ถึงแม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่เคยไปบึงทะเลมายา แต่ก็ได้ยินชื่อของมันมานานแล้ว
นั่นเป็นบึงขนาดใหญ่ยักษ์ที่อยู่ทางใต้ของบึงพิภพ ตัดผ่านดินแดนสามดินแดน ได้แก่ เทือกเขาทิศใต้ บึงตะวันออก และบึงตะวันตกที่อยู่ในดินแดนทั้งหก
ด้านในมีภาพมายา พื้นที่กว้างใหญ่เหลือประมาณ เมื่อคนเข้าไปด้านในจะเจอกับอันตรายร้ายแรง
เมื่อจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ร่วงเข้าไป อาจจะไม่มีวันหวนกลับเพราะหลงทางอยู่ด้านใน
หอคลื่นโหม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าปกป้องบึงพิภพมาช้านานก็ยังไม่ได้ครอบครองที่นั่นได้โดยสิ้นเชิง
ปฐพีพิภพที่เปลี่ยนแปลงกลายเป็น ‘อเวจี’ มหาทะเลทรายแดนตะวันตกของวายุพิภพ ที่ราบหิมะแดนเหนือซึ่งอยู่ทางเหนือของภูผาพิภพและอัสนีพิภพ วังสุสานทะเลเพลิงที่ทุ่งร้างแดนใต้ และท้องทะเลไร้สิ้นสุดนอกทะเลของอัคคีพิภพ รวมถึงบึงทะเลมายาของบึงพิภพ ได้รับการขนามนามว่าเป็นดินแดนที่อันตรายที่สุดทั้งหกของมหาอำนาจแปดพิภพ
ช่วงเวลาสิบปีที่เยี่ยนตี๋พูดถึง ก็คือโลกมายาหมอกลวงในบึงทะเลมายาจะเบาบางลงทุกสิบปี เมื่อเทียบกับยามปกติ
ในช่วงเวลานั้น คนที่เข้าไปในบึงทะเลมายาจะปลอดภัย ขณะเดียวกันส่วนลึกของบึงจะเกิดปรากฏการณ์ ‘สายรุ้งกางเขน’ ขึ้น
สายรุ้งทั้งสองสายมิได้ทับซ้อนกัน สายหนึ่งทอดจากทางตะวันตะออกไปตะวันแตก ส่วนอีกสายทอดจากทางเหนือไปะทางใต้ ตัดกันกลางท้องฟ้า
เยี่ยนจ้าวเกอรับปิ่นหยกชิ้นนั้นมาจากมือของเยี่ยนตี๋ พลางมองลวดลายกระเรียนหิมะบนตัวปิ่น
เยี่ยนตี๋กล่าวเชื้องช้า “การปรากฏของสายรุ้งกางเขนส่วนใหญ่เป็นเพราะเกิดการบิดเบี้ยวของท้องฟ้าที่นั่น”
“เมื่อท้องฟ้าบิดเบี้ยวถึงระดับหนึ่ง จะเปิดเป็นทางเชื่อมไปยังโลกอื่น สิบปีก่อนข้าไปยังบึงทะเลมายา ถึงแม้จะเห็นรุ้งกางเขน แต่ท้องฟ้าที่นั่นมิได้เปิดเป็นทาง ครั้งนี้ก็อาจจะไม่มี แต่เจ้าลองไปดูก่อน”
ชายหนุ่มพยักหน้า แล้วตอบว่า “ได้ขอรับ”
เขาเงยหน้าไปมอง เยี่ยนตี๋ในตอนนี้มีสีหน้าอ่อนโยนและกลัดกลุ้มอย่างหาได้ยาก
เยี่ยนจ้าวเกอแสร้างทำเป็นไม่รู้ นั่นเป็นเพราะมารดาของตน ภรรยาของเยี่ยนตี๋ เสวี่ยชูฉิง
ความจริง ในความทรงจำของเยี่ยนจ้าวเกอมีภาพของมารดาอยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วมาจากคำบรรยายของผู้อื่น
ตามภาพทรงจำ มารดาของตนเป็นจอมยุทธ์ที่ฝึกปรือพลังด้วยตนเอง แต่ว่าวรยุทธ์ของนางไม่ธรรมดา ไม่ด้อยกว่าลูกศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหก ทั้งยังมีร่องรอยหลงเหลือก่อนมหาภัยพิบัติด้วย
ตอนที่นางยังอยู่บนโลกใบนี้ ยังถูกคนจำนวนมากเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สืบทอดของปราชญ์ภาพวาดผู้อาวุโสม่อ
ต่อมาเยี่ยนตี๋ เสวี่ยชูฉิง และจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นเดินทางบนทะเลตะวันออก ได้คำนับผู้อาวุโสม่อเมื่อผ่านเกาะภาพวาด ทางเกาะภาพวาดได้ปฏิเสธอย่างชัดเจน จึงยืนยันได้ว่าเสวี่ยชูฉิงมิใช่คนของเกาะภาพวาด ตามที่นางบอก นางฝึกฝนวรยุทธ์ก่อนมหาภัยพิบัติด้วยตัวเอง
แต่ว่าก่อนหน้านี้ยี่สิบปี ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอยังแบเบาะ เสวี่ยชูฉิงก็หายสาบสูญไป
มีคนเห็นว่านางหายสาบสูญในสายรุ้งกางเขนที่เกิดในบึงทะเลมายา ที่สิบปีจะมีขึ้นสักครั้งหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยนตี๋ ริมฝีปากสั่นเทา ไม่ได้พูดอะไร
เยี่ยนตี๋ยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ว่ามารดาเจ้ามิได้ตายที่บึงทะเลมายา และมิได้หลงทางอยู่ในนั้น นี่ใช่คำปลอบโยน”
บุตรชายพลันประหลาดใจ “จริงหรือขอรับ”
“สิ่งที่คนอื่นไม่รู้ก็คือ ก่อนชูฉิงจะไป นางเคยพูดกับข้าว่าไว้เจอกันวันหลัง” เยี่ยนตี๋เล่า “นางมิได้กล่าวอย่างละเอียด ข้าเองก็ไม่ได้ไถ่ถาม แต่ว่าเรื่องที่รู้อยู่แล้วทำให้ข้าพอเดาอะไรบางอย่างออก
“มารดาเจ้าโผล่มาเมื่อสามสิบปีก่อน ถึงแม้นางจะบอกคนอื่นมาตลอดว่าก่อนหน้านี้นางพักกับอาจารย์ผู้มีพระคุณ หลังจากอาจารย์นางตายจึงได้ออกเดินทาง แต่เมื่อสามสิบปีก่อน อดีตของนางว่างเปล่า”
เยี่ยนตี๋กล่าวเสียงเบา “เหมือนกับว่าไม่เคยอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี