ตอนที่สำนักความมืดได้รับตำรับโอสถทัศน์จิต มันเป็นฉบับชำรุดจริงๆ
แต่ในเมื่อมีความตั้งใจแล้ว อู๋จื่อซิวย่อมเตรียมอนุมานและฟื้นฟูตำรับโอสถ
สำหรับลูกศิษย์หลานศิษย์ มันเป็นตำรับโอสถที่ต้องใช้คำวามพยายาม แต่สำหรับยอดฝีมือด้านวิชาแห่งโอสถระดับอู๋จื่อซิว ไม่ได้ลำบากถึงเพียงนั้น
เพียงแต่ตำรับโอสถเช่นโอสถทัศน์จิต ปกติไม่ต้องรบกวนอู๋จื่อซิว เพราะตัวเขามีสิ่งสำคัญกว่าต้องทำ
ครั้งนี้วางแผนลองหยั่งเชิงเยี่ยนจ้าวเกอ ดังนั้นอู๋จื่อซิวจึงนำตำรับโอสถออกมา
เฉินเค่อนึกถึงคำสั่งของอู๋จื่อซิวขณะวิจารณ์ทั้งสองฝ่ายที่แข่งขันกันโดยไม่แสดงสีหน้า
เป็นไปตามที่เยี่ยนจ้าวเกอคิดไว้ เกิดช่องโหว่ขึ้นในกระบวนการอนุมานของมหาปรมาจารย์รูปญาณจากตำหนักความมืดแรกเริ่ม
ข้อผิดพลาดจุดหนึ่ง ก่อให้เกิดข้อผิดพลาดจุดที่สอง และจุดที่สามตามมา
ส่วนมหาปรมจารย์ขั้นกำเนิดญาณผู้นั้นของตำหนักไร้แสง ถึงจะมีพลังฝึกปรือจะค่อนข้างต่ำ แต่ระดับวิชาหลอมโอสถกลับสูงกว่า ในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจและทำอย่างเป็นลำดับขั้นตอน
ชนะแพ้แยกแยะออกอย่างชัดเจน เฉินเค่อไม่เพียงแต่ตัดสินเท่านั้น ยังอนุมานตำรับโอสถทัศน์จิตดั้งเดิม ต่อจากพื้นฐานที่เป็นผลลัพธ์การแข่งขันของทั้งสองฝ่ายด้วย
เขาอนุมานไปพลาง อธิบายให้ลูกศิษย์สำนักความมืดที่อยู่รอบๆ ฟังไปพลาง
จอมยุทธ์สำนักความมืดที่รวมตัวอยู่ที่ในโถงโอสถ นอกจากมาดูเรื่องสนุกแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนสนใจในการหลอมโอสถ เฉินเค่อจึงฉวยโอกาสนี้ชี้แนะพวกเขา
จอมยุทธ์สำนักความมืดย่อมทะนุถนอมโอกาสที่หาได้ยาก พากันตั้งใจฟัง
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มฟังอยู่ด้านข้าง
หากไม่ถืออคติ เขารู้สึกว่าระดับของเฉินเค่อไม่เลว อนุมานขั้นตอนของตำรับโอสถดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน วิธีการถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะยุ่งเหยิงไปบ้าง แต่ก็ทำให้เห็นถึงความสามารถอันลึกล้ำของเขา
ทว่าฟังไปฟังมา เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
เฉินเค่อที่กำลังสอนลูกศิษย์สำนักความมืด ความจริงกำลังสังเกตการเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ
เมื่อเห็นสายตาที่ค่อยๆ เกิดความเปลี่ยนแปลงของเยี่ยนจ้าวเกอ จิตใจของเฉินเค่อก็สั่นไหวเล็กน้อย ในห้วงสมองปรากฏวาจาที่อู๋จื่อซิวผู้เป็นอาจารย์กำชับก่อนหน้านี้
‘ในตำรับโอสถของข้า ถึงตอนสุดท้ายให้เหลือจุดผิดพลาดไว้หนึ่งจุด ลองดูว่าเยี่ยนจ้าวเกอนั่นจะพบหรือไม่’
‘ถ้าหากเขาชี้บอก ให้เจ้าฉวยโอกาสสนทนากับเขา ฟังวิธีอันสมบูรณ์ในการอนุมานตำรับโอสถทัศน์จิตของเขา’
เฉินเค่อคิดในใจ สีหน้ายังคงเหมือนไร้เรื่องราว สอนศิษย์ร่วมสำนักของตัวเองไปต่อ
เยี่ยนจ้าวเกออดทนฟังเเฉินเค่อสอนจบ คิดเล็กน้อย เลือกวิธีส่งกระแสเสียงพูดกับเฉินเค่อว่า ‘ผู้อาวุโสเฉิน อภัยที่ข้าแทรกกะทันหัน ตำรับโอสถของโอสถทัศน์จิตยังมีบางอย่างต้องพิจารณาดู’
ถึงจะชอบทำตัวได้ใจ ชอบวางท่า ชอบแสดงความสามารถ แต่ว่าสำนักความมืดในตอนนี้ก็ปฏิบัติกับตนเป็นอย่างดี เยี่ยนจ้าวเกอไม่เอ่ยปากแสดงความสงสัยตำรับโอสถของเฉินเค่อต่อหน้าทุกคน แต่เลือกใช้การส่งกระแสเสียง เพียงสนทนากับเฉินเค่อสองคน
เฉินเค่อสายตาเคร่งขรึม ‘เขาพบจุดผิดพลาดจริงๆ ด้วย!’
ตำรับโอสถนี้ เฉินเค่อลองทำความเข้าใจดูแล้ว พบว่าการอนุมานของอู๋จื่อซิวผู้เป็นอาจารย์สมบูรณ์แบบโดยแท้
อู๋จื่อซิวแม้จะจงใจทิ้งช่องโหว่เอาไว้ แต่ความจริงซ่อนไว้ลึกยิ่ง หากเขาไม่อธิบายให้ตัวเฉินเค่อดูเอง เขาดูเองสองสามรอบก็ไม่มีทางหาเจอ จำเป็นต้องดูหลายรอบมากๆ ถึงจะสังเกตปัญหาด้านใน
ตามการวิเคราะห์ของเฉินเค่อ จะเรียกว่าช่องโหว่ยังไม่ถูก พูดว่าเป็นเป็นส่วนที่ขาดจะเหมาะสมกว่า
ถ้าหากเปิดเตาหลอมโอสถตามตำรับโอสถตอนนี้ ใช่ว่าจะหลอมไม่สำเร็จ เพียงแต่คุณสมบัติของโอสถจะด้อยลงไปบ้างเท่านั้นเอง
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับพบจุดบกพร่องในทันทีหรือ?
‘คนผู้นี้คงไม่ใช่มีตำรับโอสถทัศน์จิตที่แพร่หลายก่อนวิกฤตการณ์อยู่ในมือกระมัง?’ เฉินเค่ออดคิดในใจไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี