ถึงแม้จะเป็นแค่ชั่วพริบตาเดียว แต่คำพูดของบุรุษในอาภรณ์ดำผู้นี้ก็มีหลายส่วนที่ทิ้งภาพจำอันล้ำลึกไว้ให้เยี่ยนจ้าวเกอ
แดนฝังกระดูกของฝูงมังกรลอดวารี
ดั้นด้นมาถึงโลกผืนสมุทรเล็กๆ
เมื่อพูดถึงแดนฝังกระดูกของฝูงมังกรลอดวารี เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกตกตะลึง คล้ายกับรู้สึกว่าลมปราณอันยิ่งใหญ่ในร่างของตัวเองสั่นไหวเล็กน้อย
ลมปราณของมังกรน้ำแข็งที่อยู่ในจุดลมปราณยังไม่ถูกหลอมรวมจนหมด
หลังจากเวลาผ่านไปหลายวัน ตนเองเหยียบเข้าสู่ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ ลมปราณที่ดูดซับมาจากซากมังกรน้ำแข็งยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ภาพที่ตนเข้าไปยังที่อยู่เดิมของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งและได้ซากมังกรน้ำแข็งมา เหมือนกับปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง
‘ในโลกผืนสมุทรก็มีตำนานฝูงมังกรลอดวารีหรือ? หรือว่าแดนฝังกระดูกของฝูงมังกรลอดวารีจะมีเบาะแสให้เสาะหา?’ เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาสนใจกว่าก็คือ ประโยคสุดท้ายก่อนที่บุรุษในอาภรณ์สีดำผู้นั้นจะจากไป
‘ลงมา?’ เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา ‘ไม่ใช่แค่มาถึงธรรมดา แต่เป็นการลงจาก ‘ที่สูง’ มายัง ‘ที่ต่ำ’ เขาลงมาจากที่ใดกัน?’
ชายหนุ่มรู้แล้วว่ามีโลกซ้อนโลกอยู่ และรู้แล้วว่ามารดาของตนมาจากที่นั่น ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาใหนหัว ย้อมเป็นบุรุษชุดดำผู้นั้นอาจจะมาจากโลกซ้อนโลกเช่นเดียวกัน
พลังฝึกปรือของคนผู้นี้ อย่าว่าแต่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สี่เลย ขนาดจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ถึง
เขาออกจากโลกซ้อนโลก มายังโลกผืนสมุทร เพราะต้องการอาศัยอยู่ที่นี่หรือ?
ถ้าหากไม่ใช่ เช่นนั้นเขากลับโลกซ้อนโลกได้อย่างไร?
ในมือครอบครองของวิเศษที่สามารถทำให้รอยแตกของเขตแดนเสถียรได้ ตามคำกล่าวของเสวี่ยชูฉิงหรือไม่?
ตอนนี้บุรุษชุดดำอยู่ที่ใด? กลับโลกซ้อนโลกไปแล้วหรือ?
‘ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดหวัง ก็น่าจะกลับไปยังโพรงหินก้นทะเลแห่งนั้น เพื่อตามหาคานวังเทพอีกครั้ง’ เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้าช้าๆ ‘ไม่ว่าเขาจะได้อะไรจากแดนฝังกระดูฝูงมังกรหรือไม่ ไม่ว่าเขาจะเลื่อนระดับพลังของเขาได้หรือไม่ หลังจากจัดการเรื่องนั้นเสร็จ ก็น่าจะกลับมาทดลองที่นี่’
เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดในใจ ‘ดูจากเหตุการณ์ที่บันทึกอยู่ในเงาแสงนั่นแล้ว การไปถึงโพรงหินก้นทะเลของเขาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานมาก เกรงว่าอาจจะผ่านไปหลายร้อยปีแล้วด้วยซ้ำ…’
หลังจากเวลาผ่านไป ภาพเงาแสงที่ส่งมาจากคานวังเทพก็เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
การดูภาพเหตุการณ์ซึ่งบันทึกอยู่ในคานวังเทพเหมือนใช้เวลายาวนาน แต่ความจริงเป็นเวลาแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น
ชายหนุ่มรู้สึกว่าเบื้องหน้าตนมีโอกาสที่ยากจะพบพานยิ่ง
เนื่องจากการเชื่อมต่อกันระหว่างเสาระเบียงวังเทพและคานวังเทพ ระหว่างทั้งสองจึงเกิดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งขึ้น คล้ายกับประกอบกันเป็นสภาพแวดล้อมที่มีเอกลักษณ์ ไหลทวนกระแสเวลา เปลี่ยนเวลาชั่วพริบตาให้ยาวนานขึ้น
นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อาจเจอได้เพราะแค่สัมผัสเสาระเบียงวังเทพหรือคานวังเทพ
ถึงจะเป็นการพบกันระหว่างเสาระเบียงวังเทพและคานวังเทพ ก็เป็นการรวมตัวกันครั้งแรก เมื่อครู่จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งดูภาพในเงาแสงที่ถูกบันทึกไว้ในคานวังเทพ ทางหนึ่งกลั้นหายใจใช้ลมปราณอย่างเงียบเชียบ
เขามีวรยุทธ์และทรัพยากรมากมาย สิ่งที่ขาดมีเพียงเวลาและการสั่งสมเท่านั้น
ในสถานการณ์ที่ชั่วพริบตาเดียวยาวนานไร้สิ้นสุดเช่นนี้ สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้วเป็นโอกาสที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะปรับลมหายใจ อาคมจริงแท้อันเป็นญาณวรยุทธ์หนึ่งก็ลอยขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นก็มีอันที่สอง และอันที่สาม
ส่วนเหตุการณ์ที่บันทึกอยู่ในคานวังเทพ หลังจากบุรุษอาภรณ์ดำหายไปแล้ว ก็ไม่มีใครมาเยือนโพรงหินใต้ทะเลอีก จนกระทั่งเงาร่างทั้งสองปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน
เยี่ยนจ้าวเกอกระตือรือร้นขึ้นมา เพราะคนหนุ่มหนึ่งในสองคนนั้น ก็คือสือจวินที่เติบโตขึ้นแล้ว
ถึงจะไม่เคยพบหน้ากันตรงๆ แต่ว่าสวีเฟยเคยมอบภาพเงาแสงของสือจวินให้เขาดูแล้ว ดังนั้นในตอนนี้ชายหนุ่มจึงพอจะจำอีกฝ่ายได้
ทว่าเมื่อมาถึงโพรงหินก้นทะเล สือจวินมีบาดแผลติดตัวมาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี