“ตอนนี้?” สวีเฟยมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความสับสนเล็กน้อย
จอมยุทธ์ที่มีพลังฝึกปรือไม่เกินระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม หากต้องการไปยังโลกซ้อนโลกย่อมไม่อาจลอยขึ้นไปได้ ได้แต่ข้ามผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอได้อธิบายถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพัดกระดาษ ที่ด้ามของมันเป็นไม้เจี้ยนไปแล้วคร่าวๆ สวีเฟยรู้แล้วว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีของวิเศษคุ้มกันตัวเองจากพลังแห่งเขตแดน
กระนั้นหากต้องการตามหาบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ ต้องไปที่ใดเล่า?
ด้วยความสามารถในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ ยังไม่มากพอจะฉีกกระชากเขตแดนระหว่างโลกซ้อนโลกกับโลกผืนสมุทรได้
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เคยมีบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์โผล่ขึ้นในโลกผืนสมุทรมาก่อน คนของสำนักความมืดผู้นั้นมาจากที่นั่น”
“บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ย่อมไม่คงอยู่ตลอด พลังแห่งเขตแดนทำให้มันสมานตัว ทว่าการเปิดสถานที่ที่เคยถูกฉีกสมควรง่ายกว่า”
“ส่วนสถานที่…” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “ศิษย์พี่สวีท่านน่าจะทายออก”
สวีเฟยได้ยินก็ครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม สายตาฉายแววเข้าใจ “ภูเขาชิงวายุ?”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ถึงแม้จะไม่กล้ายืนยัน แต่ถ้าหากข้าทายไม่ผิด บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์เมื่อครั้งที่เหลียงจื้อเชาจากสำนักความมืดผู้นั้นลงมา สมควรอยู่ที่บริเวณภูเขาชิงวายุ”
ภูเขาชิงวายุเป็นสถานที่ที่อันตรายถึงขีดสุดแห่งหนึ่งในโลกผืนสมุทร นับเป็นแดนต้องห้ามของมนุษย์ที่ตั้งอยู่บนแผ่นดิน
ที่นั่นถูกครอบคลุมอยู่ในพายุอันน่าสะพรึงตลอดปี มิติถึงขั้นบิดเบี้ยว แม้จะเป็นยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่กล้าก้าวเข้าไปง่ายๆ
ชายหนุ่มพูดขึ้นว่า “ถ้าหากสถานการณ์ทางโลกซ้อนโลกมั่นคงแล้ว ข้าจะหาวิธีลงมาอีก รับพี่สะใภ้อวี่เจินขึ้นไป บางทีที่นั่นอาจจะมีวิธีที่ทำให้นางฟื้นขึ้นมามากกว่าเดิมก็ได้ โชคดีที่ตอนนี้มีไผ่ม่วงเกสรเซียนยืดอายุขัย เวลาจึงมีมากพอ”
สวีเฟยกล่าว “การเดินทางครั้งนี้ของพวกเจ้า ต้องระวังให้มากไว้”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบด้วยรอยยิ้ม “นี่ย่อมแน่นอน”
หลังจากบอกลาพวกสวีเฟยและฟู่เอินซูเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็ออกเดินทางไปยังบริเวณเขาชิงวายุ
เมื่อเข้าใกล้เขาชิงวายุ ชายหนุ่มพบว่าที่นี่สมคำร่ำลือ เขาทอดสายตามองไปไกล เห็นมีพายุกระจายเต็มท้องฟ้า เป็นสีดำไปทั้งแถบ มองไม่เหตุทัศนียภาพรอบๆ โดยสิ้นเชิง
เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ยืนอยู่ด้านข้างเขา มือป้องตามองภาพอันหฤโหดนั้น ต่างสูดหายใจเย็นเยียบ
“คุณชาย ท่านแน่ใจหรือว่าเป็นที่นี่?” อาหู่แยกเขี้ยวยิงฟัน
พ่านพ่านที่นั่งอยู่ด้านล่างพวกเขาคลานอยู่บนพื้น อุ้งเท้าทั้งสองปิดตาของตัวเอง ส่งเสียงร้องอ่อนแรง เหมือนเห็นด้วยกับคำพูดของอาหู่
เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “หลังจากสังเกตแล้ว ข้ายิ่งแน่ใจว่าเป็นที่นี่”
เฟิงอวิ๋นเซิงเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้า “ถ้าหากเป็นที่นี่จริงๆ พวกเราจะทำอย่างไรดี?”
“ในตอนที่ยังอยู่แปดพิภพ ข้าคิดไว้แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้ม
เขาพูดกับอาหู่ว่า “ของที่ให้เจ้าเตรียมก่อนหน้านี้ เอาออกมาให้หมด”
อาหู่ได้สติ รีบร้อนพลิกถุงย่อส่วนของตัวเอง หยิบของออกมากองใหญ่
ผลึกหิน กระดาษยันต์ หยกมรกต เพชร ของหลากหลายชนิด ขนาดของแต่ละชิ้นใหญ่มหึมา มีน้ำหนักราวหนึ่งร้อยชั่ง[1]
ในจำนวนนี้ยังมีต้นอ่อนประหลาดต้นหนึ่งที่เปล่งแสงสีมรกตจางๆ ด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอสั่ง “พวกเราถอยหลัง”
พูดจบก็พาเฟิงอวิ๋นเซิง อาหู่ และพ่านพ่านถอยหลัง ส่วนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกลงมือหยิบของวิเศษเหล่านั้น ก่อนจะลอยตัวขึ้น แล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเขาชิงวายุ
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีพลังน่าทึ่ง ทะลวงพายุคลั่งด้านนอก เข้าใกล้เขาชิงวายุ
แต่ว่าเมื่อข้ามไปด้านใน พายุรอบเขาชิงวายุกลับรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ถึงตอนสุดท้าย แม้แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ยังมีความรู้สึกยากจะข้ามผ่าน
เกราะเหมันต์ทระนงปรากฏขึ้นบนร่างของมัน หอกมังกรมัจฉาโผล่มาในมือ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกระบำทวน พลังอันยิ่งใหญ่แหวกลมออกเป็นทางชั่วคราว
ภายใต้การสนับสนุนของสองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกฝืนเปิดทางขึ้นมาได้ สุดท้ายก็มาถึงยอดเขาชิงวายุ
ณ ที่นี่ พายุรุนแรงถึงขีดสุด ถึงขั้นที่ฉีกกระชากมิติ แม้จะเป็นร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ไม่อาจอยู่นิ่งได้นาน
มันแข่งกับเวลา กดดันพายุถอยหลัง แล้วค่อยพุ่งลงบนยอดเขา สุดท้ายมันโบกฝ่ามือครั้งหนึ่ง ของวิเศษหลากหลายชนิดหล่นลงบนยอดเขา กลายเป็นกระบวนทัพอันยิ่งใหญ่
ภายใต้การรบกวนจากพายุ ของวิเศษเหล่านี้แทบจะถูกบดขยี้ในชั่วพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี