ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 618

‘เป็นไปไม่ได้ มาอีกแล้วหรือ?’

เยี่ยนจ้าวเกอกลอกตาขาว สถานการณ์ตรงหน้าคล้ายคลึงกับตอนไปถึงโลกผืนสมุทรเป็นครั้งที่สอง

อาหู่กับเฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้างอดปรายตามองเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้

“คุณชาย เหตุใดพวกเราไปที่ไหน ที่นั่นก็เปิดสงครามตลอดเลยเล่า?” อาหู่อ้าปากถาม

ชายหนุ่มตอบอย่างไม่พอใจ “จะไปรู้หรือ?”

สิ่งที่ดีกว่าครั้งที่แล้วเล็กน้อยก็คือ ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตกอยู่กลางสนามรบ เผชิญการโจมตีของสองฝ่ายที่สู้กันอยู่

แต่ว่าสงครามตรงหน้านี้รุนแรงกว่าความขัดแย้งของสำนักคืนวิญญาณกับเกาะงูเขียวก่อนหน้านี้เสียอีก

ทั้งสองฝ่ายที่รบอยู่สู้กันอย่างดุเดือด เข่นฆ่าจนธารเลือดกลายเป็นแม่น้ำ พวกเยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นซากศพกองไปทั่วทุกที่

เลือดรวมตัวกันบนพื้น เกือบจะแห้งสนิท เหมือนกับโคลนสีดำ

กลางท้องฟ้า จอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์คนนั้นกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด สู้กันจนเกิดพายุพัดเมฆพรั่งพรู ฟ้าทลายดินถล่ม

บนพื้นดินมีจอมยุทธ์ที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำฆ่าฟันอย่างดุดัน สภาพการณ์รุนแรงยิ่งกว่า

บนเส้นขอบฟ้าไกลออกไปมีแสงส่องสว่าง พลังอันมหาศาลสั่นสะเทือนจิตใจกระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าที่นั่นมียอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์กำลังสู้กัน

ถึงแม้จะอยู่ห่างไปหมื่นลี้ พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ว่าพื้นดินใต้เท้าสั่นไหวไม่หยุด

พวกเขากับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกต่างเงียบเสียง เยี่ยนจ้าวเกอพิจารณาทั้งสอฝ่ายที่กำลังสู้กันอย่างละเอียด

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว พลังฝึกปรือของคนที่อยู่เบื้องหน้า ไม่อาจพูดได้ว่าสูงส่งมาก แต่กลับมองอะไรออกอยู่ไม่น้อย

เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่มองพักหนึ่ง สีหน้าจริงจังขึ้นมาก

“โลกซ้อนโลกไม่ธรรมดาจริงๆ เสียด้วย นอกจากมีปราณวิญญาณเต็มเปี่ยมมากกว่า วรยุทธ์ที่จอมยุทธ์ของที่นี่ฝึกฝนยังมีมากมายสารพัด” อาหู่พึมพำ “ไม่รู้ว่าพวกคนที่อยู่ด้านหน้ามีเบื้องหลังเป็นอย่างไร แต่ว่าวรยุทธ์ที่พวกเขาใช้ แม้จะสู้เคล็ดวิชาแดนศักดิ์สิทธิ์ของแปดพิภพไม่ได้ แต่ก็เทียบได้กับวรยุทธ์ที่ขุมกำลังระดับหนึ่งระดับสองเหล่านั้นถ่ายทอด”

เฟิงอวิ๋นเซิงใคร่ครวญเล็กน้อย “ตามคำบอกเล่าของผู้อาวุโสม่อที่ท่านเล่าให้ฟัง แก่นของวิชาก่อนมหาภัยพิบัติในโลกซ้อนโลก แม้จะสาปสูญไปเป็นจำนวนมาก แต่การเก็บรักษาสมบูรณ์ยิ่งกว่าแปดพิภพ”

“ถึงกับมีวิชาระบบเต๋าที่ยังไม่ถูกตัดขาดเหมือนสำนักประกายกาฬอยู่ด้วย ระดับวรยุทธ์ของที่นี่สูงส่งกว่าแปดพิภพ”

นางหันมองรอบๆ “ปราณวิญญาณของที่นี่เต็มเปี่ยมขนาดนี้ ของวิเศษและทรัพยากรมากายก็อุดมสมบูรณ์กว่าแปดพิภพเช่นกัน”

อาหู่ชมดูทั้งสองฝ่ายที่ต่อสู้กัน “ฝ่ายหนึ่งบุกถอยอย่างมีลำดับขั้นตอน ให้ความรู้สึกคล้ายกองทหาร…”

เยี่ยนจ้าวเกอไม่พูดอะไร เขาก็มีความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน

เห็นจอมยุทธ์สวมเกราะกลุ่มหนึ่งรวมตัวกัน ถึงแม้ว่าพลังฝึกปรือจะไม่โดดเด่นนัก แต่เมื่อรวมกันกลายเป็นกระบวนทัพ เลือดลมต่างระอุ โจมตีใส่ศัตรูเหมือนภูเขากดทับศีรษะ

พลังของทุกคนรวมกันเป็นจุดเดียว การเปลี่ยนแปลงด้านจำนวนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านคุณสมบัติ แสดงให้เห็นว่ากำลังร่วมมือกันใช้กระบวนทัพที่แข็งแกร่งบางอย่าง

จอมยุทธ์หลอมกายมากกว่าหนึ่งพันคนตั้งทัพต่อสู้ รวมพลกันบริเวณหนึ่ง เล่นงานศัตรูระดับปรมาจารย์กลุ่มหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามแตกอย่างไม่เป็นขบวน!

อีกด้านหนึ่งมีระดับมหาปรมาจารย์อยู่ด้วย พลังทำลายล้าง แม้แต่กองทัพพันคนยังไม่อาจต้านทาน

แต่ในกองทัพนี้ไม่เพียงแต่มีจอมยุทธ์หลอมกายเท่านั้น ยังมีปรมาจารย์วรยุทธ์จำนวนไม่น้อยด้วย

ภายใต้การนำของเขา กระบวนทัพแสดงพลังที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันยังตอบโต้จอมยุทธ์ปรมาจารย์เหล่านี้ ทั้งสองฝ่ายรวมพลังกันปะทะคู่ต่อสู้ระดับมหาปรมาจารย์ตรงหน้า

กระบวนทัพเช่นนี้ไม่ได้มีเพียงหนึ่ง ภายใต้การบัญชาการณ์ของผู้บัญชาการ กระบวนทัพมากมายรวมตัวกัน พลังซับซ้อนเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้ง

เป็นไปได้ว่านี่จะเป็นจอมยุทธ์สำนักความมืดคนหนึ่ง

เผชิญหน้ากับกองทัพของศัตรูบนสนามรบ ฝั่งที่จอมยุทธ์สำนักความมืดผู้นี้อยู่เริ่มแตกพ่าย หนีกันหัวซุกหัวซุน

บุรุษวัยกลางคนอาภรณ์สีดำโดนแทงหอกใส่ พลิกคว่ำลงบนพื้น คนหนุ่มชุดแพรด้านข้างเขาเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบร้อนเข้าไปแบกเขาขึ้น ก่อนจะหมุนกายหนีไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเห็นอีกฝ่ายเริ่มแตกกระเจิง กองทัพสวมเกราะก็แตกทัพ เริ่มไล่สังหารศัตรูที่หลบหนี สำหรับพวกเขาแล้ว ศีรษะของอีกฝ่ายคือรางวัล

คนหนุ่มเสื้อแพรแบกบุรุษวัยกลางคนอาภรณ์ดำหนีข้ามเขาข้ามตลิ่ง

ไม่ทราบว่าหนีไปนานขนาดไหน เบื้องหน้ารกร้างไร้ผู้คน เขาเพิ่งคิดจะหยุดพักระบายลมหายใจ ด้านหลังพลันมีเสียงเหมือนฟ้าร้องดังขึ้น

คนหนุ่มเสื้อแพรหันไปมองในทันใด เห็นมหาปรมาจารย์กลุ่มหนึ่งและจอมยุทธ์สวมเกราะกลุ่มหนึ่งไล่ตามมา

อีกฝ่ายเห็นบุรุษวัยกลางคนอาภรณ์ดำด้านหลังเขา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “โจรทรยศสำนักความมืดมีค่ายิ่งกว่ากบฏตัวอื่น”

กีบม้าเหล็กของศัตรูมาถึงเบื้องหน้า คนหนุ่มชุดแพรหน้าซีดขาว สายตาสิ้นหวัง ‘หรือวันนี้เราจะต้องตายที่นี่?’

ขณะที่คิด ด้านหน้าเขาพลันพร่าเลือน

ที่เบื้องหน้าของจอมยุทธ์สวมเกราะผู้นั้นก็พร่าเลือนเช่นกัน จู่ๆ ก็พบว่าในป่าปรากฏคนหนุ่มผู้องอาจในอาภรณ์ขาว ด้านนอกคลุมเสื้อคลุมสีน้ำเงินขลิบดำผู้หนี่ง ขวางอยู่เบื้องหน้าเขา

อาวุธในมือพวกเขาหล่นลง อีกฝ่ายไม่ได้เคลื่อนไหวใด เพียงยืนเอามือไพล่หลังอย่างสงบ

วินาทีถัดมา จอมยุทธ์สวมเกราะทั้งหมดก็กระเด็นออกไป ปากกระอักเลือด ชีวิตดับสิ้น

เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าราบเรียบ เขาหันไปมองบุรุษวัยกลางคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักจนสลบไป จากนั้นสายตาก็อยู่บนร่างคนหนุ่มเสื้อแพรที่ยังสับสน “ท่านคือผู้สืบทอดสำนักความมืดหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี