ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 353

ในวันถัดมา เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่เดินทางข้ามทะเลเหนือโดยเรือ

ระหว่างทาง เยี่ยนจ้าวเกอทำความเข้าใจกับเศษเกล็ดมังกรที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งเหลือไว้ไปพลาง ดูดเลือดมังกรที่แฝงอยู่ในซากมังกรน้ำแข็งไปพลาง เพื่อฝึกฝนร่างกาย พร้อมกับดูดสุดยอดปราณวิญญาณ

การใช้เลือดมังกรฝึกร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อของเยี่ยนจ้าวเกอแข็งแกร่งขึ้นจากภายในสู่ภายนอกอย่างต่อเนื่อง

หลังจากดูดซับสุดยอดปราณวิญญาณในเลือดมังกรเสร็จ ปราณจิตราของเยี่ยนจ้าวเกอก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน

เนื่องจากมีโอกาสและทรัพยากรที่เป็นใจ จึงทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสะสมพลังปราณได้มากขึ้น ประหยัดเวลาฝึกปรือฝีมือไม่น้อย

ก่อนที่จะออกจากสำนัก เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งให้กำเนิดเมล็ดวิญญาณ บรรลุเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะกลาง บัดนี้เขาจึงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตนเองมีพัฒนาการวดเร็วยิ่งกว่าที่คาดไว้

ไม่เพียงแต่เมื่อต้องเทียบกับผู้อื่นเท่านั้น ยังรวดเร็วยิ่งกว่าการคาดการณ์ของตนเองเสียอีก

เขารู้สึกได้เลือนรางว่า เมล็ดวิญญาณของตนได้แตกหน่ออ่อน ให้กำเนิดหน่อวิญญาณ จะกลายเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตระยะท้ายได้ในอีกไม่นาน

นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงก่อนจะมายังแดนเหนือ ถึงอย่างไรก็มีไม่กี่คนที่ทราบว่าร่องรอยที่อยู่ของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งอยู่ในซากมังกรแท้

เยี่ยนจ้าวเกอเดินทางไปพลาง ฝึกฝนไปพลาง ทั้งยังหลบเลี่ยงอันตรายกลางทะเล และสายตาของตำนักอัสนีสวรรค์

น่านน้ำในทะเลเหนืออยู่ภายใต้การควบคุมของตำหนักอัสนีสวรรค์ ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่อยากจะเสียเวลาไปกับพวกเขา

เมื่อเรือแล่นเข้าสู่เมืองศิลา หนึ่งในเก้าเมืองของวารีพิภพ อันอยู่ทิศใต้สุดของทะเลเหนือ เยี่ยนจ้าวเกอก็หลุดจากวงล้อมของตำหนักอัสนีสวรรค์

เมืองศิลาจัดเป็นเมืองลำดับที่เก้าของวารีพิภพ อยู่ภายใต้การควบคุมของเมืองทะเลมรกต แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีพิภพ

ที่นี่มีผู้อาวุโสซึ่งเป็นผู้นำของเมืองทะเลมรกตนั่งแท่นบัญชาการ อีกทั้งยังมีขุมกำลังชั้นหนึ่งและชั้นสองที่ตั้งตัวในทะเลเหนือแห่งวารีพิภพอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง

พวกเขาแทรกซึมอยู่ในน่านน้ำทะเลเหนือ ที่มีตำหนักอัสนีสวรรค์ควบคุมอยู่โดยตลอด ทั้งสองฝ่ายจึงกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นประจำ

การแจ้งเตือนที่มืองทะเลมรกตได้รับก่อนหน้านี้คือ เยี่ยนจ้าวเกอมุ่งหน้าสู่ทะเลทางตะวันออก ทว่าร่องรอยของเขาหายไปหลังจากนั้น

แต่ว่าปัจจุบัน ข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอก่อความวุ่นวายที่แดนเหนือได้เผยแพร่ออกมาบ้างแล้ว

ดังนั้นเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง เขาจึงไม่ได้ปกปิดร่องรอยของตนเอง

ถึงแม้จะยังอายุน้อย แต่ตำแหน่งของเขามิใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ระดับเดียวกันจะเทียบได้ การเข้าสู่เขตเมืองทะเลมรกตซึ่งเป็นเมืองพันธมิตร ก็จำเป็นต้องแจ้งให้อีกฝ่ายรับทราบ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียมารยาท

เพราะอำนาจและภาระหน้าที่ในเขากว่างเฉิงของเยี่ยนจ้าวเกอนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเสียอีก

ถ้าหากเป็นไปได้ เดิมทีเยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดจะเข้าเมืองศิลาด้วยซ้ำไป

ทว่าระหว่างการเดินทางบนทะเลเหนือ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกถึงเค้าลางการฟื้นขึ้นของเสี่ยวสือจวินที่อยู่ในโลงน้ำแข็ง

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดคิด เขาจำเป็นต้องเตรียมตัว รวมถึงสิ่งของบางอย่าง จึงถือโอกาสขอให้จอมยุทธ์ในเมืองทะเลมรกตช่วยจัดหา

สถานที่ที่เมืองศิลาตั้งอยู่คล้ายกับเกาะใหญ่ ขนาดเท่าๆ กับทวีปขนาดเล็ก จอมยุทธ์ที่ไปมาจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น

เยี่ยนจ้าวเกอยังคงใส่เสื้อคลุมสีขาว คลุมทับไว้ด้วยเสื้อสีน้ำเงินขอบดำ

เขาไม่ได้ตั้งใจเปิดเผยตัวตน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังร่องรอย เดินอยู่บนถนนอย่างสบายๆ

ทว่าสายตาของคนรอบข้างกลับจดจ้องอยู่ที่ตัวของอาหู่

ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ ไม่ได้สนใจโดยสิ้นเชิง

วิธีแย่งความโดดเด่นของอาหู่ เยี่ยนจ้าวเกอไม่สนใจจะลองด้วยตนเองสักครั้ง

ระหว่างทางมานี้ อาหู่กับเยี่ยนจ้าวเกอดูดซับเลือดมังกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝึกฝนร่างกาย เพิ่มพลังฝึกปรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี