ถึงแม้ว่าจะเป็นมรดกที่จักรพรรดิประกายกาฬเหลือไว้ แต่ว่าสำนักประกายกาฬแตกแยกมาหลายปี สำนักแสงสว่างและสำนักความมืดต่อสู้กันมาเป็นเวลานานขนาดนี้ ใครได้ของสิ่งนี้ไปก่อน อีกฝ่ายไม่มีทางก้มหัวศิโรราบเด็ดขาด
ถ้าหากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกัน เช่นนั้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เพียงความเป็นไปได้นี้ไม่สูงนัก
กระนั้น ของที่อยู่เบื้องหน้านี้อาจจะมีมูลค่าค่อนข้างสูง บางทีข้างในอาจจะเก็บซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้
ถึงอย่างไรอิ่นเทียนเซี่ยก็เป็นยอดฝีมือที่เป็นบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์ของสำนักประกายกาฬ เป็นผู้ล้ำเลิศที่พาสำนักประกายกาฬไปยังจุดสูงสุดที่เคยไปมาก่อนมหาภัยพิบัติ
เพราะมหาภัยพิบัติ สำนักประกายกาฬย่อมได้รับผลกระทบร้ายแรง เพียงแต่ยังโชคดีกว่าสำนักอื่น ไม่ถูกตัดขาดการสืบทอด เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกชมเชยคนที่นำสำนักประกายกาฬให้เดินออกมาจากก้นเหว ไปยังยอดเขาที่ไม่เคยไปในสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งนัก
หากพูดอีกอย่างหนึ่ง ต่อให้สำนักประกายกาฬสูญสิ้นไปในมหาภัยพิบัติ การก้าวข้ามคนรุ่นก่อนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ที่สำนักแสงสว่างสังหารคนชิงสิ่งของ สร้างหายนะให้แก่ตระกูลของผู้อาวุโสม่อ ก็ได้สะท้อนอ้อมๆ แล้วว่าเศษโลหะแผ่นนี้ไม่ธรรมดา
เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาหันไปมองบิดาของตน ครั้นเห็นเยี่ยนตี๋มองมา จึงพยักหน้าช้าๆ
ความคิดของเยี่ยนตี๋เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ
ตอนนี้สำนักของตนกับสำนักแสงสว่างกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตแล้ว ย่อมไม่กลัวการแย่งชิงสิ่งของเพิ่มมา
เพิ่มเบี้ยพนันของตัวเอง ทำให้อีกฝ่ายเทหมดหน้าตัก เป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง
ปัญหาเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ สำนักความมืดอาจจะหมายตาของสิ่งนี้เช่นกัน แต่ตามคำพูดของผู้อาวุโสม่อ บางทีของสิ่งนี้อาจจะนำผลกระทบไม่ดีมาให้ แต่ก็อาจจะมีประโยชน์ใหญ่หลวง
เยี่ยนตี๋พูดขึ้น “เจ้าเชี่ยวชาญศาสตร์หลากหลาย ของให้เจ้าเก็บไว้ ค่อยๆ ทำความเข้าใจ”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าขานรับ ประสานมือให้ผู้อาวุโสม่อ “เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านผู้อาวุโสด้วย”
ผู้อาวุโสม่อส่ายหน้า “พูดอะไรกัน สมควรเป็นข้าขอบคุณเจ้า ขอบคุณสำนักของพวกเจ้าที่เอาชนะสำนักแสงสว่าง ทำให้ความแค้นในใจข้าสลายไป”
“ตัวข้าสูญเสียความกล้าหาญ เหมือนกับเต่าหัวหด กลับไม่มีความมั่นใจในการต่อสู้และแก้แค้นสำนักแสงสว่าง”
“ตอนมองพวกเจ้าสองพ่อลูก ข้ารู้สึกละอายใจนัก ละอายใจต่อครอบครัวที่ตายไป”
บิดาบุตรสองคนปลอบประโลมผู้อาวุโสม่ออยู่หลายประโยค ทำให้จิตใจของผู้อาวุโสม่อจึงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองฝ่ายคุยกันอีกพักหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วเป็นการฟังผู้อาวุโสม่อสาธยายถึงวิถีชีวิตบนโลกซ้อนโลก
เมื่อฟังจบ ผู้อาวุโสม่อถอนใจ ก่อนจะเอ่ยว่า “ถึงอย่างไรข้าก็จากที่นั้นมามากกว่าร้อยปีแล้ว วันนี้มีความเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ ข้าเองก็ไม่อาจรับรู้ หวังว่าจะไม่ชี้แนะพวกเจ้าสองพ่อลูกในทางที่ผิด”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ต่างกล่าวว่า “ท่านเกรงใจไปแล้ว พวกข้าสมควรขอบคุณท่านมากกว่า”
สองพ่อลูกบอกลาผู้อาวุโสม่อ ออกมาจากเกาะภาพวาด ในที่สุดก็กลับมาบนทางที่มุ่งหน้าไปยังเขากว่างเฉิง
ขณะข้ามผ่านปฐพีพิภพ ก็พลันคิดถึงยอดฝีมือเขากว่างเฉิงมากมายที่ได้ตายลงที่นี่ คิดถึงหยวนเจิ้งเฟิงที่ติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของเวลา จิตใจของพวกเขาทั้งสองต่างหนักอึ้ง
เมื่อได้ยินเยี่ยนจ้าวเกออธิบายเรื่องที่เคยเกิดขึ้นอย่างละเอียด ดวงตาของเยี่ยนตี๋เปล่งประกายเย็นเยียบตลอดเวลา
ครั้นนึกได้ว่าเฉินลี่ตายด้วยมือของเยี่ยนจ้าวเกอ ดวงตาของเยี่ยนตี๋ก็ค่อยๆ อ่อนโยนลง มองไปยังบุตรชายด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชมเชย
เนิ่นนานให้หลัง เขาค่อยถอนใจเบาๆ “หวังว่าฟ้าจะช่วยปกป้องท่านอาจารย์”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเงียบงัน เยี่ยนตี๋ถามว่า “มีวิธีตามหาท่านอาจารย์เหมือนที่ตามหาสวีเฟยกับสือจวินหรือไม่?”
“ความหวังน้อยนิดนัก” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างหนักใจชนิดที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก “ไม่มีเบาะแสใดๆ ต้องคลำทางเอาเอง บางทีอาจจะน้อยกว่าความหวังที่อาจารย์ปู่จะหาทางกลับมาเองด้วยซ้ำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี