เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองสีของท้องฟ้าเหนือมหาสมุทร ‘ถ้าคำนวณตามเวลาของโลกผืนสมุทร ทางด้านแปดพิภพน่าจะผ่านไปสองเดือนกว่าๆ แล้ว
‘แต่ว่าการไกลของเวลาในสุสานมังกรเดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า สับสนจนไม่อาจแยกแยะ ตอนนี้พูดยากว่าทางด้านแปดพิภพเป็นวันที่เท่าไรแล้ว’
ฟู่เอินซูรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณที่คุ้นเคยของโลกฝั่งนี้ นางทอดถอนใจเช่นกัน
นางกล่าวว่า “ที่นี่น่าจะเป็นทะเลชั้นนอกของทะเลเหนือ พวกเรากลับสำนักกันก่อน ผ่านทางทะเลตะวันออกก็ได้ ที่นั่นมีคนของเมืองทะเลมรกต สำนักเราอาจจะเหลือคนไว้คอยเฝ้าผนึก จะได้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของแปดพิภพในปัจจุบัน และความปลอดภัยของอวิ๋นเซิงกับหลิวหัวก่อนได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ควรจะเป็นเช่นนั้นขอรับ”
ทั้งสองเดินทางผ่านทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออก ครั้นมองไกลออกไป พวกเขาเห็นยอดเขาที่เปล่งแสงสีขาวแห่งหนึ่งหล่นลงไปในมหาสมุทร กดอันก้นทะเล ยอดเขาโผล่พ้นผิวน้ำออกมา
เหนือยอดเขามีตราอาคมขนาดยักษ์ที่กว้างใหญ่ไพศาลกำลังเปล่งแสงอันอ่อนโยน
ทะเลชั้นนอกของทะเลตะวันออกในตอนนี้ไร้คลื่นลมและสุขสงบ ไม่ได้เต็มไปด้วยเปลวเพลิง และไม่มีปีศาจอัคคีอาละวาดอีกแล้ว
เทียบกับก่อนหน้านี้ บีดนี้เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูรู้สึกยินดีที่ความพยายามของทุกคนไม่เสียเปล่า
‘พวกท่านพ่อน่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักถึงจะออกมาจากผนึกได้’
เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาคร่าวๆ รู้สึกมั่นใจ
ใกล้กับผนึกมีจอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคอยเฝ้าอยู่จริงๆ ในขณะเดียวกันก็มีจอมยุทธ์ของเมืองทะเลมรกต หอคลื่นโหม และตำหนักอัสนีสวรรค์อยู่ด้วย
เมื่อทุกคนเห็นคนที่ว่ากันว่าตายไปนานแล้วอย่างเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซู ต่างก็อดตกตะลึงไม่ได้
หลังจากตกใจ จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงก็ดีใจเพราะความคาดไม่ถึง
ได้เจอศิษย์ร่วมสำนัก เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูย่อมรู้สึกยินดี หลังจากคำนับกันเสร็จ ก็ถามไถ่สถานการณ์ในปัจจุบัน
เมื่อได้รู้ว่าในวันลงผนึก เฟิงอวิ๋นเซิงกับอิ่นหลิวหัวไร้อันตราย กลับเขากว่างเฉิงได้อย่างปลอดภัย เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่เอินซูก็คลายใจลง
และหลังจากที่รู้ว่าขวานจามสวรรค์ตกไปอยู่ในมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยนจ้าวเกอก็ส่ายหน้า ทว่าหลังจากนั้นเขาก็แค่นหัวเราะ “ไม่เป็นไร ตอนนั้นกินเข้าไปอย่างไร อีกเดี๋ยวจะทำให้พวกเขาคายออกมา”
เขากวาดตามองรอบๆ “ไม่มีคนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของตาเฒ่าหวงหรืออย่างไรกัน?”
ผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงที่คอยเฝ้าที่นี่พูดว่า “ก่อนหน้านี้ยังอยู่ เพิ่งจากไปเมื่อสองวันก่อน”
เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้ว “เกิดความผิดปกติต้องมีลับลมคมใน หลังจากกลับไปเตรียมตัวที่สำนัก ข้าจะไปยอดยอดเขาเรืองรองทันที”
“รอท่านเจ้าสำนักออกมาก่อนเถอะ” ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอคุยโตถึงเพียงนี้ ผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงคนนั้นก็รู้สึกตกใจ
สีหน้าของเขากลายเป็นถมึงทึง สายตามองไปยังจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ที่ถอยไปอย่างเงียบๆ “จ้าวเกอ ก่อนหน้านี้ที่เจ้าออกมาจากในปฐพีพิภพ แล้วมุ่งหน้ามายังทะเลตะวันออก เจ้าเคยพูดไว้ว่า เจ้าตำหนักอัสนีสวรรค์เฉินลี่หนีไปกลางคัน ทำให้สถานการณ์สูญเสียการควบคุม ท่านเจ้าสำนักคนเก่าต้องเสียสละชีวิตของตัวเอง ถึงสะกดนพยมโลกไว้ได้”
“หลังจากเจ้าหายไปจากทะเลตะวันออก ก็ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เฉินลี่กลับตอบโต้โดยการโทษเจ้า ว่าเจ้าไปแตะต้องของวิเศษในปฐพีพิภพ ทำให้นพยมโลกเกือบจะมาถึง จอมยุทธ์จากแต่ละสำนักที่เข้าไปในปฐพีพิภพจึงบาดเจ็บล้มตาย”
เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็หัวเราะด้วยความเดือดดาลสุดขีด “ประเสริฐนัก เฒ่าเฉินหัวล้าน”
ผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงกล่าวเสียงทุ้ม “วันนี้เจ้ากลับมาแล้ว สามารถไต่ถามต่อหน้าเขาได้ บอกความจริงกับใต้หล้า”
ชายหนุ่มยิ้มแยกเขี้ยว “ไต่ถาม? เหอะ เหตุใดต้องลำบากเพียงนั้น”
รอยยิ้มของเขาทำให้คนที่อยู่รอบๆ รู้สึกหวาดหวั่น
“อาจารย์ป้าฟู่ ท่านกลับสำนักก่อนเถอะ ข้าจะไปอัสนีพิภพเสียหน่อย” เยี่ยนจ้าวเกอหันไปพูดกับฟู่เอินซู
ผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงที่อยู่ด้านข้างได้ยินพลันนึกขึ้นได้ “จริงด้วย ผู้อาวุโสฟู่ ท่านรีบกลับสำนักเถอะ ในสำนักเหมือนมีการถกเถียงเรื่องที่พวกท่านถูกสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ซุ่มโจมตีในตอนนั้นมากมายนัก”
“ได้ยินมาว่าวิหารอาญาได้ดำเนินการพิจารณาคดี เฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัวซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ร่วมทางกับท่านในวันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย”
“ข้าอยู่ที่ทะเลตะวันออก จึงไม่รู้สถานการณ์อย่างเป็นรูปธรรมนัก แต่ตอนนี้ในเมื่อท่านไม่เป็นไร ทุกอย่างน่าจะจัดการง่ายแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับฟู่เอินซูแวบหนึ่ง นางพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง ข้าจะกลับสำนักก่อน จ้าวเกอเจ้าไปอัสนีพิภพ รีบไปรีบกลับด้วยล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่เอินซู จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงที่อยู่รอบๆ ต่างชะงัก คิดไม่ถึงว่าไม่เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอจะคุยโตเท่านั้น ฟู่เอินซูยังไว้ใจเขาถึงเพียงนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี