ชายชราผมม่วงผู้นั้นก็คือผู้อาวุโสสูงสุดของตำหนักอัสนีสวรรค์ สำเร็จเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรม ทว่าในตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอ กลับรู้สึกเหมือนเมฆดำปกคลุมท้องฟ้า มองไม่เห็นแสงสว่างแม้แต่น้อย
เยี่ยนจ้าวเกอลอยอยู่กลางอากาศ เดินไปด้านหน้าทีละก้าว
ชายชราผมม่วงกระตุ้นอาวุธวิญญาณชั้นสูงของตน คิดจะสู้ตายยามแม้จะจนตรอก
ชายหนุ่มยกฝ่ามือขึ้น ทำเหมือนมองไม่เห็น
ท่ากระบี่เทพมารดาสายฟ้าที่ดูเหมือนจะเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด ถูกสภาวะฝ่ามือที่พลิกฟ้าพลิกดิน พลิกหยินหยางครอบคลุมไว้ พลันช้าลงเหมือนกับเต่าคลาน
ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ ลดต่ำลง แต่ว่าในสายตาของผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตำหนักอัสนีสวรรค์ผู้นั้นกลับเหมือนความสิ้นหวังที่หลบไม่พ้น
เหมือนกับฟ้าดินที่ตนอยู่พังทลายลงโดยสิ้นเชิง ขอแค่อยู่ด้านในก็ไม่อาจหนีความตายพ้น
ฟ้าดินหายไป แล้วผู้คนจะอยู่ตรงไหน?
เยี่ยนจ้าวเกอลดฝ่ามือลงด้านล่าง พลังมหาศาลชนิดพลิกกลับฟ้าดินบดขยี้ร่างเทพมารดาสายฟ้าของอีกฝ่าย
พลังมหาศาลลดต่ำลง ระเบิดศีรษะของชายชราผมม่วงอย่างไม่อาจต้านทาน!
ในตำหนักอัสนีสวรรค์มีแสงสายหนึ่งพุ่งออกมาอีก กลับเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตำหนักที่รอดมาได้ ตอนแรกคิดช่วยเหลือชายชราผมม่วง แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้กลับอ้าปากตาค้าง
เขาสะดุ้งโหยง รู้สึกหวั่นใจอย่างยิ่งยวด ก่อนจะหมุนตัวพุ่งกลับไปยังตำหนักอัสนีสวรรค์ ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าตอนออกมาโดยไม่หันหลังกลับ
ในวินาทีถัดมา บนท้องฟ้าเหนือตำหนักอัสนีสวรรค์ก็มีลวดลายอาคมขนาดยักษ์หลายสายจับตัวกัน ปรากฏเป็นค่ายกลขนาดมหึมา ครอบคลุมตำหนักทั้งหมดไว้
ค่ายกลคุ้มภูผาของตำหนักอัสนีสวรรค์ ค่ายกลเทพสายฟ้าเริ่มสำแดงพลัง ในเมฆสายฟ้าด้านบน มังกรอัสนีหลายตัวกะพริบแสงขึ้น แผ่ขยายออกไปยังที่ไกล ครอบคลุมท้องฟ้าในรัศมีหมื่นลี้ไว้
กลิ่นอายทำลายล้างของสายฟ้าไร้สิ้นสุด ทำให้โลกด้านล่างแทบจะกลายเป็นธุลี
ค่ายกลเทพสายฟ้ารุนแรงถึงขีดสุด แม้ว่าจะเป็นค่ายกลคุ้มภูผา แต่ไร้พลังป้องกัน กลับเป็นพลังโจมตีและพลังทำลายที่น่ากลัวถึงขีดสุด
ต่อให้จะเป็นลูกศิษย์ของตำหนักอัสนีสวรรค์ ในตอนนี้ยังขวัญหนีดีฝ่อ
เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในทะเลสายฟ้า ใบหน้าไม่แปรเปลี่ยน มองทุกสิ่งอย่างเงียบๆ
สายตาของเขาลึกล้ำและเหมือนจะจับตัวกันเป็นของแข็ง เจาะทะลุตำหนักโลหะ กวาดมองไปทั่วบริเวณ
ครั้นจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์หลายคนถูกสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอมองเห็น ต่างหวั่นใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
เมื่อสายตาเลื่อนไปเห็นชายหนุ่มอายุสามสิบกว่าปีผู้หนึ่ง ชายหนุ่มก็หยุดมองเล็กน้อย
ชายหนุ่มผู้นั้นสัมผัสได้ถึงสายตาของเยี่ยนจ้าวเกอ รู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งร่าง
แขนขวาที่เคยถูกตัด และได้กลับมาอย่างยากลำบาก ทว่าก็ไม่อาจใช้งานได้อีก ครั้งนี้เหมือนกับเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา
แต่ว่าเขายังยืดอกขึ้น “เยี่ยนจ้าวเกอ!”
เป็นลูกศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในหมู่คนหนุ่มสาวของตระกูลเยี่ยนแห่งเกาะจ้าวบนอัสนีพิภพ ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้โดดเด่นในหมู่จอมยุทธ์อายุน้อยของตำหนักอัสนีสวรรค์ เยี่ยนส่าน
เขาเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งจริงๆ ในอดีตถูกเยี่ยนจ้าวเกอตัดแขนขวา ถึงจะแม้จะได้แขนกลับมา ทว่ามือขวาไม่อาจใช้สู้กับใครได้อีก
เยี่ยนส่านอาศัยความแน่วแน่ ฝึกฝนกระบี่ด้วยมือซ้ายจนสำเร็จ และยังคงเป็นอัจฉริยะในคนรุ่นราวคราวเดียวกันของตำหนักอัสนีสวรรค์
แต่ชีวิตของเขาช่างน่าเศร้า หลิวโจว คุณชายฟ้าคำรน คู่แข่งในวันวานสลัดเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง ต่อให้เขาแขนไม่ขาดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายอยู่ดี
ต่อให้ตอนนี้หลินโจวจะตายไปแล้ว กระนั้นปัจจุบันเขาก็ยังคงสู้กับหลินโจวก่อนตายไม่ได้
ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอที่เกิดจากตระกูลเยี่ยนบนเกาะนภากาลาง และตัดแขนของเขา สร้างความเกลียดชังเข้ากระดูกให้กับเขา บัดนี้ยืนอยู่ในระดับที่เขาไม่อาจเอื้อมถึงอีกแล้ว
ก่อนหน้านี้ผนึกทะเลตะวันออกสมบูรณ์ เยี่ยนจ้าวเกอติดอยู่ด้านใน หากคำนวณตามเหตุผลแล้วน่าจะตายอย่างแน่นอน
พวกเยี่ยนส่านยินดีเกินบรรยาย ต่างหัวเราะร่า “ในที่สุดตัวหายนะก็ตายแล้ว!”
แต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกลับมายืนอยู่ด้านหน้าพวกเขาอีกครั้ง อีกทั้งยังแข็งแกร่งจนพวกเขาคาดไม่ถึง
มหาปรมาจารย์ขั้นที่เก้า ขั้นรูปญาณระยะท้าย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี