สังหารคนในฝ่ายธรรมะ จากนั้นค่อยสังหารคนในพรรคมาร
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยพิจารณาความคิดนี้มาก่อน และไม่จำเป็นต้องพิจารณาด้วย
สำหรับคำพูดของฟางข่านที่ว่า ตนจะถูกวังผลึกวารี บ่อหมื่นกระบี่ และสำนักมังกรโลหิตรุมสังหาร เยี่ยนจ้าวเกอเพียงพ่นลมออกจมูก
ธรรมมะและมารอยู่ในดุลยภาพ การดำรงอยู่ของตนทำลายดุลยภาพนี้ได้
เนื่องจากการตายของฟางจ้าวหง ตนจึงต้องสู้กับฟางข่าน กระนั้นก่อนจะยืนยันว่าตนอยู่พรรคมาร สำนักฝ่ายธรรมมะจะลงมือด้วยความระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นรจะเป็นการมอบโอกาสให้กับพรรคมารเปล่าๆ ปลี้ๆ
หัวหอกของเยี่ยนจ้าวเกอชี้ไปที่ปราชญ์ปีศาจลิ่นเชียนเฉิง มีเพียงเหตุผลเดียว
บุรุษผู้นี้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เหมือนจะหวังดี คิดช่วยเหลือเยี่ยนจ้าวเกอให้หลุดพ้นจากปัญหา แต่ความจริงกลับครอบหม้อดำที่บอกว่ามาจากสำนักปราชญ์ปีศาจไว้บนศีรษะของเขา
คนผู้นี้มีเจตนาร้ายแอบแฝง ที่ปรากฏโฉมหน้าออกมา เท่ากับทำร้ายเยี่ยนจ้าวเกอ บีบบังคับให้เขาเข้าพวก
ในตอนที่กวนคนน้ำสกปรก เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่า ตัวลิ่นเชียนเฉิงคิดจับปลาในน้ำขุ่น มีแผนการพิเศษ
บางทีสำหรับลิ่นเชียนเฉิง ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะมีศักยภาพและพลังน่าทึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ยังมีพลังฝึกปรือเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นหกหรือขั้นเจ็ดเท่านั้น หากเผชิญหน้ากับบ่อหมื่นกระบี่และเกาะจิตประสานที่ลงมือโดยใช้พลังทั้งหมด สุดท้ายไม่อาจสู้ด้วยได้
มาตรว่าในใจจะไม่ยินยอม แต่เพื่อไม่ตายด้วยน้ำมือของฟานข่าน เยี่ยนจ้าวเกอจึงได้แต่เข้าร่วมกับพรรคมาร
กระนั้นเขากลับคาดไม่ถึงว่า หลังจากต้อนงูเข้ามาในถ้ำแล้ว ถึงได้รู้ว่ามันเป็นมังกรตัวหนึ่ง!
มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณระยะต้นที่หลอมร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก พลิกฆ่าฟางข่านซึ่งเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม หนึ่งในเจ็ดผู้ยิ่งใหญ่ฝ่ายธรรมะ
หมากที่ในตอนแรกคิดว่าน่าจะปลูกฝังและใช้ประโยชน์ได้ ถึงกับเป็นบุคคลที่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกับเขา!
ฟางข่านเจอโศกนาฏกรรมไปแล้ว ลิ่นเชียนเฉิงก็ไม่ต่างกัน
เขารู้ทันทีว่าการกระทำก่อนหน้าของตนจะนำผลลัพธ์ใดมาให้
“เชื่อข้าเถอะ คนอย่างข้า ไม่ชอบจดจำความแค้น จริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงพลางมองลิ่นเชียนเฉิง “มีแค้นใดสามารถชำระได้ทันที วิญญูชนไม่จดจำความแค้นข้ามวันกระมัง?”
ท่านทำร้ายข้า เช่นนั้นข้าย่อมเอาคืน
ข้าไม่ทราบว่าท่านวางแผนอันใด แต่เอาเป็นว่าข้าจะจัดการท่าน
ขณะเยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเสียงเย็น เขาสั่งความคิด ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพลันพุ่งหาลิ่นเชียนเฉิงดุจหอก
เบื้องหน้าลิ่นเชียนเฉินถูกครอบคลุมอยู่ในหมอกดำทั่วร่าง ดวงตาทั้งสองสว่างไสวดั่งดวงดาว
ในหมอกดำไม่มีเสียงใด มีเพียงดวงตาที่เหมือนดาวจรัสฟ้าเท่านั้นที่กะพริบอย่างแผ่วเบา
ปราณสีดำหลายสายแผ่พุ่งออกมา ขวางการโจมตีของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ส่วนเขาหนีห่างออกไปด้วยความเร็วสูง
ญาณจริงแท้ของทั้งสองฝ่ายกระเพื่อมกลางอากาศอย่างรุนแรง แต่ลิ่นเชียนเฉิงคิดถอยหนี ทั้งสองฝ่ายมิได้จะต่อสู้กันให้ตายไปข้าง
หากคนอื่นเห็นการกระทำเช่นนี้เข้า ยากจะไม่ทำให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นาๆ
คนที่สงสัยในตัวเยี่ยนจ้าวเกออยู่แล้ว จะสงสัยยิ่งกว่าเดิม คิดว่าลิ่นเชียนเฉิงตั้งใจสนับสนุนชายหนุ่ม และทั้งสองกำลังเล่นละครกันอยู่
เจ้าสำนักบ่อหมื่นกระบี่เหยียนกังลงมือด้วยความลังเลเล็กน้อย ไม่กล้าใช้กระบี่ล่องลอยสุดกำลัง เพราะกลัวจะตกลงสู่กับดัก ป้องกันไม่ให้เยี่ยนจ้าวเกอกับลิ่นเชียนเฉิงร่วมมือกันโจมตีเขาอย่างกะทันหัน
ด้วยเหตุนี้เอง อย่างไรเสียลิ่นเชียนเฉิงก็เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่อยากต่อสู้ ในใจต้องการเพียงถอยหนี ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งจะหลอมเสร็จ มาตรว่าจะมีความเร็วสูง แต่ไม่อาจรั้งเขาไว้ได้
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้สึกเสียดาย บนใบหน้ากลับปรากฏสีหน้าครุ่นคิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี