ซ่งอู๋เลี่ยงห่วงว่าเยี่ยนตี๋จะทนไม่ได้นาน ไม่มีแรงพอสู้ต่อ
แต่อย่างน้อยในตอนนี้ อานุภาพดาบของเยี่ยนตี๋ก็ยังคงสยบใต้หล้าไปทั่วทุกสารทิศ
ถึงแม้ว่ามหาราชันปีศาจอัคคีจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ก็ถูกเยี่ยนตี๋กดดันจนเงยศีรษะไม่ขึ้นอยู่ชั่วขณะ
อีกด้านหนึ่ง พวกหวงกวงเลี่ย ผู้อาวุโสม่อ และซ่งอู๋เลี่ยงต่างได้รับบาดเจ็บเพราะมหาราชันปีศาจอัคคี ทั้งยังสูญเสียการคุ้มครองจากค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัด
เดิมทีก็ติดอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบด้านจำนวนอยู่แล้ว ครั้นตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างดุดันจากยอดฝีมือที่เป็นราชันปีศาจอัคคี ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์จึงไม่ได้เปรียบนัก
มาตรว่าในตอนนี้เยี่ยนตี๋จะหยุดมหาราชันปีศาจอัคคีเอาไว้ได้ แต่พวกซ่งอู่เลี่ยงก็ไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสม่อกล่าาวเสียงทุ้ม “วิกฤติการณ์ไม่ได้รับการแก้ไข เหตุผลที่มหาราชันปีศาจอัคคีเป็นมหาราชันปีศาจอัคคี ทุกคนย่อมทราบอยู่แล้วว่าเป็นเพราะเหตุผลพิเศษ”
พวกหวงกวางเลี่ยที่เป็นยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ได้ยินดังนั้น คิ้วพลันขมวดมุ่นขึ้น
แค่วิกฤติการณ์ก่อนหน้าก็ทำให้พวกเขาป้องกันไม่ไหวแล้ว
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาลืมวิกฤติการณ์อื่น
มหาราชันปีศาจอัคคีตัวแรกที่โลกแปดพิภพได้เจอในการรุกรานครั้งแรกจากปีศาจอัคคีในอดีต มีพลังเทียบเท่ากับยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สาม
แต่ที่ต้องแยกมหาราชันปีศาจอัคคีตัวนี้กับมหาราชันปีศาจอัคคีตัวอื่น เป็นเพราะว่ามันสามารถทำให้เพลิงไร้ขอบเขตของโลกปีศาจอัคคีไหลย้อนสู่โลกแปดพิภพที่ทางเชื่อมเขตแดนเพื่อกัดกร่อนฟ้าดินได้!
ในตอนนั้น เพลิงไร้ขอบเขตกลืนกินท้องฟ้า กัดกินผืนดิน ท้องทะเลที่ทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกสลาย หินโสโครกใต้ทะเลถูกทำลาย ฟ้าดินเองก็สูญสลาย
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลายเป็นเปลวไฟ คล้ายกับกลายเป็นโลกปีศาจอัคคี
การหมุนเวียนของปราณวิญญาณและการเคลื่อนไหวของชีพจรดินบริเวณทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ในโลกแปดพิภพแทบจะพัง่ทลายลงโดยสิ้นเชิง
จากการโน้มนำของมหาราชันปีศาจอัคคีตัวนั้น โลกปีศาจอัคคีคล้ายมีชีวิตเป็นของตัวเอง ประตูทางเชื่อมเขตแดนกลายเป็นปากขนาดยักษ์ของสัตว์ประหลาด คิดกลืนกินทั้งแปดพิภพ
สุดท้าย ภายใต้การนำของผู้สะเทือนสวรรค์ จ่านตงเก๋อ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ต้องใช้พลังทั้งหมด ถึงจะโจมตีปีศาจอัคคีให้ถอยร่น และหยุดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะโลกปีศาจอัคคีได้
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น อาณาเขตของทะเลตะวันออกก็ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะฟื้นคืนสภาพมาได้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่นานก็ถูกทำลายเพราะการเปลี่ยนแปลงชนิดเพลิงเผาทะเล ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติของแกนไฟใต้ดินอีกครั้ง
แต่การเปลี่ยนแปลงของทะเลตะวันออกที่ถูกไฟเผาก่อนหน้านี้ เทียบกับการทำลายที่โลกปีศาจอัคคีก่อให้เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
พูดจากอีกมุมมองหนึ่งก็คือ นั่นเป็นการรุกรานจากโลกใบหนึ่งสู่โลกอีกใบอย่างแท้จริง
และเพื่อขับไล่การกัดกร่อนจากโลกปีศาจอัคคีกลับไป สุดท้ายผู้สะเทือนสวรรค์จ่านตงเก๋อก็ต้องกลายเป็นตะเกียงดับแสง เสียชีวิตไปตั้งแต่วัยเยาว์ ในขณะเดียวกันยอดฝีมือจำนวนมากของโลกแปดพิภพก็ต้องสังเวยชีวิตของตัวเองด้วย
ผู้อาวุโสม่อที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยตัวเอง กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “มหาราชันปีศาจอัคคีตัวนี้น่าจะเพิ่งเลื่อนระดับได้ไม่นาน พลังของมันยังสู้ตัวในอดีตไม่ได้ แต่ก็เกรงว่าจะมีพลังในการโน้มนำเปลวไฟจากโลกปีศาจอัคคีมาโจมตี”
“เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมของโลกปีศาจอัคคี ปีศาจอัคคีจะมีพลังเพิ่มขึ้นมาก!”
ชายชรามีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาดูเหม่อลอยเล็กน้อย เหมือนกำลังคิดถึงเรื่องราวในอดีต
นั่นเป็นสงครามที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ผู้อาวุโสม่อเกิดขึ้นมา ขณะนั้นเหมือนกับฟ้าดินถล่มทลาย และภัยพิบัติวันสิ้นโลกอย่างแท้จริง
ภาพมากมายที่ซ่อนไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ แต่มิอาจขจัดออกไปได้ตลอดกาล ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ในสงครามที่ตัดสินชะตากรรมของโลกแปดพิภพในครั้งนั้น ชายหนุ่มผู้สยบใต้หล้าที่มาจากเขากว่างเฉิงคนหนึ่ง เข่นฆ่ามหาราชันปีศาจอัคคีที่เหมือนกับเทพปีศาจ และให้ราชันปีศาจอัคคีขั้นที่สองอีกสี่ตัวพิการอย่างเหี้ยมหาญ ด้วยจำนวนหนึ่งต่อห้าบนทะเลตะวันออกที่กลายเป็นโลกแห่งเพลิง
ประกายกระบี่ที่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าได้แยกโลกแห่งไฟ ไฟปีศาจไร้ขอบเขตถูกกดดันให้กลับไปยังทางเชื่อมเขตแดน
“จ่านสะเทือนสวรรค์ จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สอง ผู้สยบใต้หล้า ท่านสมกับเป็นอันดับหนึ่งในโลกแปดพิภพหลังมหาภัยพิบัติจริงๆ” ผู้อาวุโสม่อถอนใจ “แม้จางอาทิตย์ม่วงจะเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สาม แต่ก็ยังด้อยกว่าท่านนัก ถ้าหากท่านเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามสำเร็จ จะน่าเกรงขามถึงเพียงไหนกัน?”
“ถ้าหากท่านไม่จากไปตั้งแต่ยังหนุ่ม อนาคตของท่านจะเป็นอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี