ความทรงจำที่มีต่อเสวี่ยชูฉิงผู้เป็นมารดาช่างบางเบายิ่ง ด้วยเหตุนี้จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอจึงค่อนข้างสงบ
แต่เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอเห็นแววตากลัดกลุ้มอันหาได้ยากของเยี่ยนตี๋ ก็รู้สึกเศร้าใจอยู่ชั่วขณะ
ทันทีที่เห็นสีหน้าที่อยากให้ภรรยากลับมาของบิดา เยี่ยนจ้าวเกอก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง บนใบหน้าพลันยิ้มอย่างมีลับลมคมนัย เข้าไปถามว่า “ท่านพ่อ ท่านกับท่านแม่ใครร้ายกาจกว่ากัน”
เยี่ยนตี๋ได้ยินดังนั้นพลันหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “เจ้าคิดถึงเรื่องนี้หรอกหรือ”
“ตอนนั้นชื่อเสียงของท่านเหนือกว่าท่านแม่ วันนี้ได้ยินท่านพูด ถึงรู้ว่าวรยุทธ์ที่ท่านแม่ฝึกฝนนั้นเหนือกว่า แต่ซ่อนเอาไว้ไม่เปิดเผย ข้าจึงสงสัย” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างเป็นเหตุเป็นผล “บางทีในตอนนั้นท่านแม่อาจจะไว้หน้าท่านต่อหน้าคนนอกก็ได้”
เยี่ยนตี๋ใช้นิ้วชี้เยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายศีรษะ “เจ้านี่นะ…”
ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ ถามต่อ “บอกข้าเถอะๆ”
บิดาอดยิ้มขึ้นไม่ได้ จากนั้นก็ย้อนความหลังอย่างจริงจัง “ข้ากับนางไม่เคยสู้กันมาก่อน ดังนั้นจึงไม่กล้ายืนยัน แต่ข้าสมควรเหนือกว่าขั้นหนึ่ง ทว่า…”
เขาหรี่ตาเล็กน้อย “ชูฉิงสมควรเหนือกว่าศิษย์พี่สองกับหวงซวี่
“หากใช้พลังของตัวเองมาวัด ชูฉิงเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอมา”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็พลันถามด้วยรอยยิ้ม “โดดเด่นกว่าท่านอีกหรือขอรับ”
เยี่ยนตี๋ตอบเลี่ยงๆ “ประการนี้เหนือกว่าข้า ถ้าหากพวกเราแสดงความสามารถ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์หนึ่งอย่าง แต่เมื่อชูฉิงแสดงความสามารถ จะก่อให้เกิดผลลัพธ์มากกว่าหนึ่งอย่าง นี่มิได้เกี่ยวข้องกับวรยุทธ์ที่นางฝึกฝน เหมือนจะเป็นพรสวรรค์มากกว่า”
บุตรชายถาม “พูดถึงพรสวรรค์ หลงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างขอรับ”
หลังจากสือเถี่ยเสียชีวิตลง ในหมู่ลูกศิษย์ของเขา อิงหลงถูเข้าสำนักช้าที่สุด อายุยังน้อย จึงไม่เคยฝึกฝน
พวกผู้อาวุโสแห่งเขากว่างเฉิงปรึกษากัน สุดท้ายก็ให้เยี่ยนตี๋เป็นคนชี้แนะอิงหลงถู
แต่ว่าในลำดับการรับช่วงต่อของสำนัก อิงหลงถูยังคงเป็นลูกศิษย์ของสำนักสือเถี่ย เยี่ยนตี๋นับว่าสอนแทนเท่านั้น
ความจริงแล้ว ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเจออิงหลงถู ก็รู้สึกทันทีว่าเหมาะสมกับบิดาของตนมากที่สุด ไม่ใช่อาจารย์ลุงสือเถี่ย แต่เป็นเยี่ยนตี๋บิดาของตน
หลงเอ๋อร์ถึงแม้จะมีจิตใจไร้เดียงสา แต่ความเข้าใจในวรยุทธ์ยอดเยี่ยมยิ่ง เรียนรู้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง
ผู้อื่นศึกษาอย่างละโมภโลภมาก ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
กระนั้นหลงเอ๋อร์แม้จะศึกษาทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ละอย่างก็ชดเชยให้แก่กันและกัน ก่อให้เกิดการเรียนรู้
กล่าวอีกอย่าง นอกจากอุปนิสัยจะไม่เหมือนกันแล้ว การเรียนวรยุทธ์ของหลงเอ๋อร์เหมาะจะเดินอยู่บนเส้นทางของเยี่ยนตี๋บิดาของตน หรือไม่ก็อาจารย์ลุงสองฟางจุ่นมากกว่า
ทว่าระหว่างเยี่ยนตี๋กับฟางจุ่น ฝ่ายแรกไม่รับลูกศิษย์ นอกจากอาหู่ที่มีความสามารถแต่ไร้ชื่อเสียงแล้ว ในสำนักมีลูกศิษย์สายตรงแค่สองคนเท่านั้น
คนหนึ่งคือเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว อีกคนก็คือบุตรของเฟิงฉือซึ่งเป็นสหายที่คบกันมานาน เฟิงม่อหยาง
อีกทั้งการรับเฟิงม่อหยางเป็นลูกศิษย์สายตรงยังมีเหตุผลที่เหมาะสมอยู่ด้วย ซึ่งก็คือการบ่มเพาะพรสวรรค์ในด้านการปรุงโอสถของเขา
ฝ่ายหลังคอยดูแลเรื่องราวของสำนัก มีภารกิจมากมาย หลังจากจื้อลูเวิ่น เขาก็ไม่ได้รับลูกศิษย์อีก
แน่นอนว่าสือเถี่ยสอนลูกศิษย์ได้ยอดเยี่ยมยิ่ง โดยเฉพาะเขายังไม่ชี้แนะลูกศิษย์โดยใช้ตัวเองเป็นแบบอย่างด้วย
ถึงแม้ว่าสวีเฟยจะเหมือนกับเขาที่เชี่ยวชาญในวรยุทธ์เดียว แต่ว่าการสอนอิงหลงถู่กลับเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เขาวางรากฐานไว้ค่อนข้างดีกว่า
อิงหลงถูตอนนี้เปลี่ยนไปให้เยี่ยนตี๋ชี้แนะแทน ก็ไม่ได้ติดขัดอันใด
เยี่ยนตี๋เองก็ตั้งใจบ่มเพาะผู้สืบทอดที่ศิษย์พี่ใหญ่ของตนฝากฝังไว้อย่างเต็มที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี