ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 383

ในปัจจุบันนี้ นอกจากเขากว่างเฉิง สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ และเขาไร้พรมแดน อาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นล้วนปรารถนา

แม้แต่ปราชญ์ภาพวาด ผู้อาวุโสม่อ และจอมมารหยวนเทียนที่ได้ตายไปแล้ว ต่างก็ตั้งใจสร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง

ทว่าตอนนี้ ในที่สุดเมืองทะเลมรกตก็ประสบความสำเร็จ สร้างอาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเองได้ นั่นก็คือกระบี่สัตยาทะเลมรกต

พบกับเรื่องร้าย เกือบจะล่มเพราะภัยพิบัติ

เจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงเก็บกดโทสะไร้สิ้นสุด ตอนนี้ได้ระบายออกมาหมด

ประกายกระบี่สีเขียวมรกตมากมายหายไป ไร้รูปร่างราวกับสูญสลาย

แต่ราชันปีศาจอัคคีสามตัวที่อยู่รอบๆ กลับรู้สึกหวั่นใจ พวกมันมิได้เพิ่งประมือกับจอมยุทธ์เมืองทะเลมรกตมาแค่วันสองวัน ย่อมทราบว่าสิ่งที่ต้องเผชิญในตอนนี้ก็คือสุดยอดวรยุทธ์แห่งเมืองทะเลมรกต กระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่าง

ประกายกระบี่ดูเหมือนไร้รูปร่าง แต่ความจริงกลับกลายเป็นปราณกระบี่ที่เล็กเช่นฝุ่นละอองจำนวนนับไม่ถ้วน

ถึงแม้ปราณกระบี่จะเล็กลง แต่ก็มั่นคงไม่สั่นไหว คมกริบเหลือประมาณ

นอกจากนี้มันยังกระจายไปทั่วทุกที่ แต่ไร้ร่องรอยให้เสาะหา ชอนไชเข้าไปทุกที่เฉกเช่นฝุ่นละออง

ซ่งอู๋เลี่ยงใช้ท่ากระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่างด้วยกระบี่สัตยาทะเลมรกต ส่งผลให้อานุภาพเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น

แทบจะเป็นในชั่วพริบตา ในทะเลเพลิงไร้ขอบเขตกลางท้องฟ้า พลันมีประกายกระบี่สีเขียวมรกตจำนวนนับไม่ถ้วนสว่างวาบ กระจายตัวออกไปทุกที่ เดียวผลุบเดี๋ยวโผล่ แปรปรวนเป็นพักๆ

สภาวะกระบี่ของอันชิงหลินยังคงนุ่มนวล ไม่แสดงประกายคมกริม เพียงแต่ร่วมมือกับซ่งอู๋เลี่ยงหยุดพวกราชันปีศาจอัคคี ปิดตายทางหนีของพวกมัน

อีกด้านหนึ่ง ในที่สุดหยวนเจิ้งเฟิงก็ลงมือ พลิกแพลงการโจมตี กลายเป็นบ้าคลั่งรุนแรง

และเนื่องจากได้รับการเสริมพลังจากเสื้อคลุมนภา ฝ่ามือที่หยวนเจิ้งเฟิงฟาดฝ่าลงยิ่งเหมือนกับฟ้าถล่ม ทำลายทะเลเพลิง

เยี่ยนจ้าวเกอมองดูอยู่ด้านล่าง พลางพยักหน้าหงึกหงัก

ถึงแม้ว่าหยวนเจิ้งเฟิง ซ่งอู๋เลี่ยง และอันชิงหลิงจะร่วมมือกันสู้น้อยครั้งมาก แต่เมื่อมีพลังถึงระดับพวกเขา ย่อมมีประสบการณ์เฟื่องฟู พลังสายตาล้ำเลิศ พอลงมือก็ประสานงานกันได้ดีเยี่ยม

ซ่งอู๋เลี่ยงถูกคนเหยียบย่ำสำนัก ไฟโทสะในใจจึงลุกโชติช่วง

กระบี่สัตยาทะเลมรกตสร้างสำเร็จ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ถือกำเนิด ถึงเวลาแก้แค้นระบายความอัดอั้น

แต่พอถึงเวลาลงมือจริงๆ เขายังมอบตำแหน่งโจมตีหลักให้แก่หยวนเจิ้งเฟิงที่เหมาะสมยิ่งกว่า ส่วนตนเองใช้กระบี่สัตยาทะเลมรกตควบคุมศัตรู ไม่หุนหันพลันแล่น

อันชิงหลินมิได้มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บ ครั้งนี้นางไม่ได้ฝืนอวดฝีมือ มอบหน้าที่หลักให้แก่หยวนเจิ้งเฟิงกับซ่งอู๋เลี่ยง นางเพียงรับผิดชอบอุดรูรั่วที่ด้านข้าง

หยวนเจิ้งเฟิงยินดีรับหน้าที่หลักไว้ รับผิดชอบโจมตีด่านหน้า ทำเอาราชันปีศาจสามตัวแทบจะป้องกันไม่ไหว

คู่ต่อสู้รับมือกับการโจมตีจากหยวนเจิ้งเฟิงอย่างทุลักทุเล กระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่างของซ่งอู๋เลี่ยงคอยหาโอกาสสังหารอยู่ด้านข้าง ก่อให้เกิดผลคุกคามอย่างใหญ่หลวง

ยอดฝีมือทางด้านวรยุทธ์ขั้นสุดยอด แห่งมหาอำนาจแปดพิภพทั้งสามคนร่วมมือกัน จัดการปีศาจอัคคีจนวุ่นวายเป็นพัลวัน

เมืองทะเลมรกตที่อยู่ด้านล่างสูญเสียค่ายกลป้องกัน สถานการณ์การต่อสู้อันรุนแรงย่อมส่งผลถึงที่นี่

ถ้าไม่ห่วงคนในเมืองทะเลมรกต พวกหยวนเจิ้งเฟิงจะได้เปรียบยิ่งกว่านี้

ในหมู่ราชันปีศาจอัคคีสามตัว เฉิงฮวงมีนิสัยใจร้อนที่สุด มันคำรามขึ้น ร่างงูขนาดมโหฬารพุ่งลงไปยังเมืองทะเลมรกตเบื้องล่าง!

ท่าทางนั้นเหมือนกับต่อให้ต้องตายลงที่นี่ ก็ต้องทำลายเมืองทะเลมรกต ฆ่าพวกเยี่ยนจ้าวเกอให้ได้

ทว่าตอนนี้ มีฝ่ามือขนาดยักษ์สองข้างจับร่ายกายที่มีหัวเป็นคน ตัวเป็นงูของเฉิงฮวง

แต่ข้อแตกต่างอยู่ที่เยี่ยนจ้าวเกอยอมเสี่ยงอันตราย อาศัยการช่วยเหลือจากเสื้อคลุมนภาซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้กระบี่สัตยาทะเลมรกตถือกำเนิดขึ้นได้สำเร็จ

ซ่งอู๋เลี่ยงกับกระบี่สัตยาทะเลมรกตต่อสู้อย่างดุเดือด พลันพลิกจากพ่ายแพ้เป็นชนะ

‘แต่ว่า ดูเหมือนจะเป็นเพราะข้า จึงทำให้สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์สูญเสียมาตรสุริยันวัดสวรรค์ไป’ ทันทีที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดถึงเรื่องนี้ รอยยิ้มของเขาก็หายไปในทันที

กลางท้องฟ้า เฉิงฮวงที่กำลังดิ้นรนอยู่ ก้มศีรษะมองเมืองทะเลมรกตเบื้องล่าง สายตาเหมือนหาอะไรอยู่

เยี่ยนจ้าวเกอไม่หลบสายตาของมัน เขาลอยนิ่งกลางอากาศเงียบๆ สบตากับเฉิงฮวงตรงๆ

เฉิงฮวงเบิกตาโพลง ส่งเสียงคำรามสะท้านฟ้า ร่ายกายระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายออกมา คิดจะดิ้นจากสองมือของหยวนเจิ้งเฟิง พุ่งไปหาเยี่ยนจ้าวเกอ

แต่มันก็ได้แต่คิดเท่านั้น ต่อให้หยวนเจิ้งเฟิงไม่มีเสื้อคลุมนภา มันก็มิใช่คู่ต่อของอีกฝ่ายสู้อยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้เขามีเสื้อคลุมนภา มันยิ่งยากจะขัดขืน

ราชันปีศาจอัคคีตัวนี้ได้แต่มองเยี่ยนจ้าวเกออย่างเดือดดาล ดวงตาคล้ายกับต้องการกลืนกินเขาเข้าไป

เยี่ยนจ้าวเกอมองเฉิงฮวงด้วยรอยยิ้ม โบกมือให้กับมันเหมือนทักทาย

เฉิงฮวงเห็นดังนั้น โทสะก็พวยพุ่งยิ่งขึ้น

ชายหนุ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว หลังจากโบกมือให้เฉิงฮวงแล้ว เขาก็ไม่สนใจมันอีก เพียงแต่กลับมาพิจารณาตนเอง

ถึงแม้จะสูญเสียวัตถุดิบไปค่อนข้างมาก แต่เตาผลึกชั้นในที่เสียไปสามารถสร้างใหม่ขึ้นได้ เขาไม่ได้กังวลนัก

สิ่งที่เขาสนใจก็คือ ตอนที่ช่วยเมืองทะเลมรกตสร้างอาวุธเมื่อครู่ พลังของค่ายกลได้ม้วนกลับ เติมเต็มกระบี่สัตยาทะเลมรกต ทำให้เขาที่อยู่ใจกลางค่ายกลได้ประโยชน์ไม่น้อย

ในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่ซัดสาดมหาศาลอยู่ในร่างกาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี