เสียงที่ดังมาจากสถานที่ซึ่งอยู่ไกลออกไป ทั้งสงบและเรียบเฉย
เสียงนั้นไม่ดังมาก แต่คล้ายกับดังขึ้นที่ข้างหูของทุกคนในสำนักเมฆาโลหิต สำนักเพลิงโหม และสำนักอัสนีคำรนพร้อมกัน
ในตอนที่ทุกคนจิตใจสั่นสะท้าน ก็เห็นประกายแสงที่อยู่ห่างออกไปยิ่งมายิ่งส่องสว่าง ยิ่งมายิ่งเจิดจ้า
นั่นเป็นประกายกระบี่สายหนึ่งซึ่งพุ่งมาจากเส้นขอบฟ้าทางทิศตะวันตก
เสียงมังกรคำรามดังขึ้นทะลุหมู่เมฆ กลบเสียงฟ้าฝ่า และเสียงร้องของอีกาเพลิงลงไปพร้อมกันตามหลังประกายประบี่
ประกายกระบี่มีความเร็วสูงยิ่ง แค่ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้าทุกคน พุ่งไปยังทุกคนในสำนักเมฆาโลหิตเป็นอันดับแรก ก่อนจะทำลายเมฆสีเลือดในหนึ่งกระบี่!
หัวใจของชายชราผมขาวค่อยๆ หนักอึ้ง ‘ตอนที่อยู่ประเทศฟู่หราน คนต่างแดนเหล่านี้มิได้เอาจริงอย่างที่คิดไว้’
ประกายกระบี่สว่างขึ้น จู่ๆ ก็หายไป สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มที่ใส่เสื้อคลุมสีขาว สวมทับด้วยเสื้อสีน้ำเงิน ตรงขอบเสื้อสีน้ำเงินปักชุนขอบสีดำ
คนหนุ่มผู้นั้นย่อมเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ
ชายชราผมขาวมองเยี่ยนจ้าวเกอ เอ่ยปากถาม “เจ้าคือคนต่างแดนที่มีความสัมพันธ์กับสำนักกระเรียนหิมะหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบอย่างเรียบเฉย “ถูกต้อง”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราผมขาวก็กล่าว “เจ้าปรากฏตัวที่นี่ และลงมือด้วยตนเองเช่นนี้ เพื่อไม่ให้พัวพันถึงสำนักกระเรียนหิมะและสำนักเขามังกรเขียวใช่หรือไม่”
ชายหนุ่มเอียงศีรษะเล็กน้อย มองคนในสำนักทั้งสามแห่งโลกลอยน้ำ “ตามคำพูดของพวกท่าน ก็เป็นแค่การหาข้ออ้างที่ดูดีในการทำลายสำนักเขามังกรเขียวเท่านั้น ข้าจะปรากฏตัวที่นี่หรือไม่ พวกท่านก็ต้องโจมตียอดเขามังกรและภูเขาสะพานหยกอยู่ดี”
ในเมฆสายฟ้ามีเสียงสายฟ้าลั่นครืนๆ “เจ้ามองได้ชัดเจนนัก ข้ายังมองออกด้วยว่าพลังฝึกปรือของเจ้าไม่ธรรมดา เหนือกว่าที่ร่ำลือเสียอีก แต่ไม่มีประโยชน์ วันนี้นอกจากสามปีศาจจะรวมตัวกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครหน้าไหนต้านทานการเดินหน้าของพวกข้าได้!”
“ถ้าเข้าใจสถานการณ์ ก็มอบปี่เซียะภูเขามาเสียดีๆ บางทีอาจจะไว้ชีวิตเจ้า แต่สำนักเขามังกรเขียวและสำนักกระเรียนหิมะถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องสูญสิ้น!”
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในกองทัพอีกาอัคคี “เหตุใดต้องพูดไร้สาระกับคนตายด้วยเล่า”
เพลิงโหมไหม้พลิกตัว กลายเป็นปีกเพลิงสองข้าง ม้วนพัดมาหาเยี่ยนจ้าวเกอ เป็นผู้อาวุโสสำนักเพลิงโหมท่านหนึ่งลงมือ
เยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่กลางอากาศ ไม่เคลื่อนไหว ปล่อยให้เปลวไฟโดนตัว
แต่ว่าในตอนที่เข้าใกล้ร่างกายของเยี่ยนจ้าวเกอ เปลวไฟเหล่านี้ก็สลายไปเอง
ชายหนุ่มเหมือนไม่เห็นเปลวไฟเบื้องหน้าอยู่ในสายตา เขากล่าวอย่างใจเย็น “พวกท่านเข้าใจผิดไปเรื่องหนึ่ง ข้าไม่สนใจจะป้องกันภัยพิบัติแทนสำนักเขามังกรเขียวหรอก สำนักเขามังกรเขียวจะอยู่หรือจะไปล้วนไม่เกี่ยวข้องกับข้า”
“ที่ข้ามาปรากฏที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน ในที่สุดข้าก็เข้าใจเรื่องหนึ่ง”
ขณะที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด ในกองทัพอีกาอัคคีมีเสียงแค่นหัวเราะดังมา เปลวไฟที่บ้าคลั่งกว่าก่อนหน้าพุ่งขึ้นมา จู่โจมมาที่เขา
เจ้าสำนักเพลิงโหม ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่ถูกจัดอยู่ในสิบอันดับแรกของโลกลอยน้ำลงมือแล้ว
เปลวไฟบ้าคลั่งที่แท้จริงม้วนตัวเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกออย่างมืดฟ้ามัวดิน
เขามองเปลวไฟซึ่งกระจายอยู่เต็มไปหมด เผชิญหน้าด้วยความใจเย็น จุดลมปราณทั่วร่างสั่นไหว ญาณจริงแท้ของตนเองกลายเป็นความเย็นสุดขีดจนหมด
กระแสอากาศที่เย็นเยียบเสียดแทงกระดูกเกิดขึ้นจากจุดลมปราณของเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็กลายเป็นมังกรไฟมากมาย แผดคำรามขึ้นพร้อมกัน!
เมื่อถูกมังกรน้ำแข็งเหล่านี้คำรามใส่ จอมยุทธ์เลือดปีศาจทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ได้แก่สำนักเมฆาโลหิต สำนักอัสนีคำรน และสำนักเพลิงโหม ไม่ว่าจะมีพลังฝึกปรือสูงหรือต่ำ ล้วนเกิดความรู้สึกสั่นกลัวในส่วนลึกของจิตวิญญาณ
พวกเขาต่างเกิดความรู้สึกพรั่นพรึงและศิโรราบอย่างควบคุมไม่อยู่ คล้ายกับคนทั่วไปเผชิญหน้ากับองค์ราชา!
“สายเลือดมังกรแท้?! เป็นไปได้อย่างไรกัน? หรือเขาจะเป็นจอมยุทธ์เลือดปีศาจเหมือนกัน อีกทั้งยังหลอมรวมสายเลือดเผ่ามังกรแท้ที่เหนือกว่าชั้นที่หนึ่งในร่างกายด้วย!”
คนทั้งหมดงงงันในชั่วพริบตา แต่ว่าต่อมาก็เกิดความโลภไร้สิ้นสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี