ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 464

เมืองทะเลมรกตจำเป็นต้องซ่อมแซมค่ายกลคุ้มภูผาของตัวเอง เจ้าเมืองซ่งอู๋เลี่ยงก็ต้องการเข้าฌานรักษาอาการบาดเจ็บเช่นกัน

เมื่อมีโอกาสที่หาได้ยากเช่นนี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ก็ใช้กำลังกดดันวารีพิภพ เริ่มบุกจู่โจม

เขากว่างเฉิงกับเขาไร้พรมแดนต่างก็ลงมือ ขัดขวางกองกำลังของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์

สุดท้ายสงครามเพิ่งจะเกิดขึ้น ก็ต้องถูกขัดเพราะสาเหตุจากโลกภายนอก

ปฐพีพิภพเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจำเป็นต้องวางบุญคุณความแค้นชั่วคราว หันหอกไปที่ศัตรูของโลกแปดพิภพก่อน

ยอดฝีมือของแต่ละที่ มีบางคนคอยสังเกตการณ์ที่ปฐพีพิภพ มีบางคนกลับสำนักของตัว เพื่อเตรียมจัดการทุกอย่าง

เมื่อจ้าวเกอกลับเขากว่างเฉิง ก็เห็นเยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดาของตนทันที

“การตามหามารดาของเสี่ยวเยี่ยนล้มเหลว” ประโยคแรกในการพบเจอ เยี่ยนจ้าวเกอทำให้เยี่ยนตี๋หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

ถึงแม้ยังไม่อาจเข้าใจถึงความนัยในคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอได้อย่างชัดเจน แต่ยังเข้าใจความหมายตามคำพูดอยู่

เยี่ยนตี๋ถอนใจ “อวิ๋นเซิงกับหลงถูได้บอกให้ข้าฟังคร่าวๆ แล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจทำอะไรได้”

หลังจากถอนใจแล้ว สายตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็เปลี่ยนเป็นคมกริบ “โลกซ้อนโลก เหอะ!”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่างน้อยหากมองในตอนนี้ ท่านแม่น่าจะไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าเรื่องราวในโลกมิอาจคาดการณ์ได้ แต่ดูจากน้ำเสียงในข้อความของนาง ก็น่าจะยังสบายดีอยู่”

“เพียงแต่จะประมาทไม่ได้ ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจริง นางก็ไม่จำเป็นต้องมาโลกลอยน้ำเป็นครั้งที่สองโดยไม่เปิดเผยร่องรอย แม้แต่ท่านน้าซูก็ไม่พบนางเช่นนี้”

ผู้เป็นบิดาไพล่สองมือไว้ด้านหลัง สายตามองไกลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศทางที่บึงพิภพอยู่

“ถ้านับวันเวลาดู สายรุ้งกางเขนในตอนนี้น่าจะหายไปแล้ว เพียงแต่กระจกยังสูงส่งที่ท่านแม่ทิ้งไว้ และข้าได้รับมันมา หากศึกษาดีๆ น่าจะมีประโยชน์มาก เพียงแต่ถ้าโลกซ้อนโลกไปยากเหมือนคำกล่าวของท่านแม่จริงๆ เกรงว่ากระจกยังสูงส่งจะไม่ไหว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว

เยี่ยนตี๋พยักหน้าเงียบๆ ครู่ต่อมาค่อยละสายตามองออกไปไกล พลางกล่าวเสียงทุ้ม “ถ้าหากกระจกยังสูงส่งมีประโยชน์มากมายตามที่เจ้าว่า เช่นนั้นเจ้าต้องใส่ใจให้มากไว้”

“สวีเฟยกับสือจวินเผชิญความอันตรายอยู่ด้านนอก เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงจริงๆ”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าอย่างจริงจัง “ท่านพ่อวางใจเถอะ”

ครู่ต่อมา เขาก็กล่าวต่อ “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าได้รับรูปแบบทัพมาโดยไม่ได้ตั้งใจ มิใช่ค่ายกลที่พึ่งพาความได้เปรียบด้านชัยภูมิเหมือนกับค่ายกลนภาหรือค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด แต่เป็นรูปแบบทัพของกระบวนทัพชนิดหนึ่ง ชื่อว่าค่ายกลไท่อี่ถล่มทลาย”

ดวงตาของเยี่ยนตี๋ค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น “จริงหรือ?”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ไม่เคยบอกท่าน เป็นเพราะว่าการจัดกระบวนทัพนี้ยากเกินไป”

“ก่อนอื่น ต้องจัดกระบวนทัพโดยใช้ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สองอย่างน้อยสี่คน แน่นอนว่าพลังฝึกปรือยิ่งสูงยิ่งดี ถ้าหากไม่พอจริงๆ จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หนึ่งกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์พอจะฝืนถูไถได้”

“ข้อต่อมา จำเป็นต้องใช้แกนศิลาวิญญาณณชั้นยอดจำนวนมากช่วยสร้างกระบวนทัพ จึงจะเห็นผล”

เขาอธิบายต่อ “ปัญหาข้อหลังนี้ยากกว่าข้อก่อนหน้า ถึงอย่างไรแกนศิลาวิญญาณชั้นยอดก็ได้สาปสูญไปจากโลกแปดพิภพแล้ว แต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจปักกิ่งหลิว[1] พอไปถึงโลกลอยน้ำ ก็ได้รับแกนศิลาวิญญาณชั้นยอดมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นปัญหาข้อนี้จึงได้รับการแก้ไข”

เยี่ยนตี๋ถาม “ดังนั้น ตอนนี้ต้องเผชิญกับปัญหาข้อแรกแล้ว?”

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวตรงๆ “ถ้าหากสถานการณ์คับขันจนต้องรวมคน ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นข้าย่อมไม่อยากนับหวงกวงเลี่ยแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ถึงอย่างไรพวกเราก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์”

ฝ่ายบิดามีสีหน้าเป็นปกติ “ในเวลาสั้นๆ สำนักเราย่อมรวมคนจัดกระบวนทัพไม่ได้แน่นอน ครั้งนี้ที่เจ้าพูดถึงกระบวนทัพนี้ เป้าหมายก็คือปฐพีพิภพ หรือไม่ก็โลกปีศาจอัคคีกระมัง?”

“เป็นเช่นนั้นขอรับ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ

“อาจารย์กับเสื้อคลุมนภา เจ้าสำนักซ่งกับกระบี่สัตยาทะเลมรกต ยังมีผู้อาวุโสม่อ…” เยี่ยนตี๋เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “มีตำแหน่งว่างหนึ่งตำแหน่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี