ทันทีที่ได้ยินข้อเสนอของเยี่ยนจ้าวเกอ จอมยุทธ์แห่งเมืองทะเลมรกตทั้งหลายล้วนตกตะลึง
อาหู่เองก็หันไปมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความงงงวยเช่นกัน
ถ้าหากสามารถล่อหนึ่งในราชันปีศาจอัคคีที่กำลังโจมตีเมืองไปได้ แรงกดดันของเมืองทะเลมรกตก็จะลดลงมาก
ถึงแม้ว่าตอนนี้ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดจะได้รับความเสียหาย แต่รับมือการโจมตีของราชันปีศาจอัคคีตัวเดียว อย่างน้อยก็น่าจะพอประคับประคองได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
เมื่อถ่วงเวลาได้เช่นนั้น จอมยุทธ์จากสถานที่อื่นน่าจะส่งกำลังสนับสนุนมาได้ทันท่วงที ถึงตอนนั้นก็เป็นปัญหาของราชันปีศาจออัคคีตัวนั้นที่ไม่อาจถอยได้อีกแล้ว
ส่วนฝั่งปีศาจอัคคีจะมียอดฝีมือตามมาอีกหรือไม่ ก็เป็นเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างไรเสียเผ่ามนุษย์ในมหาอำนาจแปดพิภพนี้ ก็ไม่ได้มีเมืองทะเลมรกตเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งเดียว
หลังจากพวกอันชิงหลินถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง พวกเขาย่อมต้องเพิ่มความระแวดระวังเป็นเท่าตัว
แต่ปัญหาอยู่ที่จะล่อราชันปีศาจออัคคีตัวหนึ่งให้อยู่ห่างจากที่นี่ได้อย่างไร
ปีศาจออัคคีน่าจะรู้แล้วเช่นกัน ว่าเวลาของพวกมันมีจำกัด ในเมื่อบุกมาถึงเมืองทะเลตะวันออกแล้ว เหตุใดต้องยอมแพ้ง่ายๆ ด้วยเล่า
อีกทั้งต่อให้ล่อราชันปีศาจอัคคีไปได้ตัวหนึ่ง แล้วจะถ่วงเวลาอย่างไร
เมื่อเห็นเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเอาจริงเอาจัง มุมปากของจอมยุทธ์เมืองทะเลมรกตบางคนพลันกระตุกเล็กน้อย
ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็เหมือนว่าเยี่ยนจ้าวเกอต้องการฉวยโอกาสหนีจากวิกฤตในขณะนี้ชัดๆ
หลังจากเมืองทะเลมรกตช่วยเขาฝ่าวงล้อมออกไปแล้ว อย่างน้อยก็มีแค่การไล่ล่าจากปีศาจออัคคีที่มีพลังฝึกปรือระดับมหาปรมาจารย์เท่านั้น ถ้าตั้งใจหนี ด้วยการเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสหนีพ้น
เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตเห็นสายตาเช่นนั้น แต่เขาก็มิได้สนใจ เขาเพียงมองซ่งเฉา ยอดฝีมือระดับสูงของเมืองทะเลมรกต และผู้อาวุโสสูงสุดที่เป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมด้านหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย
ผู้อาวุโสสูงสุดผู้นี้แซ่อวี๋ คนทั่วไปมักเรียกว่าเฒ่าอวี๋
เขาย่อมไม่ปลีกตัวหนี หากผู้อาวุโสด้านหน้าตำหนัก ที่กำลังใช้ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดในตอนนี้ต้านไม่ไหว เฒ่าอวี๋จะแทนที่เขาทันที
เฒ่าอวี๋มองเยี่ยนจ้าวเกอ กล่าวว่า “สหายเสี่ยวเยี่ยนฝ่าวงล้อมออกไปเป็นเรื่องดี ส่วนการดึงความสนใจของราชันปีศาจอัคคีจำเป็นต้องประมาณพลังของตัวเอง เจ้าไม่เคยสู้กับราชันปีศาจอัคคีมาก่อน แต่ก็น่าจะทราบถึงความน่ากลัวของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ดี”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ข้าทราบดีขอรับ”
ซ่งเฉากล่าวเสียงทุ้ม “ศิษย์น้องซือคงจากสำนักเจ้าอยู่ในเมืองเช่นกัน ศิษย์น้องเยี่ยนพานางออกไปด้วยกันเถอะ”
ชายหนุ่มพลันส่ายหน้า “ตามข้าออกไปน่าจะเป็นอันตรายยิ่งกว่าเดิม”
จอมยุทธ์ในเมืองทะเลมรกตทุกคนต่างหวั่นใจ พลางมองเยี่ยนจ้าวเกอ ‘เขาคิดจะดึงความสนใจของราชันปีศาจอัคคีจริงๆ หรือนี่’
เวลากระชั้นเข้ามาแล้ว ระหว่างที่คุยกันอยู่นี้ ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดเหนือศีรษะของทุกคนก็กำลังสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง
รอยฉีกบนม่านน้ำที่ปกคลุมอยู่ด้านบนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ายกลคุ้มภูเขาที่แข็งแกร่งในอดีตในตอนนี้กลับคลอนแคลนไม่มั่นคง
เมื่อมองไปเห็นร่องรอยบนม่านน้ำ ปรากฏกรงเล็บขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟลุกไหม้สองข้าง มันเริ่มแยกม่านน้ำออกจากกัน คิดจะขยายรอยแตกให้ใหญ่ขึ้น
เปลวไฟขนาดใหญ่หลายกลุ่มพุ่งลงมาจากในม่านน้ำที่แตกออกนั้น
ครั้งนี้กลับไม่ใช่อุกกบาบาตทั่วไป แต่เป็นปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งตัวหนึ่ง มันอาศัยการคุ้มกันจากราชันปีศาจออัคคี บุกเข้ามาผ่านรอยแยกของค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด!
ปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับมหาปรมจารย์ของเผ่ามนุษย์ กำลังพุ่งลงมาในเมืองทะเลมรกต!
เฒ่าอวี๋ตวาดเสียงหนึ่ง ก่อนจะใช้ร่างญาณวรยุทธ์ของตนเอง ปะทะกับปีศาจอัคคีที่บุกเข้ามาตัวนั้น
“ศิษย์น้องวังส่งสหายเสี่ยวเยี่ยนออกไป!” เฒ่าอวี๋ปะทะกับศัตรูพลางสั่งการ
ในเมื่อเฒ่าอวี๋ตัดสินใจแล้ว ผู้อาวุโสวัง ผู้อาวุโสระดับหนึ่งผู้ดูแลเมืองทะเลมรกตก็ไม่รีรออะไรอีก ใช้ลมปราณห่อหุ้มพวกเยี่ยนจ้าวเกอไว้ แล้วพุ่งไปนอกเมือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี