เยี่ยนจ้าวเกอที่รับรู้ถึงคลื่นพลังที่ส่งมาจากด้านนอก กะพริบตาปริบๆ
ครั้งนี้เกาฟ่างกับบัณฑิตวัยกลางคนมองพวกเยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับมองคนตายและคนเสียสติ
ถึงแม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้พูดถึง แต่พวกเขาคาดเดาได้ว่าพวกเยี่ยนจ้าวเกออาจจะล่วงเกินสำนักเมฆาโลหิตเข้าแล้ว
พวกเขาพลันรู้สึกขุ่นเคือง หากรู้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ เหตุใดต้องกลุ้มใจด้วยว่าจะกำจัดพวกเยี่ยนจ้าวเกออย่างไร ขอแค่รายงานการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มให้สำนักเมฆาโลหิตทราบ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นประเทศฟู่หรานหรือดินแดนขนาดใหญ่รอบๆ ล้วนเป็นอาณาเขตของสำนักเมฆาโลหิตทั้งสิ้น
การหาเรื่องสำนักเมฆาโลหิตที่นี่ จะมีจุดจบที่ดีได้อย่างไร
เกาฟ่างกับบัณฑิตวัยกลางคนรู้สึกยินดียิ่ง คล้ายกับเห็นจุดจบที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอสิ้นชีวิตแล้ว
แต่ในขณะที่ยินดีอยู่นั้น ทั้งสองก็รู้สึกวิตกเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาตกอยู่ในกำมือเยี่ยนจ้าวเกอ ต่อให้ชายหนุ่มถูกสำนักเมฆาโลหิตฆ่า พวกเขาก็ต้องตายไปด้วย แกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ๆ
บัณฑิตวัยกลางคนหันมามองเกาฟ่างแวบหนึ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ‘ตาเฒ่าเจ้าไม่ตรวจสอบรายละเอียดของอีกฝ่ายให้ดีก็ลงมือ ลากข้าลงน้ำมาด้วย’
สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอยังคงผ่อนคลาย เขาหิ้วท้ายทอยของพ่านพ่านจากในอ้อมอกของเฟิงอวิ๋นเซิงมาด้านหน้า “พวกท่านดูนี่ มันนับว่าอยู่ในชั้นใด”
เกาฟ่างตอบอย่างเซื่องซึม “ปี่เซียะภูเขาถูกพูดถึงในเรื่องเล่าก่อนมหาภัยพิบัติเท่านั้น ข้าเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก ดังนั้นตอนนี้จึงบอกไม่ได้ว่าเป็นชั้นใด ต้องศึกษาสักครั้งถึงจะแน่ใจ แต่ว่าตามเรื่องเล่าก่อนมหาภัยพิบัติ อย่างน้อยก็อยู่ในสามชั้นสูง”
เยี่ยนจ้าวเกอถามด้วยรอยยิ้ม “ชั้นแรกที่สูงที่สุดมีตัวอะไรบ้าง”
บัณฑิตวัยกลางคนตอบ “ชั้นแรกที่สูงที่สุด ไม่นับที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ นับแค่สัตว์ปีศาจที่ยังมีชีวิตอยู่ มีด้วยกันห้าตัว”
“ราชสีห์วิเศษซวนหนี[1]เลือดผสม พญาปักษาชิงเหนี่ยว[2] ลูกหลานเลือดผสมของชิงหลวน[3] วานรทองเลือดบริสุทธ์ มังกรไร้เขาชิงชือหนึ่งตัว และอีกาอัคคีหนึ่งตัว”
เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตา “มีสัตว์จำพวกมังกรแท้ กิเลน หรือนกทองหรือไม่”
บัณฑิตวัยกลางคนตอบ “นี่กลับไม่มี ล้วนเป็นเรื่องเล่าก่อนมหาภัยพิบัติทั้งสิ้น”
ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะโยนพ่านพ่านกลับไปให้เฟิงอวิ๋นเซิง ใช้ภาษามหาอำนาจแปดพิภพกล่าวว่า “สายเลือดของเจ้าตัวขี้เกียจนี่ ในสายเลือดที่จอมยุทธ์โลกลอยน้ำเจอได้ นับว่าเป็นตัวตนชั้นสูงที่สุด”
“ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเลือดผสม แต่สัตว์ร้ายกลายพันธุ์ของที่นี่ก็มีมากว่าโลกเรา ถึงว่าเหตุใดจอมยุทธ์ธรรมดาจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ต้องเปลี่ยนมาฝึกเส้นทางสายเลือดสัตว์ปีศาจแทน”
ระหว่างที่พูดกันอยู่ ตัวเรือนด้านนอกก็พังทลายลง ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง ฝุ่นผงตลบอบอวลไปทั่ว
มีเพียงแต่คนที่อยู่ในห้องโถงเท่านั้นที่เหมือนได้รับการปกป้องจากพลังอันไร้รูปร่าง ไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย
พลังปีศาจด้านนอกทะลักทลาย เกิดเป็นริ้วคลื่นกระเพื่อมเล็กน้อย
มีเสียงเย็นชาดังมา “เจ้าโจรโง่เง่า รีบออกมามอบตัว ไม่อย่างนั้นเจ้าต้องเสียใจ!”
เยี่ยนจ้าวเกอหันไปมองพวกเกาฟ่าง ถามยิ้มๆ “นี่คือผู้บัญชาการทัพง้าวแดงกระมัง?”
พวกเกาฟ่างพยักหน้า “มิผิด ผู้บัญชาการทัพง้าวแดง เหลียงฮั่น ในเมืองสินธุเสถียรนี้นับเป็นยอดฝีมือที่ถูกจัดอยู่ในห้าอันดับแรก ฝึกฝนสายเลือดชั้นสูงสุดในชั้นสามกลาง สายเลือดของอินทรีทองตาสีชาด กองทัพที่อยู่ในบัญชาการของเขาส่วนใหญ่ล้วนฝึกฝนสายเลือดอินทรีทองตาสีชาดทั้งสิ้น ใช้กระบวนทัพง้าวยักษ์ปีกสีชาดได้”
ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวอย่างเรียบเฉย “ผู้บัญชาการเหลียงใช่หรือไม่? ข้าว่าท่านเชิญองค์ราชาที่กำลังเข้าฌานของท่านมาจะดีกว่า สถานการณ์ในตอนนี้ท่านรับผิดชอบไม่ไหวแน่”
เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ดังมาก แต่กลับชัดเจนจนทำให้ทุกคนได้ยินอย่างแจ่มชัด
ด้านนอกห้องโถง ตัวเรือนกลายเป็นซากปรักหักพัก หลังจากฝุ่นหายไปแล้ว บุรุษวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ สวมเกราะสีแดง มีใบหน้าเคร่งขรึมผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ บุรุษสวมเกราะแดงก็เอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อดื้อดึงถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ฆ่าทันทีมิต้องไต่สวน”
พูดจบ เขาก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้น คิดจะฟันลงด้านล่าง เหล่าแม่ทัพซึ่งสวมเกราะดำ มือถือง้าวยักษ์สีแดงที่อยู่รอบๆ ล้วนตรียมจู่โจม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี