ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 612

เมื่อถูกหนึ่งเต่าและหนึ่งอสรพิษหนีบไว้ตรงหลาง ในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอก็เกิดความคิดหนึ่งอย่างควบคุมไม่ได้

‘นี่มันเต่าดำ[1]ชัดๆ…’

เจตจำนงหมัดอันยิ่งใหญ่หนึ่งซ้ายหนึ่งขวา หนึ่งดุดันหนึ่งอ่อนโยน หนึ่งเชื่องช้าหนึ่งปราดเปรียว พุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

ชายหนุ่มกลอกตา สองมือไพล่ไว้ด้านหลัง ยืนนิ่งอยู่กลางอากาศ รอบๆ ร่างเกิดกระแสปราณหลายสายทะลักขึ้นมาเหมือนกับเมฆสีเขียวโดยอัตโนมัติ

พลังหมัดที่มาจากทางซ้ายและทางขวากระแทกใส่เมฆสีเขียว ไม่อาจขยับได้ต่อ อีกทั้งยังถูกสะท้อนกลับไป!

เต่ายักษ์ขนาดเท่าเกาะย่อมๆ ที่ลอยอยู่เหนือผิวทะเลทางด้านซ้าย ถูกชนอย่างรุนแรงโดยพลังที่รุนแรงสุดขีด ถึงกับพุ่งลงไปถึงก้นทะเลในทีเดียว

อสรพิษใหญ่โตยาวหลายร้อยหลายพันจั้ง[2] เลื้อยขดอยู่กลางอากาศ ถูกพลังอันอ่อนโยนโจมตีกลับ ควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ ถูกบิดจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นเชือกป่านพันกันมั่วกลุ่มหนึ่ง

รอบๆ เกิดเสียงอุทานด้วยนความตกใจติดต่อกัน เงาแสงงูวิญญาณและเงาแสงเต่าวิญญาณต่างสลายไป เผยให้เห็นเงาร่างของบุรุษวัยกลางคนสองคน

พวกเขามีสีหน้าระมัดระวัง แต่ก็ถูกคนยับยั้งไว้ทันที

ด้านในกลุ่มคนสองกลุ่มที่แบ่งกันอยู่ด้านซ้ายด้านขวา มีผู้นำแหวกกลุ่มคนออกมา เขามองมายังเยี่ยนจ้าวเกอ

ด้านซ้ายเป็นชายชรา ผมสีดอกเลา หลังค่อม แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ทำให้คนเกิดความรู้สึกว่าสูงใหญ่เหลือประมาณ

ด้านขวาเป็นสตรีวัยกลางคน สีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาลุกวาว สาดประกายเย็นชาออกมาสี่ทิศ ปราดเปรียวคล่องแคล่ว

หลักจากพวกเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแล้ว ใบหน้าต่างปรากฏความตื่นตระหนกและความกริ่งเกรง

ชายชราหลังค่อมประสานมือ “ไม่คิดว่าจะเป็นเยี่ยนอวิ๋นจง ข้าหลูเฟิงแห่งสำนักคืนวิญญาณขอคารวะ”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เจ้าสำนักหลู สบายดีหรือ”

ชายชราผู้นี้เป็นเจ้าสำนักคืนวิญญาณ หนึ่งในเจ็ดกลุ่มฝ่ายธรรมะของโลกผืนสมุทร ผู้คนเรียกขานว่าหลูเฟิงผู้ชราอายุยืน ถูกจัดเป็นอันดับหกของจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกแห่งโลกผืนสมุทร

ในอดีตวังผลึกวารี สำนักคืนวิญญาณ และเขาหงส์วิเศษมีความสัมพันธ์ปรองดองกัน ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกออยู่ที่เขาหงส์วิเสษชั่วคราวก็เคยเจอหลูเฟิงมาก่อน

เขาหันไปมองสตรีวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง “ข้าไม่เคยพบท่านผู้นี้มาก่อน แต่น่าจะเป็นผู้ปกครองเกาะกวนแห่งเกาะงูเขียวกระมัง?”

ต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ ประกายเย็นชาดุร้ายในดวงตาของสตรีวัยกลางคนผู้นี้หายไปหลายส่วน หลังจากเงียบงันครู่หนึ่งค่อยพูดขึ้นว่า “ข้ากวนจิ้งเฉียง ดีใจยิ่งที่ได้เจอราชามังกรอวิ๋นจง”

นางเป็นผู้ปกครองเกาะงูเขียว หนึ่งในหกพรรคมาร กวนจิ้งเฉียง ‘ฮูหยินอสรพิษเขียว’ ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ห้าในหมู่จอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกของโลกผืนสมุทร สูงกว่าหลูเฟิง ‘ผู้ชราอายุยืน’

ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของกวนจิ้งเฉียงจะอยู่ในวัยกลางคน แต่ความจริงเป็นเพราะวิชารักษาความเยาว์วัย นางกับหลูเฟิงเป็นคนรุ่นเดียวกัน และเป็นมารเฒ่าที่มีชื่อเสียงในโลกผืนสมุทรมาหลายปีแล้ว

ในโลกผืนสมุทร สำนักคืนวิญญาณกับเกาะงูเขียวเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่โด่งดัง ชนิดมีเจ้าไม่มีข้า

เบื้องลึกของความขัดแย้ง เหนือกว่าบุญคุณความแค้นระหว่างเขาหงส์วิเศษกับสำนักมังกรโลหิต หรือเขาหงส์วิเศษกับสำนักตาข่ายปีศาจเสียอีก

เหมือนสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับเมืองทะเลมรกตที่ไม่ขออยู่ร่วมกันดั่งน้ำกับไฟ อีกทั้งยังเหมือนสำนักแสงสว่างกับสำนักความมืดบนโลกซ้อนโลกที่ไม่ตายไม่ยอมเลิกรา

ในสถานการณ์ที่สภาพแวดล้อมค่อนข้างมั่นคง สำนักที่เกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันมากที่สุดในฝ่ายธรรมะและมารบนโลกผืนสมุทรก็คือสำนักคืนวิญญาณและเกาะงูเขียว

ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าทั้งสองฝ่ายกำลังคุมเชิงกันอยู่

คนทั้งสองที่ประมือกันเมื่อครู่ ถูกญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอดีดสะท้อนกลับไป ยามนี้กลับมายังด้านหน้าผู้มีอำนาจในสำนักของแต่ละคนอีกครั้ง พวกเขาคือบุคคลระดับสุดยอดที่สุดในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณ

เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาย่อมไม่กล้าลงมืออีก ต่างว่าง่ายเหมือนกับนกกระทา

ทว่าเมื่อคนของสำนักคืนวิญญาณเห็นเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว หลังจากความตกใจแรกสุด ต่างก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา ส่วนคนของเกาะงูเขียวกลับหมดอาลัยตายอาก ขวัญกำลังใจตกต่ำ

เยี่ยนจ้าวเกอมองซ้ายมองขวา เหมือนไม่เห็นสีหน้าของทั้งสองฝ่าย ถามเรียบๆ ว่า “รบกวนทุกท่านแล้ว แต่ใครบอกข้าได้บ้างว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของโลกผืนสมุทรเป็นอย่างไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี