ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 417

เยี่ยนจ้าวเกอเคยเห็นปรากฎการณ์รุ้งกินน้ำสองสายมาแล้ว ทว่าหนึ่งสายอยู่ด้านใน อีกหนึ่งสายอยู่ด้านนอก เรียงตัวอยู่ข้างๆ กัน ตีโค้งวาดผ่านท้องฟ้าพร้อมกัน

ถึงแม้ว่าสีของรุ้งกินน้ำสองสายนั้นจะมีเจ็ดสี แต่ว่าสีจัดเรียงตามลำดับได้ตรงข้ามกันพอดี สายหนึ่งเป็นสีแดงไปจนถึงสีม่วงจากด้านในมาถึงด้านนอก ส่วนอีกสายตรงข้ามกัน คือสีม่วงไล่มาถึงสีแดง

ตามที่เยี่ยนจ้าวเกอทราบ นั่นเป็นเพราะการหักเหจากดวงอาทิตย์และไอน้ำ ถึงแม้จะเห็นได้น้อย แต่ก็ยังนับว่าเป็นปรากฏการณ์ทั่วไป

แต่ว่าสายรุ้งกางเขนเบื้องหน้านี้ เป็นรุ้งกินน้ำที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนสองสาย ตัดสลับในแนวนอนและแนวขวางอยู่กลางอากาศ สายหนึ่งลากยาวจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันออกตก ส่วนอีกสายลากยาวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้

แม้เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งจะเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก ก็ยังอดจุ๊ปากชมเชยไม่ได้

เมื่อเข้าใกล้อาณาเขตที่สายรุ้งกางเขนอยู่ หมอกลวงก็เบาบางลง พลังที่บึงทะเลมายาใช้ล่อลวงคนราวกับอ่อนกำลังลงมาก

ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ร่างของพวกสวีเฟยปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ครั้นก้มหน้าลงมอง เขายังคงกำเส้นเชือกอยู่ในมือ มันไม่ได้ขาดไปเหมือนในภาพลวง

กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้วางใจในทันที ใครจะรู้ว่าภาพเบื้องหน้านี้เป็นของจริงหรือของปลอม เพราะบางครั้งภาพมายาจะเลียนแบบความปรารถนาของตนที่ยังไม่เป็นความจริง การตามหาสายรุ้งกางเขนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่พวกตนเข้ามายังบึงทะเลมายา

ความยึดมั่นในจิตใจ หลายครั้งจะกลายเป็นอุปสรรคที่ล่อลวงจิตใจของคนเช่นกัน

เยี่ยนจ้าวเกอสงบจิตใจ ความคิดดำดิ่งอยู่ในคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต พลางเคลื่อนไหวลมปราณรอบๆ ตัว

เมื่อมองจากภายนอก เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนปกติทุกอย่าง แต่ว่าถ้าหากมีคนสังเกตเขาอย่างละเอียดในตอนนี้ ก็จะเกิดความรู้สึกเหมือนเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้

ชายหนุ่มรู้สึกว่าระยะการมองเห็นของตนเองค่อยๆ หลุดจากพันธนาการของบึงทะเลมายา มีแนวโน้มที่หลุดออกด้านนอก

ในบึงทะเลมายาเบื้องหน้าคล้ายมีภาพมายาปรากฏขึ้นสลับกัน แต่พอเข้าสายใกล้รุ้งกางเขน ก็กลับสงบลงมาก

หลังจากตั้งใจพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่าปราณวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลง และรู้สึกได้ว่าสายรุ้งกางเขนเบื้องหน้าเป็นปรากฏการณ์ของจริง ตนมิได้เข้ามาอยู่ในภาพมายาอีกรอบ

แต่สถานการณ์ของอิงหลงถูที่อยู่ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอไม่ค่อยดีเท่าใดนัก

ดวงตาของเด็กน้อยแข็งค้าง หัวเราะอย่างโง่งม บนใบหน้าปรากฏความเคารพเชื่อฟัง คล้ายกับกำลังปรนนิบัติผู้ให้กำเนิด

เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจ สำหรับหลงเอ๋อร์แล้ว ชีวิตที่ยังไม่เติบโตทั้งตรงไปตรงมาทั้งไร้เดียงสา พอใจและมีความสุขได้ง่าย

ทว่าตอนหลงเอ๋อร์เป็นเด็ก กลับมิได้สิ่งที่ต้องการนา

บิดามารดาโชคร้าย สุดท้ายความเจ็บปวดของหลงเอ๋อร์ก็ยากจะลบออกไป

การตายของอาจารย์ผู้มีพระคุณสือเถี่ยยิ่งส่งผลกระทบอย่างหนัก

ถึงแม้ว่าในแต่ละวันหลงเอ๋อร์จะทำตัวร่าเริ่ง ไม่ได้กังวลอะไร เหมือนไม่ใส่ใจกับความเจ็บปวดและความกลุ้มใจ แต่ว่าในความคิดอันไร้เดียงสาของเขา ผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดไป

เยี่ยนจ้าวเกอตบไหล่ของอิงหลงถูโดยแรง ทำเอาอิงหลงถูหันกลับมามองอย่างงงัน

เขาเพิ่งจะหมุนตัว นิ้วชี้อีกมือหนึ่งของเยี่ยนจ้าวเกอก็จิ้มใส่หว่างคิ้วของอิงหลงถู

เด็กหนุ่มสะดุ้งเหมือนโดนไฟฟ้ากระตุ้น ขนทั่วร่างตั้งชัน ขณะที่ถูกโจมตี ร่างกายป้องกันตัวเองโดยสัญชาตญาณ

แต่ว่าในพริบตานี้เอง อิงหลงถูก็ได้สติกลับมา สายตาไม่แสดงความงงงวยอีกต่อไป แต่มีประกายกระจ่างใสเช่นเดิม

อิงหลงถูมองเยี่ยนจ้าวเกอ ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และอย่างระแวดระวังว่า “ศิษย์พี่เยี่ยน ข้า…”

“วางใจเถอะ ข้ารู้แก่ใจดี” สวีเฟยพูดจบก็ปล่อยเชือกทันที จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวเลียบชายขอบอาณาเขตที่สายรุ้งกางเขนครอบคลุมอยู่ ตามหาหมอกฝนชีวิตที่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บ

เฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ และอิงหลงถูเข้าช่วยด้วยอีกแรง สำหรับเฟิงอวิ๋นเซิงกับอิงหลงถู การเคลื่อนไหวเพียงคนเดียวในตอนนี้นับว่าเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยตัวเอง

เยี่ยนจ้าวเกอยังคงอยู่ที่เดิม เงยหน้าหยีตามองสายรุ้งกางเขน

หลังจากตามหาอยู่สักพัก พวกสวีเฟยก็กลับมาตรงที่เยี่ยนจ้าวเกออยู่ ทุกคนล้วนถอนใจ “ได้แต่ต้องรอดูว่าหมอกฝนชีวิตจะเกิดขึ้นตอนรุ้งกางเขนหายไปแล้วหรือไม่ ถ้าหากไม่มี ค่อยลองหาในสถานที่อื่นของบึงทะเลมายา นับว่างมเข็มในมหาสมุทรแท้ๆ”

“การเปลี่ยนแปลงของมิติรุนแรงจริงๆ แต่ว่ายังไม่ได้เปิดเป็นทางเชื่อมไปยังโลกอื่น” ทางเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้ความอันใดเช่นกัน คิดในใจ ‘แต่ก็ยังดี สายรุ้งกางเขนจะอยู่ไปอีกสักพักใหญ่ๆ บางทีอาจจะมีโอกาส’

พวกเยี่ยนจ้าวเกอรออยู่ที่เดิมพร้อมกับความคิดเช่นนี้

ไม่ทันถึงสองวัน ตอนเที่ยงของวันหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอพลันเงยหน้ามองด้วยความตื่นเต้น เพราะเขาเห็นการบิดเบี้ยวของมิติตรงจุดที่สายรุ้งกางเขนไขว้กันรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ณ ที่แห่งนั้น ท้องฟ้าถูกขยี้อย่างรุนแรงเหมือนผืนภาพวาด ก่อนจะค่อยๆ แยกเป็นรู!

“โผล่มาแล้ว มีจริงๆ ด้วย!” เยี่ยนจ้าวเกอฮึกเหิม รีบพูดกับอาหู่ “รีบกลับไปรายงานสำนัก บอกบิดาข้าว่า…”

เสียงยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าถุงย่อส่วนของตนเองสั่นไหวอย่างแรง จากนั้นกระเรียนหิมะที่เกิดจากลำแสงก็พุ่งออกมา!

กระเรียนหิมะกระพือปีก ม้วนพวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ใต้สายรุ้งกางเขนขึ้นไป แล้วพุ่งเข้าไปหาหลุมดำกลางอากาศประดุจสายฟ้าแลบ!

……………………………………….

[1] หนังไม่มีแล้วขนจะขึ้นตรงไหน สุภาษิตจีน หมายถึง สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม สิ่งใดจะดำรงอยู่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี