ฟางจุ่นส่งข่าวมาจากปฐพีพิภพ พลังงานชั่วร้ายของที่นั่นยิ่งมายิ่งเข้มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงนี้ สถานการณ์เลวร้ายมีแนวโน้มจะสาหัสขึ้น
หลังจากทางเยี่ยนจ้าวเกอกับหยวนเจิ้งเฟิงได้รับข่าวแล้ว ก็เริ่มเตรียมตัวออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ปฐพีพิภพ
เยี่ยนตี๋ยังคงไม่ออกฌาน และไม่ทราบว่าจะออกมาตอนไหน แต่เวลาไม่คอยท่า พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับหยวนเจิ้งเฟิงจึงได้แต่ถอนใจ
“อาจารย์ ศิษย์น้องเยี่ยนเข้าฌาน ท่านเองก็ต้องออกจากสำนัก เรียกศิษย์พี่สองจากปฐพีพิภพให้มาจัดการเรื่องราวในสำนักเถอะ”
ฟู่เอินซูต้องออกจากสำนักเช่นกัน นางเดินไปพลางกล่าวไปพลาง ขณะที่ร่วมทางกับเยี่ยนจ้าวเกอและหยวนเจิ้งเฟิง
หยวนเจิ้งเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “หลังจากถึงปฐพีพิภพค่อยดูสถานการณ์อย่างละเอียดก่อน การจัดการเรื่องราวต่างๆ ของฟางจุ่นย่อมโดดเด่น”
เขาหันไปมองเฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหวาที่ตามอยู่ด้านหลังฟู่เอินซู “ถึงแม้ว่าปีศาจอัคคีที่ทะเลตะวันออกจะไม่มีการเคลื่อนไหว แต่พวกเจ้าต้องระวังด้วย”
ฟู่เอินซูกล่าว “ในฐานะสตรีแห่งจันทรา การต่อสู้กับปีศาจอัคคีบ่อยๆ มีส่วนช่วยพวกนางมาก”
หยวนเจิ้งเฟิงเอ่ย “ไม่เพียงแต่ปีศาจอัคคีเท่านั้น แต่ต้องระวังอันตรายอย่างอื่นด้วย”
ความนัยในคำพูดของหยวนเจิ้งเฟิงเมื่อครู่ ฟู่เอินซูย่อมเข้าใจ “ข้าทราบดี”
เยี่ยนจ้าวเกอร่วมทางกับหยวนเจิ้งเฟิง เดินอยู่ด้านข้างฟู่เอินซู กระซิบว่า “อาจารย์ป้าฟู่ เรื่องที่พูดกับท่านก่อนหน้า ถ้าท่านไม่ติดอะไรรลองพิจารณาดู ท่านออกจะใจร้อนกับศิษย์น้องอิ่นไปบ้าง”
ดวงตาของฟู่เอินซูปรากฏความเคร่งขรึมขึ้น “ข้ายอมให้ลูกศิษย์ของข้ามีข้อบกพร่อง แต่สิ่งเดียวที่ยอมไม่ได้คือนางแอบขี้เกียจไม่ยอมพยายาม”
“แม้แต่อาจารย์ก็เตือนข้าว่า มิอาจใช้มาตรฐานที่ใช้กับอวิ๋นเซิง ซือคง หรือแม้แต่ตัวข้าเองกับทุกๆ คนได้ ประเสริฐ เช่นนั้นข้าจะปรับมาตรฐานของข้าให้กว้างขึ้น” ฟู่เอินซูพูดไปพูดมา ก็รู้สึกมีน้ำโหขึ้น “ข้าไม่ต้องการให้หลิวหัวเหมือนกับอวิ๋นเซิง แต่ขีดจำกัดของนางอยู่ที่ไหน ข้าทราบดี”
“นางมักจะเกียจคร้าน ลดมาตรฐานของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเช่นนี้ต่อไปจะมีวันทำลายขีดจำกัดของตัวเองหรือ? รังแต่จะทำให้ขีดจำกัดของตนเองลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นการทำให้พรสวรรค์และความสามารถเสียเปล่า!”
ฟู่เอินซูมองขวางใส่เยี่ยนจ้าวเกอ “ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาด้านการฝึกฝนในฐานะสตรีแห่งจันทราเท่านั้น นี่ยังเกี่ยวข้องกับพัฒนาการในฐานะจอมยุทธ์ของนางด้วย!”
เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “บางทีศิษย์น้องอิ่นอยากจะใช้ชีวิตให้ผ่อนคลายลงหน่อย หากไม่ติดอะไรลองพิจารณาข้อเสนอก่อนหน้าของข้าดู ลดความคาดหวังที่มีต่อตัวนางลง เช่นนี้ดีต่อทุกฝ่ายนะขอรับ”
นางกล่าวด้วยความไม่พอใจ “ตอนนี้ข้าไม่หวังว่านางจะไล่ทันหรือเหนือกว่าอวิ๋นเซิงอีกแล้ว คู่ต่อสู้ของนางไม่ได้อวิ๋นเซิงมาตั้งแต่ต้น ดูสภาพของนางในตอนนี้ จะไปแข่งกับสตรีแห่งจันทราจากแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นได้อย่างไร?”
“ลดความคาดหวังลงหรือ? จะลดอย่างไรอีก?”
จากนั้นนางก็มองเยี่ยนจ้าวเกอ “ตั้งเป้าหมายสูง ได้ผลลัพธ์กลาง ตั้งเป้าหมายกลาง ได้ผลลัพธ์ต่ำ ตั้งเป้าหมายต่ำ ไม่ได้อะไรเลย เจ้าไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจหลักเหตุผลนี้กระมัง?”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “สุดท้ายท่านก็เป็นอาจารย์ที่สอนนาง ข้าเองก็ไม่อยากยุ่งนัก”
เขาเว้นครู่หนึ่ง ค่อยลดเสียงลง “ทว่า หากหลอมได้เหล็กดีย่อมประเสริฐ แต่หากไม่ใช่วัตถุดิบนั้น ต่อให้ตีให้แรงอย่างไร อาจจะเสียแรงเปล่าๆ”
ฟู่เอินซูเงียบงันลงครู่หนึ่ง หางตากวาดมองอิ่นหลิวหัวที่ด้านหลัง
ทั้งสองกระซิบสนทนากันโดยตลอด อิ่นหลิวหวาย่อมไม่ทราบว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน
ความคิดของนางในตอนนี้อยู่ที่การกลับไปยังทะเลตะวันออกของนางอีกครั้ง ในใจจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย
“ข้าจะให้เวลาและโอกาสนางอีกสักหน่อยแล้วกัน” ฟู่เอินซูถอนใจ
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “การไปทะเลตะวันออกในครั้งนี้ได้โปรดระวังไว้ให้มาก ครั้งก่อนแม้ว่าปีศาจอัคคีจะแตกพ่าย แต่ก็ยังพอมีแรงเหลือ ปฐพีพิภพเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกมันอาจจะก่อความวุ่นวายพร้อมกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี