาอีก ว่าเยี่ยนจ้าวเกอใช้เศษอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในทะเลสาบน้ำแข็ง ทำให้สูญเสียพลังงานมหาศาล ต่อให้ยังมีพลังหลงเหลือ เขาก็ไม่เกรงกลัว
ดังนั้น ครั้งนี้เขาจึงต้องการลงมือเอง ไม่ให้เวลาเยี่ยนจ้าวเกอเตรียมตัวและตอบโต้
ชายชราเหยียบอากาศเข้ามา พลางมองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเย็นชา สองมือกลายเป็นกรงเล็บ ข่วนลงด้านล่างพร้อมกัน
จากนั้นพายุนิมิตทมิฬอันน่ากลัวก็พุ่งจู่โจมใส่เยี่ยนจ้าวเกอจากบนฟากฟ้า
ขณะโหมกระหน่ำ พายุคล้ายกลายร่างเป็นเสือดำ ร่างของมันยาวพาดผ่านผืนฟ้าและผืนดินเป็นร้อยจั้ง ดูดุร้ายยิ่งนัก
เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองอีกฝ่าย เป็นเคล็ดวิชาเทพวายุนิมิตทมิฬกับกรงเล็บภูตพยัคฆ์เหมือนกันแท้ๆ ทว่าเจิ้งซั่วใช้แล้วกลับรุนแรงยิ่งกว่าอาหู่
นี่คือมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณที่ให้กำเนิดรูปญาณวรยุทธ์ และหลอมจิตราให้กลายเป็นญาณได้สำเร็จ ยิ่งชรายิ่งแข็งแกร่ง
การโจมตีอย่างสุดกำลังของเศษดวงตาราชันสายฟ้าที่ทะเลสาบน้ำแข็งก่อนหน้านี้ ทำให้ชายชราแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ที่มีระดับพลังเดียวกันกับเจิ้งซั่วระเบิดเป็นผุยผง
เสาระเบียงวังเทพในตอนนี้กำลังผนึกเสาน้ำแข็งที่แช่แข็งซากมังกร
แต่หลายวันมานี้เยี่ยนจ้าวเกอได้พลังสายฟ้าที่เสียไปจากการใช้เศษดวงตาราชันสายฟ้ากลับมาแล้ว
กระนั้นจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะกลาง ต่อสู่กับจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะต้น เป็นเรื่องที่ไม่มีหวังแม้แต่น้อย
อย่างน้อยอาหู่ก็ยอมรับว่าตนเองมิอาจทำได้
คู่ต่อสู้ผู้นี้มิใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ถึงแม้เขานิมิตทมิฬจะสูญสิ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงสืบทอดต่อมา ก็คือหนึ่งในวรยุทธ์ชั้นยอดของโลกแปดพิภพ
เจิ้งซั่วส่งเสียงกู่ร้อง เสือดำที่เกิดจากปราณวิญญาณพุ่งมาถึงด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
เสือส่งเสียงคำราม เกิดลมซัดกระหน่ำ มันว่องไวยิ่งนัก แทบไม่ด้อยไปกว่าผู้อาวุโสแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ที่อยู่ในระดับเดียวกันเลย
ก่อนที่จะถูกทำลาย สำนักเขานิมิตทมิฬมีวรยุทธ์มากมาย นอกจากจะทรงพลังและดุดันแล้ว ยังขึ้นชื่อว่ามีความเร็วปานลมกรด
กรงเล็บของเจิ้งซั่วได้แสดงจุดเด่นเรื่องนี้ให้เห็นอย่างชัดเจน
เยี่ยนจ้าวเกอเจอการจู่โจมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทว่าใบหน้ายังคงสงบนิ่ง เขาขยับร่างกายอย่างว่องไวครั้งหนึ่ง
ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอพลันหายวับไปในพริบตา
ในตอนนี้เอง เขาใช้วรยุทธ์ที่ขึ้นชื่อในด้านความเร็วหลายชนิดอย่างทะลุปรุโปร่ง
เมื่อมีคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเป็นพื้นฐาน ปราณจิตราของเยี่ยนจ้าวเกอจึงทั้งยิ่งใหญ่และแข็งกร้าว
ภายใต้ผลของแรงระเบิดรุนแรง เยี่ยนจ้าวเกอหลบเสือดำที่พุ่งเข้ามาหาในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี