ไม่ว่าสำนักตาข่ายปีศาจของท่านจะมีหรือไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ วันนี้พวกท่านก็ต้องตาย
มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ข้าก็สังหารพวกท่านโดยไม่ออมมืออยู่ดี ยิ่งไม่หวั่นเกรงมหาปรมาจารย์ระดับขั้นธรรมและขั้นรูปญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าสงบ น้ำเสียงไม่มีจิตสังหารแม้แต่น้อย เหมือนการการพูดคุยเรื่อยเปื่อย ทว่าการฟาดฝ่ามือลงของเขา ทำให้เกราะกระดูกบนร่างของเจียงสยงแหลกสลาย
เจียงสยงคิดขัดขืน ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับฟาดฝ่ามือลงอีกครั้งหนึ่ง ทำให้กะโหลกของเขาแตกร้าว กลายเป็นสีแดงขาว
จอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจทุกคนพลันรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งร่าง
พวกเขาไม่กล้าพูดอันใด คิดจะหมุนกายหนี
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสังหารเจียงสยงแล้ว เขาก็ใช้นิ้วแทนกระบี่แทงใส่อากาศ ประกายกระบี่หลายสายพุ่งออกมา ส่องสว่างเหมือนกับดวงดาราบนฟากฟ้า
ประกายกระบี่ร่วงลงจากท้องฟ้าเหมือนทางช้างเผือกสาดพิรุณ แทงทะลุร่างของจอมยุทธ์จากสำนักตายปีศาจคนแล้วคนเล่า
ศพที่สูญเสียชีวิตหล่นลงไปในทะเล เลือดสาดกระจายทั่วฟ้า ผิวทะเลด้านล่างถูกย้อมเป็นสีแดงก่ำ
เยี่ยนจ้าวเกอก้าวเท้าอย่างองอาจไม่กี่ก้าว ก็ไล่ทันมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะท้าย ของสำนักตาข่ายปีศาจคนหนึ่งได้
อีกฝ่ายด้อยกว่าเจียงสยงมากกว่าหนึ่งเท่า ประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอกลายเป็นมังกรเขียวหลายตัว ฆ่าคนผู้นั้นอย่างง่ายดาย
ครั้นหมุนตัวมองไป เขาเห็นมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณระยะท้ายอีกคนหนึ่งหนีไปทางตรงกันข้าม
ถึงอย่างไรก็เป็นจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์ขั้นที่หก เขาจึงมีความเร็วสูงมาก เพียงพริบตาเดียวก็หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าสบายอารมณ์ ไม่ได้ไล่ตาม เพียงแต่กางธนูนภาอลหม่าน รั้งสายธนูครั้งหนึ่ง ใช้ญาณจริงแท้ของตัวเองเป็นลูกธนู
ฉับพลันที่เสียงสายฟ้าดังขึ้น แสงสีม่วงสายหนึ่งพุ่งออกไป จากนั้นก็ระเบิดบนที่ห่างออกไป
มหาปรมาจารย์ผู้นั้นตกตายในทันที
ชายหนุ่มเก็บธนูนภาอลหม่าน ยามนี้เขาหมุนตัวไปมองพวกหยางฉู่ฟานที่ยังไม่ได้สติ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเรามาต่อคำถามก่อนหน้าเถอะ สามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าจะไปเขาหงส์วิเศษได้อย่างไร?”
พวกหยางฉู่ฟานกับฟางหมิ่นตกใจ มองเยี่ยนจ้าวเกอเบื้องหน้า ไม่มีเสียงอยู่ชั่วขณะ
“สถานที่ที่พวกเราอยู่ในตอนนี้คือทะเลรางเลือน ต้องไปทางใต้ตลอดทาง ผ่านทะเลจิตประสานที่สำนักของพวกข้าตั้งอยู่ จากนั้นท่านถึงจะเห็นทะเลไร้ขอบเขตที่เขาหงส์วิเศษตั้งอยู่ ” หยางฉู่ฟานได้สติขึ้นมาก่อน เขาตอบอย่างชัดเจน “ถึงแม้ว่าสามทะเลจะอยู่ติดกัน แต่ก็ห่างกันมาก ทั้งยังต้องข้ามทะเลจิตประสาน”
สำนักตาข่ายปีศาจเป็นสำนักขนาดใหญ่ในหกพรรคมาร เหมือนกับเกาะจิตประสานในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะ
แต่ ‘ปีศาจวิหค’ เจียงสยง ผู้โดดเด่นรุ่นหลังแห่งยุค ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของสำนักตาข่ายปีศาจ เยี่ยนจ้าวเกอบอกฆ่าก็ฆ่าทันที
จอมยุทธ์สำนักตาข่ายปีศาจที่อยู่รอบๆ มีจำนวนหลายสิบคน เยี่ยนจ้าวเกอกลับฆ่าทั้งหมดโดยไม่กะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว
หยางฉู่ฟานเข้าใจแล้วว่า ชายหนุ่มเบื้องหน้าเป็นคนที่โหดเหี้ยม พวกตนรักษาตัวรอดเป็นยอดดี
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใด ล้วนมีคนอันตรายที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์ ท่านเก่งกว่าเขาย่อมไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แต่ถ้าหากตอนนี้ทำอันใดอีกฝ่ายไม่ได้ เช่นนั้นก็ผูกมิตรไว้ก่อน เพราะต่อให้สู้กัน อีกฝ่ายก็ไม่กริ่งเกรงสำนักที่หนุนหลังอยู่ดี
คนตายแล้วไม่อาจฟื้นกลับมา หากสร้างความขัดแย้งกับคนที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ ต่อให้สำนักจะล้างแค้นให้พวกตนได้ แต่อย่างไรตอนนี้ย่อมถูกจัดการ
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินวิธีการพูดของหยางฉู่ฟาน ก็พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นชายหนุ่มก็ถามต่อว่า “ข้ากับครอบครัวอยู่ที่โพ้นทะเล ไม่ค่อยทราบเรื่องยอดฝีมือในปัจจุบันนัก เพียงเคยได้ยินชื่อของเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะและหกพรรคมาร กลับไม่ทราบว่ามีสำนักไหน และมียอดฝีมือคนใดบ้าง”
คนจากเกาะจิตประสานมองหน้ากันเอง
“ได้ยินว่าสือจวินนั่นปีนี้มีอายุยี่สิบปี แต่สำเร็จเป็นปรมาจารย์ขั้นจิตราชั้นนอกแล้ว”
ชายหนุ่มไม่พูดอันใด เพียงกล่าวในใจว่า ‘เป็นอย่างที่คิด’
การไหลของเวลาในโลกผืนสมุทรแห่งนี้แตกต่างกับโลกแปดพิภพ
เนื่องจากความโชคดีที่มีเศษดวงตาราชันสายฟ้ากับสายฟ้าชั่วพริบตา พลังฝึกปรือของเขาในตอนนี้จึงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่คิดจะเทียบความแตกต่างระหว่างการไหลของเวลาระหว่างโลกทั้งสองใบ จำเป็นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมของโลกใหม่สักระยะเวลาหนึ่ง ถึงจะค่อยๆ เปรียบเทียบได้
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉู่ฟานแล้ว หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอก็เริ่มคำนวณในใจ เขามั่นใจอยู่บ้างว่าการไหลของเวลาในโลกผืนสมุทรน่าจะเป็นห้าเท่าของโลกแปดพิภพ
พูดอีกอย่างก็คือ หนึ่งปีของโลกแปดพิภพ เวลาของทางนี้ก็ผ่านไปแล้วประมาณห้าปี
คิดถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ถอนใจ สำหรับตน และสำหรับคนในเขากว่างเฉิง ไม่ได้เจอสวีเฟยกับสือจวินแค่หนึ่งปีครึ่งเท่านั้น
แต่ว่าสำหรับสวีเฟยสองศิษย์อาจารย์ พวกเขาอยู่ในโลกแปลกหน้านี้หลายปีแล้ว
กระนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉู่ฟาน เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่เป็นห่วงพวกสวีเฟยอีก อย่างน้อยพวกเขาก็ยังอยู่ ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ อีกทั้งดูแล้วการใช้ชีวิตอยู่ในเขาหงส์วิเศษยังไม่เลวด้วย
เช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอมองคนจากเกาะจิตประสาน จากนั้นก็หันไปมองข่ายอาคมด้านหลัง พลันยิ้มขึ้น “ก่อนหน้านี้ข้ารีบตามหาเขาหงส์วิเศษ สุดดท้ายไม่ได้เข้าไปในภูเขาวิเศษ เดินออกมามือเปล่า กลับไม่ทราบว่าที่นี่มีอะไรกันแน่”
พวกหยางฉู่ฟานและฟางหมิ่นได้ยินดังนั้น หัวใจของพวกเขาพลันเต้นโครมคราม ใบหน้ากลายเป็นขื่นขม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี