อาหู่เก็บของอย่างง่ายๆ จากนั้นก็เริ่มเตรียมตัวจัดการเรื่องฝังศพผู้อาวุโสของตน หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกเดินทาง
เยี่ยนจ้าวเกอรั้งอยู่ที่เขากว่างเฉิง ทางหนึ่งจัดการธุระในมือ ทางหนึ่งเฝ้าดูสถานการณ์ในโลกแปดพิภพ
สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ล่มสลายแล้ว
สำนักหนึ่ง หากผู้นำหรือยอดฝีมือเสียชีวิต ขอแค่ยังไม่ตาย ยังมีวันที่ฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง
สำนักถูกทำลาย ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นวันสิ้นโลก ระบบสำนักถูกตัดขาด
ทว่าในสถานการณ์ที่ผู้คนรุมผลักกำแพงคลอนแคลน[1] ยอดฝีมือแทบจะสูญสิ้น อีกทั้งยังสูญเสียการปกป้องจากชัยภูมิของสำนัก สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์คิดดิ้นรนจึงเป็นเรื่องลำบาก
เหล่าคนที่จงรักภักดีได้แต่หลบซ่อนเพื่อเอาชีวิตรอด ไม่ต้องให้เขากว่างเฉิงลงมา เขาไร้พรมแดนกับเมืองทะเลมรกตก็สามารถไล่ล่าให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อยได้แล้ว
อย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มมีคนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ถูกกดดันในการดำรงชีวิต ทรยศสำนักของตัวเอง ขอยอมแพ้และสวามิภักดิ์กับขุมกำลังอื่น เปลี่ยนสำนักของตัวเอง
ถึงอย่างไรเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงก็ทำลายระบบสำนักของพวกเขา หากให้พวกเขาสวามิภักดิ์ต่อเขากว่างเฉิง ปกติแล้วไม่มีใครมีหนังหน้าหนาขนาดนี้
คนของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ส่วนใหญ่เข้ากับหอคลื่นโหม เขาไร้พรมแดน และเมืองทะเลมรกต
เขากว่างเฉิงไม่สนใจเรื่องนี้ คนพวกนี้เปลี่ยนสำนัก ทรยศบรรพบุรุษ คนที่ไม่มีวันอภัยให้พวกเขาก็คือผู้ภักดีต่อสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์
และต่อให้พวกเขายังมีความแค้นก็ยังไม่อาจผ่านด่านหอคลื่นโหมได้ ด้วยพลังการควบคุมของแดนศักดิ์สิทธิ์ ความเป็นไปได้ในการฟื้นขึ้นมาจากความตายแทบจะเป็นศูนย์
นอกเสียจากจะมียอดฝีมือจำนวนมากมาจากสำนักแสงสว่าง ทำลายเขากว่างเฉิงและกดดันทุกสำนัก
ทว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ สำนักแสงสว่างมีความเป็นไปได้ว่าจะเลือกตัวแทนใหม่จากในสำนักหอคลื่นโหมสามสำนัก ใช่ว่าจะสนับสนุนให้สร้างสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่
และในช่วงเวลาต่อมา เยี่ยนจ้าวเกอก็วางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเป็นไปได้นี้เป็นจริง
ในขณะเดียวกันเขากว่างเฉิงก็ระดมพลเช่นกัน
คิดจะเพิ่มพลังในการควบคุมโลกแปดพิภพของสำนัก ย่อยชัยชนะที่ได้มาหลังจากทำลายสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ พวกเขาทราบดีว่าอิทธิพลในอัคคีพิภพและอัสนีพิภพของศัตรูไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ด้วยวาจาไม่กี่คำ จำเป็นต้องมีการทำงานที่เป็นรูปธรรมจำนวนมาก และเวลาที่ยาวนาน
ณ เขากว่างเฉิง วังฝูงมังกรกดทับอยู่บนยอดเขาร่องนทีด้านหลังสำนัก เยี่ยนจ้าวเกอพักอยู่ที่นี่
เมื่อมีเยี่ยนจ้าวเกอกับวังฝูงมังกร หุบเขาผนึกเวหาใต้ยอดเขาร่องนทีย่อมไม่ต้องกังวล ด้วยเหตุนี้ ผู้อาวุโสกงที่เป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งหุบเขาผนึกเวหาจึงมีอิสระมากขึ้น มุ่งหน้าไปที่อัคคีพิภพ
ปัจจุบันอานุภาพของเขากว่างเฉิงเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่เหลือยอดฝีมือระดับสูงที่ด้านหนึ่งรับผิดชอบหน้าที่ ด้านหนึ่งคุ้มครองดินแดน และจัดการปัญหาตามจริงได้เพียงน้อยนิด
ในตอนที่ขุมกำลังและอิทธิพลของสำนักเพิ่มขึ้นนมาก ผู้อาวุโสที่มีพลังแข็งแกร่งอย่างผู้อาวุโสกงมีประโยชน์มาก
การต่อสู้ติดต่อกันก่อนหน้าทำให้สมาชิกเขากว่างเฉิงได้รับความเสียหาย เหมือนสุภาษิตจับแขนเสื้อก็เห็นศอก เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้กังวล
ในวังฝูงมังกร เขากับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่งอยู่ตรงกันข้ามกัน มองเตาผลึกหินชั้นในตรงหน้าสั่นสะเทือน และเปิดออกอย่างรุนแรง
แสงวิญญาณละลานตาหลายสายพุ่งออกมาจากด้านใน กระจายเต็มวังฝูงมังกร
ประตูวังไม่ได้ปิด ปราณวิญญาณเรืองรองไหลออกมาจากด้านใน ส่องหุบเขาผนึกเวหาด้านล่างที่ถูกป่าปกคลุมไม่เห็นตะวันตลอดทั้งปีให้ส่องสว่าง
ขณะที่หลังสำนักมีแสงเจิดจ้าซัดสาด ปราณวิญญาณไหลล้นทั่วบริเวณ พวกผู้อาวุโสเขากว่างเฉิงที่อยู่บนเขาต่างยินดีเกินบรรยาย “สำเร็จแล้ว จ้าวเกอทำสำเร็จแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี