ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 432

อาชาเพลิงพยศถูกพ่านพ่านพลิกคว่ำ ขณะที่มันกำลังจะตะกายขึ้นมาจากพื้น เจ้าแพนด้ายักษ์กลับฟาดขาหน้าใส่อีกครั้ง จนมันล้มลงกับพื้นเช่นเดิม

หนึ่งในศีรษะขนาดใหญ่โอฬารทั้งสามถูกพ่านพ่านตบขาด กระเด็นหวือไปไกล ก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง

องค์ราชาแห่งประเทศฟู่หรานที่อยู่ในราชวังไกลออกไป พลันมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่งนัก

ในตอนที่อาชาเพลิงพยศถูกพ่านพ่านตบล้ม พวกองค์รัชทายาทแห่งฟู่หรานและผู้บัญชาการทัพง้าวแดงเหลียงฮั่นต่างหมดอาลัยตายอยาก กระนั้นองค์ราชาแห่งฟู่หรานกลับใจเย็นอย่างน่าประหลาด

ในดวงตาทั้งสองของเขาถึงกับปรากฏความฮึกเหิม

องค์ราชาแห่งฟู่หรานยื่นสองมืออกไปด้านหน้า ส่งเสียงคำรามต่ำ ลายแสงของค่ายกลที่ปกคลุมเมืองสินธุเสถียรสั่นไหวเหมือนกับระลอกน้ำ ครอบคลุมศีรษะที่ขาดไปและร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บของอาชาเพลิงพยศ

แต่ว่าพ่านพ่านพลันคำรามขึ้นเช่นกัน ก่อนจะฟาดใส่ศีรษะอีกข้างหนึ่งของอาชาเพลิงพยศจนกระเด็น!

ลายแสงหลายสายที่หมุนวนบนค่ายกลแหลกสลายอย่างต่อเนื่องเพราะฝีมือของพ่านพ่าน

องค์ราชาแห่งฟู่หรานเห็นภาพนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเหาะจากเหนือพระราชวัง พุ่งมาหาพ่านพ่านกับอาชาเพลิงพยศ

ในตอนนี้ พ่านพ่านยืนจังก้าอยู่บนพื้น ยกขาหลังของตัวเองข้างหนึ่ง จากนั้นก็กระทืบใส่ร่างของอาชาเพลิงพยศที่เหลือศีรษะแค่สองข้าง

อาชาเพลิงพยศส่งเสียงร้องขึ้น เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เพราะถูกพ่านพ่านเหยียบไว้มิอาจเคลื่อนไหว

ร่างแสงของม้าสามหัวขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ครอบคลุมร่างขององค์ราชาแห่งฟู่หราน กีบเท้าทั้งสี่ควบตะบึงดั่งสายลม พุ่งเข้ามาโดยเท้าแทบไม่ติดพื้น

ท่ามกลางพายุสีดำ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ทราบว่าท่านคิดอะไรกันแน่ แต่พวกข้าไม่คู่ควรกับบุญคุณของท่านหรอก”

พ่านพ่านคำราม น้ำสีดำหลายสายปรากฏขึ้น กลายเป็นกำแพงขวางอยู่เบื้องหน้าองค์ราชาแห่งฟู่หราน

ม้าสามหัวขนาดยักษ์ตัวนั้นชนใส่กำแพงน้ำสีดำอย่างจัง มันส่งเสียงร้องโหยหวน ลำแสงหลายสายแหลกสลาย มิอาจทำลายกำแพงน้ำได้

ในขณะเดียวกัน พ่านพ่านเพิ่มแรงเหยียบอีกครั้ง พลังอันบ้าคลั่งเหยียบย่ำลงด้านล่าง พื้นดินแตกร้าวไปทั่วสี่ทิศอย่างต่อเนื่อง

กระดูกอกของอาชาเพลิงพยศหัก ศีรษะสองข้างที่เหลืออยู่มีเลือดสดๆ พวยพุ่ง เปลวไฟที่หมุนวนอยู่ทั่วร่างใกล้จะดับมอดลง

อาหู่กล่าวว่า “ไปแล้ว”

พายุสีดำม้วนพ่านพ่านไว้อีกครั้ง มันกะพริบตาปริบๆ ร่างกายขนาดยักษ์หดตัวลงอีกหนหนึ่ง ก่อนจะหายเข้าไปในพายุสีดำอย่างรวดเร็ว

องค์ราชาแห่งฟู่หรานมีสีหน้าเขียวคล้ำ แต่ไม่คิดจะไล่ตามอีก เขารีบพุ่งลงไปด้านข้างอาชาเพลิงพยศที่หายใจรวยริน คิดจะรักษาชีวิตมันเอาไว้

ผู้อาวุโสหรงในตอนนี้ต้องหยุดฝีเท้าลงอย่างจนปัญญา มองทิศทางที่พายุสีดำหายไป ไม่พูดอะไรอยู่เนิ่นนาน

องค์รัชทายาทแห่งฟู่หรานและผู้บัญชาการทัพง้าวแดงล้วนมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

ไม่เพียงแต่ทัพง้าวแดงจะถูกอีกฝ่ายทำลายไปได้ง่ายๆ เท่านั้น แม้แต่องค์ราชาออกฌานมาไล่ตาม ใช้ค่ายกลครอบคลุมเมืองสินธุเสถียรด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่อาจหยุดอีกฝ่ายได้

องค์ราชาอุตส่าห์ปล่อยสัตว์คุ้มครองประเทศ อาชาเพลิงพยศสามหัวออกมา แต่สุดท้ายถูกปี่เซียะภูเขาของอีกฝ่ายทำร้ายแทบปางตายในไม่กี่กระบวนท่า

ในสถานการณ์ที่สูญเสียอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ กลับจับเส้นขนของอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่เส้นเดียว

นี่ทำให้ทุกคนในประเทศฟู่หรานเต็มไปด้วยความคับข้องใจ และเริ่มเกิดความรู้สึกหวาดกลัว

องค์รัชทายาทแห่งประเทศจื่ออวี๋เห็นเมืองสินธุเสถียรมีสภาพย่ำแย่เหมือนขนไก่ที่ร่วงเต็มพื้น ย่อมรู้สึกยินดีอย่างเงียบๆ แต่ว่าจิตใจของเขากลับสั่นสะท้านเล็กน้อย ‘พลังแห่งฟู่หรานเหนือความคาดหมาย ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนต่างแดนที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน ประเทศจื่ออวี๋คิดจะเปิดสงครามกับประเทศฟู่หราน เห็นทีจะเสียเปรียบ’

คิดถึงตรงนี้ องค์รัชทายาทแห่งประเทศจื่ออวี๋พลันรู้สึกหวาดกลัว ‘คนต่างแดนเหล่านี้มาจากที่ใดกันแน่ เกี่ยวข้องกับสำนักกระเรียนหิมะจริงๆ หรือ แต่สำนักกระเรียนหิมะไม่มีพลังที่แข็งแกร่งปานนี้กระมัง…’

‘ต้องรีบกลับไปแจ้งเสด็จพ่อ ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกคนต่างแดนจะตอแยสำนักเมฆาโลหิต แต่ประเทศจื่ออวี๋ก็ต้องระวังตัวไว้ ก่อนที่พวกเขายังไม่ถูกสำนักเมฆาโลหิตฆ่าทิ้ง ประเทศจื่ออวี๋มิอาจมีเรื่องกับพวกมันได้ ไม่อย่างนั้นฟู่หรานย่อมต้องเป็นบทเรียนที่ประเทศของเราได้เจริญรอยตามแน่’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี