ฟู่เอินซูถามขึ้น “จ้าวเกอ พวกเราต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะกลับแปดพิภพได้”
“ต้องรอกระจกยังสูงส่งฟื้นพลังขึ้นมาก่อน ถึงจะมีความหวังในการกลับแปดพิภพ แต่ว่าข้ามีความมั่นใจอยู่ขอรับ” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ
เขาระบายลมหายใจยาว พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายที่สุด “เวลาในโลกผืนสมุทรไหลเร็วกว่าแปดพิภพห้าเท่า ถึงพวกเราจะอยู่ที่นี่นานไปหน่อย ความจริงกลับไปแปดพิภพเวลาก็คงผ่านไปไม่นานเท่าไร”
“ต่อจากนี้ข้าต้องปรับลมหายใจรักษาอาการบาดเจ็บเพื่อให้หายดีโดยเร็ว” ฟู่เอินซูพยักหน้าเล็กน้อย
แววตาของเยี่ยนจ้าวเกอเย็นเยียบ “การกลับไปในครั้งนี้มีบัญชีต้องคิดกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์”
ฟู่เอินซูกล่าวอีก “จริงสิ ก่อนหน้าเจ้าพูดเรื่องของทะเลตะวันออก กับสถานการณ์ของโลกผืนสมุทร แล้วทางปฐพีพิภพและนพยมโลกของแปดพิภพเป็นอย่างไรบ้าง อาจารย์กับกับพวกอาจารย์ลุงท่านอื่น รวมถึงศิษย์พี่สองเป็นอย่างไร”
เมื่อได้ยินฟู่เอินซูถามขึ้น ประกายตาของเยี่ยนจ้าวเกอก็มืดสลัวลงเล็กน้อย
เขาแจ้งสถานการณ์ของหยวนเจิ้งเฟิง ฟางจุ่น และคนอื่นๆ ที่เข้าไปในปฐพีพิภพให้กับฟู่เอินซูฟัง นางอดใจลอยไม่ได้ “ท่านอาจารย์…”
เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจ “อาจารย์ปู่ผ่านมรสุมในชีวิตมามากมาย ฟ้าจะต้องช่วยคนดีอย่างเขาแน่”
ฟู่เอินซูพยักหน้าช้าๆ แต่ก็ปิดบังความกังวลในดวงตาไม่ได้
นางกับหยวนเจิ้งเฟิงผูกพันกันมากกว่าศิษย์อาจารย์ ทั้งคู่ดุจบิดาและบุตรสาว อีกฝ่ายเลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้พอทราบถึงสถานการณ์ของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะปลอบใจตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่นางก็ยังกังวลอยู่ดี
คิดไปคิดมา ในดวงตาของนางก็มีความโกรธแค้นพรั่งพรูออกมา “เฉินลี่ สมควรสังหารทิ้ง!”
เพลิงโทสะทำให้นางสลัดความอาลัยอาวรณ์ที่มีต่อหยวนเจิ้งเฟิงได้ ความคิดเปลี่ยนเป็นกระจ่างชัดยิ่งขึ้น
นางขมวดคิ้ว มองเยี่ยนจ้าวเกอ “ท่านอาจารย์ติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติ ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ตอนไหน ศิษย์น้องเยี่ยนผนึกปีศาจอัคคีอยู่ที่ทะเลตะวันออก ปลีกตัวไม่ได้ชั่วคราว ในตอนนี้สำนักเราเท่ากับว่าไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์”
“อีกทั้งตามคำพูดของเจ้า เสื้อคลุมนภาต้องดูแลศิษย์พี่ฟาง ใช้การไม่ได้ชั่วคราว”
“ถึงแม้ว่าหวงตะวันเยือนแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะผนึกทะเละตะวันออกอยู่ แต่ว่าตัวบัดซบเฉินลี่ที่หนีไปกลางคันกลับได้รับอิสระ ต้องระวังป้องกันเขาก่อความวุ่นวายด้วย!”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย “ในวินาทีที่ทะเลตะวันออกถูกผนึก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกพลังของผนึกบดขยี้ พวกเราจึงเข้ามาในทางเชื่องเขตแดนที่พามาถึงโลกผืนสมุทร ไม่อาจยืนยันสถานการณ์ทางด้านแปดพิภพต่อจากนั้นได้”
“แต่ว่านอกจากเฉินลี่แห่งตำหนักอัสนีสวรรค์แล้ว ผู้คุมหอคลื่นโหมอันชิงหลินก็รอดมาได้เช่นกัน”
“ถึงแม้หอคลื่นโหมจะรักษาความเป็นกลาง แต่ถ้าหากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ทำเกินเลย ผู้คุมหอย่อมต้องอยากแทรกแซง ถึงอย่างไรสถานการณ์ที่สำนักใดสำนักหนึ่งเป็นใหญ่ก็ไม่ใช่สิ่งที่หอคลื่นโหมอยากเห็น”
“มงกุฎจันทรายังอยู่ในมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่าเขาไร้พรมแดนก็มีขวานจามสวรรค์ ถึงแม้ว่าขวานจามสวรรค์จะได้รับความเสียหาย ขอแค่อดทนผ่านเรื่องนี้ได้ ก็นับว่าเป็นพลังที่ไม่อาจมองข้าม ยิ่งไปกว่านั้น ตามที่ข้ารู้ ดูเหมือนเมิ่งหวานจะได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน”
ชายหนุ่มพูดอย่างเชื่องช้า “สุดท้ายแล้ว เมื่อท่านอาจารย์ปู่หายไปเป็นเวลานาน เกรงว่าจะปิดข่าวที่เขาหายสาบสูญไว้ไม่มิด แต่หากเสื้อคลุมนภากลับสำนักแล้ว ก็น่าจะสยบพวกคนเลวได้ไม่น้อย”
“แม้ว่าเสื้อคลุมนภาจะต้องดูแลอาจารยน์ลุงสอง เรื่องนี้ยอดฝีมือระดับสูงของสำนักเรารู้ แต่สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์กลับไม่รู้ พวกเขาก็มีความกังวลเช่นกัน”
“ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ว่าอาจารย์ปู่ ผู้อาวุโสม่อ ท่านพ่อ หวงกวงเลี่ย และเจ้าเมืองทะเลมรกตจะหายไปชั่วคราว แต่สถานการณ์โดยรวมของแปดพิภพจะยังคงปลอดภัย ถ้าไม่เกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย”
เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “อย่าว่าแต่เมิ่งหวานได้รับบาดเจ็บ ต่อให้นางไม่บาดเจ็บ ขอแค่ศิษย์น้องเฟิงไม่เป็นไร การทดสอบแห่งจันทราครั้งที่เจ็ด เมิ่งหวานย่อมต้านทานไม่ให้ศิษย์น้องเฟิงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งไม่ได้!”
ฟู่เอินซูพูด “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เรื่องเหนือความคาดหมาย”
พูดถึงตรงนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็เริ่มกุมหน้าผาก “หลังจากท่านพ่อเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่มีศัตรูในแปดพิภพอีกอย่างแท้จริง แม้กระทั่งท้าทายคนที่ร่วมมือกันต่อต้านเขาเพียงลำพังได้”
“บวกกับอาจารย์ปู่และเสื้อคลุมนภา สำนักเราแทบจะกลับไปอยู่ในยุครุ่งโรจน์ของอาจารย์ปู่สะเทือนสวรรค์แล้ว”
“ปัจจุบันต่อให้อาจารย์ปู่หายตัวไปชั่วคราว แต่ขอแค่ท่านพ่ออยู่ สำนักเราก็นับเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแปดพิภพโดยไร้ข้อโต้แย้ง”
ฟู่เอินซูมีสีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย “ศิษย์น้องเยี่ยนยังมีโอกาสในการพัฒนา ถึงเวลานั้นคงจะสยบใต้หล้าด้วยตัวคนเดียวได้”
คนทั้งสองมองหน้ากันเอง หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้อยู่ชั่วขณะ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอจะอยู่ในผนึกที่ทะเลตะวันออก ปลีกตัวไม่ได้ชั่วคราว แต่ก็ยากจะคาดเดาออกว่าหอคลื่นโหมคิดอย่างไร
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวต่อ “พวกเราคิดจะกลับแปดพิภพต้องใช้เวลาสักพัก ตอนนี้คิดไปก็ไร้ประโยชน์ หวังว่าสถานการณ์ทางด้านแปดพิภพจะยังมั่นคง พวกศิษย์น้องเฟิงไม่เป็นอันตราย ขอแค่ด้านในเราไม่มีปัญหา ก็น่าจะข้ามผ่านได้ง่ายๆ”
ฟู่เอินซูมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ถูกต้อง คิดเรื่องพวกนี้ในตอนนี้ไปก็ไร้ประโยชน์
“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าสวีเฟยกับสือจวินสองแม่ลูกอยู่ที่นี่ พวกเราไปหาพวกเขากันเถอะ จะได้พาพวกเขากลับแปดพิภพด้วยกัน”
“แต่เจ้าบอกว่าได้ล่วงเกินงูเจ้าถิ่นสองตัวเข้า เช่นนั้นพวกสวีเฟยจะลำบากหรือไม่”
………………………………………
[1] ทำท่าบุกตีตะวันออก แต่จู่โจมตะวันตก หมายถึง หลอกล่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี