ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 465

หลังจากได้รับข่าวที่เยี่ยนตี๋จะเข้าฌานเพื่อนเลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ หยวนเจิ้งเฟิงก็ทั้งกังวลทั้งยินดี

ปฐพีพิภพยังไม่มีการเคลื่อนไหว เขาจึงนำเสื้อคลุมนภากลับมาคุ้มการที่เขากว่างเฉิง

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอส่งบิดาของตนไปเข้าฌานแล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มเตรียมตัวอย่างเอาจริงจัง

อันดับแรกคือร่วมกับหยวนเจิ้งเฟิง จัดหาที่พักให้กับเหออิ่ง สตรีที่เหมือนซือคงจิงราวกับแกะ ผู้ซึ่งเขาพากลับมาจากโลกลอยน้ำ

จากนั้นก็เป็นเรื่องของค่ายกลไท่อี้ถล่มทลาย

เมื่อมีเตาผลึกหินชั้นในคอยช่วยเหลือ การหลอมแกนศิลาวิญญาณชั้นยอดก็ค่อนข้างง่ายขึ้น แต่เรื่องนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีแผนอยู่ในใจแล้ว

เพียงแต่คิดจะซ่อมแซมกระจกยังสูงส่งที่แตกเป็นสองส่วน จำเป็นต้องใช้ความตั้งใจไม่น้อย และต้องทำความเข้าใจกับความอัศจรรย์ที่อยู่ด้านในอย่างจริงจัง

เวลามีน้อย แต่มีธุระมากมาย นอกจากการเตรียมตัวในสำนักแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยังต้องมุ่งหน้าไปที่ปฐพีพิภพ เพื่อสังเกตสถานการณ์อย่างเป็นรูปธรรมของที่นั่น และปรึกษาหารือกับฟางจุ่นที่สังเกตการณ์อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน

ในช่วงเวลาที่เดินทางไปมาระหว่างสำนักกับปฐพีพิภพ เวลาก็ได้ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว

เวลาครึ่งปีผ่านไปในชั่วพริบตา แต่ที่โชคดีก็คือ ปฐพีพิภพยังคงไม่มีการเปลี่ยนที่รุนแรงอันใด

คำกล่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวกับเยี่ยนตี๋ก่อนหน้า เป็นการประเมินในกรณีที่ไม่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย และอยู่ในระหว่างเฝ้าระวังอย่างเต็มที่

สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นไปตามที่คาด พวกเยี่ยนจ้าวเกอกับหยวนเจิ้งเฟิงผ่อนคลายลงมาก

เพียงแต่ เกรงว่ายังห่างจากวันที่เยี่ยนตี๋จะออกฌานอีกนาน สถานการณ์ของปฐพีพิภพต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร นับว่ายากจะบอกได้ ส่วนเยี่ยนตี๋จะทำได้ทันหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ

เวลายิ่งผ่านไปเท่าไร ยอดฝีมือแห่งโลกแปดพิภพก็ยิ่งระวังการเคลื่อนไหวของปฐพีพิภพในตอนนี้ขึ้นเท่านั้น

ทางด้านเมืองทะเลมรกต แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งวารีพิภพ เมื่อมีวันคืนสงบสุขเช่นนี้ ในที่สุดก็สลัดหลุดจากความเสื่อมโทรมได้

ค่ายกลคุ้มภูผาถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าเมืองซ่งอู๋เลี่ยงรักษาอาการบาดเจ็บและออกจากฌานแล้ว เมืองทะเลมรกตที่ครอบครองกระบี่สัตยาทะเลมรกตจึงมีพลังเพิ่มขึ้น เหนือกว่าเขาไร้พรมแดน ตำหนักอัสนีสวรรค์ และหอคลื่นโหม กลายเป็นสำนักใหญ่ที่เทียบเคียงกับเขากว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว

นี่คือเรื่องที่สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากจะเห็น น่าเสียดายที่พวกเขาพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตีเมืองทะเลมรกตไปแล้ว

ทว่าในตอนนี้นพยมโลกคิดเคลื่อนไหว ปฐพีพิภพอาจจะเกิดภัยพิบัติได้ตลอดเวลา เมืองทะเลมรกตได้แต่วางความแค้นในอดีตลง ไม่คิดบัญชีกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์

อย่างไรก็ดี เมืองทะเลมรกตอาจจะนับได้ว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีชัยภูมิเลวร้ายที่สุดแล้ว

จากวารีพิภพไปทางตะวันตก มีอาณาเขตติดต่อกับปฐพีพิภพ ไปทางตะวันออกก็คือทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก มีนพยมโลกกับโลกปีศาจอัคคีบีบไว้ตรงกลาง หากเกิดเรื่องขึ้น สถานการณ์จะเลวร้ายสุดขีด

เมืองทะเลมรกตคิดจะชำระแค้น ระบายความอัดอั้น ก็จำเป็นต้องจัดการกับการคุกคามจากด้านนอกเสียก่อน

ผู้อาวุโสม่อที่ไม่สนใจเรื่องทางโลก และได้กลับเกาะภาพวาดหลังจากสงครามทะเลตะวันออก ครั้งนี้เขาถูกรบกวนอีกครั้ง จึงส่งลูกศิษย์ในสำนักของตัวเองออกมา ติดต่อกับแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของปฐพีพิภพ

ในตอนนี้โลกแปดพิภพอยู่ในบรรยากาศที่เหมือนผ่อนคลาย แต่แท้จริงทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

กระนั้นไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร การทดสอบแห่งจันทราครั้งที่หกก็ได้มาถึงแล้ว

ถึงแม้ว่าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อยากจะเลื่อนการทดสอบแห่งจันทราครั้งที่หกเป็นกรณีพิเศษ โดยอาศัยสถานการณ์ตึงเครียดเป็นเหตุผล แต่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ รวมถึงหอคลื่นโหม ล้วนไม่เห็นด้วย

แต่ว่า ผลลัพธ์สุดท้ายกลับเป็นดั่งที่สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์หวังไว้

เมิ่งหวานที่เลื่อนเป็นปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลางสำเร็จ ช่วงชิงอันดับหนึ่งมาได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง

การทดสอบแห่งจันทราครั้งที่หก การช่วงชิงอันดับหนึ่งครั้งที่สี่ ขอแค่ตนเองไม่เกิดข้อผิดพลาด ก็จะไม่ยอมให้มงกุฎแห่งจันทราตกไปอยู่ในมือคนอื่น เมิ่งหวานได้ยืนยันชื่อของสตรีแห่งจันทราที่แข็งแกร่งที่สุดอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี