กลุ่มปราณโกลาหลในร่างของเยี่ยนจ้าวเกอแยกจากหนึ่งเป็นสอง
ทางหนึ่งกลายเป็นดวงอาทิตย์เจิดจ้า ทางหนึ่งกลายเป็นแสงจันทร์เย็นเยียบ
เยี่ยนจ้าวเกอกระตุ้นรากฐานคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตของตัวเอง จิตใจแบ่งเป็นสองทาง ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความอัศจรรย์ของกระบวนท่าวรยุทธ์สองสำนัก
หนึ่งในนี้ก็คือ จิตหมัดที่เจ้าของตราประทับตะวัน ซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง เหลือไว้ที่เขาได้ทำความเข้าใจ กระบวนท่าวรยุทธ์ที่ศึกษาออกมาได้ แข็งกร้าวรุนแรง ยืนยันได้ถึงจิตของพลังแห่งดวงอาทิตย์ในคัมภีร์เทพพระอาทิตย์
สอง กลับเป็นกระบวนท่าวรยุทธ์ของโอวเตี่ยนฉางในชั้นหนังสือวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ มีชื่อว่าคัมภีร์จันทร์นิล อ่อนโยนละเมียดละไม มาจากพลังแห่งดวงจันทร์
แตกต่างกับคัมภีร์จันทราที่เป็นคัมภีร์วรยุทธ์ซึ่งเหมาะให้สตรีแห่งจันทราฝึกปรือโดยเฉพาะ คัมภีร์จันทร์นิลนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นคัมภีร์ล้ำค่า แต่ว่าไม่ได้ส่งผลต่อสภาพร่างกายของผู้ฝึกฝน
เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์จันทร์นิล แต่ก็รู้ถึงความมหัศจรรย์ของมันดี
ในยามนี้เมื่อใช้การเลียนแบบชั่วคราวของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ก็ได้แก่นแท้ของคัมภีร์จันทร์นิลซึ่งดูเหมือนของจริงมาด้วย!
ม่านตาของเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนสี ดวงตาข้างซ้ายเหมือนกับดวงอาทิตย์งดงามกลางฟ้า ดวงตาข้างขวาราวกับจันทร์กระจ่างลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
เขาผลักสองมืออกมาพร้อมกัน ใจกลางฝ่ามมือข้างซ้ายคือดวงอาทิตย์ที่มีสีทองอร่าม ใจกลางฝ่ามือข้างขวาคือจันทร์เต็มดวงที่สุกสกาว
เหนือศีรษะปรากฏรูปญาณวรยุทธ์สูงร้อยจั้ง ผิวหนังถึงกับปล่อยแสงครึ่งทองครึ่งเงิน เหมือนกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ประกอบกัน
พลังสองชนิดของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์รวมเป็นหนึ่ง กระตุ้นอาทิตย์มืดสีดำสนิทและจันทร์ยะเยือกสีฟ้าอ่อนจากด้านใน ทั้งสองฝ่ายก่อให้เกิดการประสานเสียงที่สอดรับกัน
การเชื่อมต่อระหว่างหนงอวี่ซวนกับอาทิตย์มืดจันทร์กระจ่างที่อยู่ด้านนอก พลันเริ่มอ่อนแอลง
แต่สิ่งที่ทำให้หนงอวี่ซวนตกใจก็คือ เขาจำเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอได้ “เป็นเจ้า?!”
เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แล้วท่านคิดว่าเป็นใครเล่า?”
หนงอวี่ซวนที่มีสีหน้าเรียบเฉยขณะถูกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สองคนรุมก่อนหน้านี้ ในยามนี้ใบหน้ากลายเป็นถมึงทึง “รนหาที่ตาย!”
ถึงแม้จะแบ่งสมาธิไว้รับมือศัตรูที่โลกด้านนอก แต่หนงอวี่ซวนไม่ได้มองข้ามที่ภายใต้การครอบคลุมของจันทร์มืดจันทร์ยะเยือก ที่มีคนซ่อนตัวอยู่ตั้งแต่ต้น
หนงอวี่ซวนที่เตรียมจะรับมือศัตรูในตอนแรก หลังจากพบว่าอีกฝ่ายเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ต้องใช้สมาธิมากขึ้นกว่าเดิมอย่างอดไม่ได้
เขาที่โบกฝ่ามือโจมตีศัตรูโลกภายนอกจนล่าถอย ก่อนจะใช้มือขวาฟาดใส่อาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือกอีกครั้ง
ภายใต้การซัดสาดจากพลังอันน่ากลัวของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์พลันหมายจะหมุนกลับด้าน
เยี่ยนจ้าวเกอสวมเกราะเหมันต์ทระนง เรียกวังฝูงมังกรออกมา พลังอันแข็งแกร่งเสริมอยู่บนร่างของตน
ดวงอาทิตย์สีดำกับดวงจันทร์สีฟ้าอ่อน เนื่องจากพลังของทั้งสองที่บิดเบี้ยวยื้อยันเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จึงปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิม
คังจิ่นหยวนกระชับกระบี่ยาวในมือแน่น ประกายกระบี่ที่เหมือนกระแสน้ำส่งเสียงขลึกขลัก สายตาจับจ้องหนงอวี่ซวนกับอาทิตย์มืดจันทร์ยะเยือกที่ลอยจมอย่างต่อเนื่องเขม็ง
ตั้งแต่ฝึกฝนสำเร็จ เขาไม่เคยเสียท่าเช่นนี้มาก่อน ภายใต้ความดาลเดือด กระบี่กาลเคลื่อนคล้อยถูกใช้อีกครั้ง
ประกายกระบี่ไกลโพ้นกระจายไปทุกที่ การไหลของเวลาคล้ายกับเปลี่ยนเป็นช้าลงในทันใด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ เหมือนกับติดอยู่ในการเคลื่อนไหวที่เชื้องช้า มีเพียงเสียงของคังจิ่นหยวนเท่านั้นที่เร็วเท่าเดิม “พวกเจ้าคิดว่าตัวเองสุดยอดแล้วหรือ?”
“ข้าบอกแล้วว่าของเป็นของข้า!”
ท่ามกลางเสียงตวาด ประกายกระบี่ของคังจิ่นยวนม้วนพัดใต้หล้า พุ่งไปถึงลำคอของหนงอวี่ซวนในทันที
“อย่ามาขวาง!” หนงอวี่ซวนแค่นเสียง บนตัวมีแสงดวงดาวหนาหนักสว่างขึ้น ห่อคลุมทั่วทั้งร่างของเขา กลายเป็นเกราะอ่อน
พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง หมวกเกราะดาราเรืองรองประสานพลังกับกระบวนท่าตะวันจันทราผสมผสานของหนงอวี่ซวน แสงสว่างหลั่งไหล ปัดประกายกระบี่ของคังจิ่นหยวนไปด้านข้าง เบี่ยงเบนการเคลื่อนที่ก่อนหน้า
ยามนี้ผู้อาวุโสสำนักความมืดคนนั้นจู่โจมมาอีก
คังจิ่นหยวนหัวเราะเย็นชา “เจ้ามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์คนเดียวหรืออย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี