น่านน้ำที่อยู่รอบๆ ถูกแสงดาวขมุกขมัวครอบคลุมไว้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรับรู้ของเยี่ยนจ้าวเกอ หรือร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกล้วนได้รับผลกระทบรุนแรง
อาณาเขตที่การรับรู้ไปถึง โดยพื้นฐานแล้วเป็นบริเวณที่สายตามองเห็น
ทว่าเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอก้มหน้าลงมองกระบี่หยกในมือ เขาก็สัมผัสได้ว่าด้านในคล้ายมีการเปลี่ยนแปลงอันใด
นี่ได้ยืนยันก้าวแรกที่สำคัญที่สุด ตนไม่ได้หาผิด สือจวินสมควรออกมาจากตาน้ำตานี้
ด้วยเหตุนี้เอง ตำแหน่งของสือจวินและอาณาเขตที่เกี่ยวเนื่องจึงลดลงมาก การตามหาไม่ได้ยากเหมือนก่อนหน้าอีกแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอเริ่มค้นหาบริเวณใกล้ๆ ตามการนำทางของกระบี่สั้น
หาไปหามา ชายหนุ่มก็พบว่าบริเวณนี้มีจอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตอยู่ด้วย แต่ก็ตามหาไปทั่วเหมือนกับแมลงวันไร้หัว ไม่แตกต่างจากสถานที่อื่น
ถึงแม้พวกเขาจะมีคนมาก แทบจะเป็นการตามหาชนิดปูพรม กระนั้นคิดจะตามหาคนในสภาพแวดล้อมของทะเลตาข่ายดาว โดยเฉพาะยังเป็นคนที่ซ่อนตัว ต่อให้มีคนมากขนาดไหนก็ยังไม่พอ เหมือนกับสุภาษิตที่ว่างมเข็มในมหาสมุทร
กระนั้นถึงแม้จะยังคงหาต้นเหตุไม่เจอ เมื่อตามมาถึงที่นี่แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าไม่ใช่แค่โชคอย่างเดียวเท่านั้น
เขาผ่านจอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตเหล่านี้ไปโดยไม่ส่งเสียง ได้ยินการสนทนาของอีกฝ่ายอย่างเลือนราง
“การหาคนในสภาพแวดล้อมของทะเลลางเรือนกับทะเลตาข่ายดาวยากเย็นเกินไปจริงๆ”
“จะหายากอย่างไรก็ต้องหา เด็กน้อยนั่นทำร้ายหลานของผู้อาวุโสเหนียน ลักพาตัวบุตรสาวของเจ้าสำนัก ต่อให้ต้องขุดดินสามคืบก็ต้องหาตัวเขาให้ได้!”
“มิผิด อย่าว่าแต่เขาเป็นแค่ลูกศิษย์ของแขกของเขาหงส์วิเศษคนหนึ่ง ต่อให้ลูกศิษย์ของเขาหงส์วิเศษก็ต้องหาตัวให้เจอ”
“จะว่าไปผู้อาวุโสเหนียนก็ออกฌานแล้ว กำลังมาที่ทะเลตาข่ายดาวพร้อมกับท่านเจ้าสำนัก ใช้วิชาลับค่อยๆ ลดอาณาเขตให้เล็กลง สมควรตามหาตำแหน่งของตัวบัดซบนั่นและศิษย์น้องเฉินได้อย่างรวดเร็ว”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินการสนทนานี้ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
หลังจากมาถึงโลกผืนสมุทร เขาก็ตั้งใจรวบรวมข่าวสารทุกชนิด เพื่อทำความเข้าใจกับคนและเรื่องราวบนโลกแห่งนี้
ครั้นไปถึงเขาหงส์วิเศษ ก็ได้ทำความเข้าใจอย่างเป็นระบบ
ถึงแม้คนในสำนักมังกรโลหิตเหล่านี้จะไม่ได้อธิบายรายละเอียดของคนที่พูดถึง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาสถานะของพวกเขาออก
เหนียนเชิน ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักมังกรโลหิต เคยเป็นเจ้าสำนักมาก่อน และเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักมังกรโลหิต ครอบครองนิ้วมังกรทั้งเก้า
ในยอดฝีมือขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกแห่งโลกผืนสมุทร เหนียนเชินถูกจัดอยู่ในอันดับสาม
แน่นอนว่าการจัดอันดับนี้ยังไม่ได้นับอาวุธศักดิ์สิทธิ์
เมื่อสิบปีก่อน เพื่อเลื่อนระดับ เหนียนเชินหยุดจัดการภารกิจในสำนัก มอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับเฉินซื่อเฉิงที่เป็นลูกศิษย์ของตน
แต่ว่าตำแหน่งในสำนักมังกรโลหิตของเขา ยังคงใช้คำว่ามีคำพูดดุจประกาศิตมาบรรยายได้
ระหว่างสำนักมังกรโลหิตกับคนที่มีข้อบาดหมาง ในที่ตอนสู้กับจอมยุทธ์ในสำนักมังกรโลหิต มักจะไม่เกรงอกเกรงใจ เยาะเย้ยว่าเฉินซื่อเฉิงเป็นเจ้าสำนักเด็ก ด้านบนยังมีเจ้าสำนักสูงสุดอยู่
เฉินซื่อเฉิงมิได้สนใจคำเยาะเย้ยนี้ เหนียนเชินค่อนข้างวางใจในตัวเขา หลายปีมานี้หน้าที่น้อยใหญ่ในสำนักต่างมอบให้เขาจัดการ ส่วนตนตั้งใจฝึกฝน
แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว เหนียนเชินที่เข้าฌานไป ครั้งนี้ออกฌานมายังทะเลตาข่ายดาวโดยเฉพาะ
‘ลูกศิษย์สำนักมังกรโลหิตที่จวินเอ๋อร์ทำร้ายเป็นหลานของเหนียนเชินหรือ?’ เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตนเอง บุตรของเหนียนเชินตายตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเหลือแค่เหนียนเหว่ยซึ่งเป็นหลานเพียงคนเดียว เรื่องนี้ทุกคนในโลกผืนสมุทรล้วนทราบ
ขณะที่ไตร่ตรองอยู่นั่นเอง เยี่ยนจ้าวเกอก็ได้ยินจอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตผู้นั้นกล่าวต่อ “อาการบาดเจ็บของศิษย์พี่เหนียนยังไม่ได้รับการรักษา ก็ออกมาตามหาศิษย์น้องเฉิน สร้างความลำบากให้เขาจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี