เยี่ยนจ้าวเกอมือถือกระบี่รุ้งพร่างพราว ทิศทางที่คมกระบี่มุ่งไป ทุกอย่างล้วนมลายสิ้น
คนที่ประเผชิญหน้ากับคมกระบี่ของเขา ตรงหน้าคล้ายกับเกิดภาพมากมายนับไม่ถ้วน
ภูเขาลำธารม้วนพลิก ฟ้าดินแตกสลาย สรรพสัตว์โรยรา สรรพสิ่งสูญสิ้น
โลกเหมือนกับมุ่งไปสู่จุดสิ้นสุด ทุกสิ่งมาถึงปลายทาง เหลือเพียงความตายและความสูญสิ้น
ชายหนุ่มยกกระบี่ในมือขึ้น กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าฝึกวิชากระบี่วิชาหนึ่ง ปกติฝึกอย่างตั้งใจ แต่ได้แค่วางรากฐานไว้ ต้องฆ่าคนเห็นเลือด ถึงจะฝึกสำเร็จ เหมือนกับเปิดคมสุดท้ายของกระบี่อย่างสมบูรณ์”
“นอกจากนี้ จำเป็นต้องใช้หินลับกระบี่ที่มีระดับมากพอด้วย”
ขณะพูด เขาก็แทงกระบี่ออก
แสงสว่างสีขาวจุดหนึ่งไหลเวียนที่ปลายกระบี่ น่ากลัวและชั่วร้ายถึงขีดสุด
แม้แต่กระบี่รุ้งพร่างพราวอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำที่กระตุ้นวิชากระบี่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ ยังส่งเสียงร้องกึกก้อง เหมือนกับไม่อาจแบกรับวิชากระบี่ของผู้เป็นนาย
จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างทั้งหมดสีหน้าเปลี่ยนแปลง
เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับต้องการฆ่าพวกเขา เพื่อฝึกกระบี่สิ้นสูญของตัวเองให้สมบูรณ์
ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามนอกจากหนงอวี่ซวนเดือดดาล พุ่งเข้ามาใส่ก่อน
พลังงานอันยิ่งใหญ่แข็งกร้าวฟาดใส่ศีรษะเยี่ยนจ้าวเกอ
ชายหนุ่มเอียงคมกระบี่ ท่ามกลางแสงสว่างไร้สิ้นสุดพลันปรากฏจุดดำจุดหนึ่ง จุดดำนี้กำลังขยายใหญ่ขึ้น
อีกฝ่ายเห็นดังนั้น จิตใจก็สั่นสะท้าน รู้ศึกษว่าแสงสว่างไร้สิ้นสุดที่เกิดจากญาณจริงแท้ของตัวเองกำลังดับลงอย่างต่อเนื่อง
เขารีบเพิ่มพลังของตัวเอง มิคาดเยี่ยนจ้าวเกอกลับใช้ท่าลวง
หลังจากผ่านไปหนึ่งกระบี่ ร่างกายพลันหมุน ไม่รอให้จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เหลือล้อมเข้ามา ก็เปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอโผล่ขึ้นที่ด้านหลังจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามคนนั้น จากนั้นก็ใช้ท่ารอยตราพลิกนภาที่แข็งกร้าว
อีกฝ่ายหมุนตัวมาผลักฝ่ามือใส่เยี่ยนจ้าวเกอ แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ฝีเท้าไม่มั่นคง ร่างเซไปด้านหลัง
ที่ด้านหลังของเขาพลันมีแรงดึงดูดมหาศาลส่งมา กลับเป็นประตูของวังฝูงมังกรอ้าออก เหมือนกับสัตว์ประหลาดที่อ้าปากขนาดมหึมา
อีกฝ่ายผลักฝ่ามือหมายกระแทกวังฝูงมังกรให้ถอยไป แต่เยี่ยนจ้าวเกอแทงมาอีกหนึ่งกระบี่ ทำให้เขาได้แต่ป้องกันการโจมตีของชายหนุ่ม
ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอกลับนำเตากลืนดินออกมา ขวางการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
อีกฝ่ามือหนึ่งตามมาติดๆ กระแทกอีกฝ่ายให้ถอยหลัง สุดท้ายก็พุ่งเข้าไปในวังฝูงมังกร!
วังฝูงมังกรไม่อาจสะกดยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ได้แต่ฝืนขังเอาไว้แค่ไม่กี่ลมหายใจ
แต่สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ เช่นนี้ถือว่าเพียงพอแล้ว เขาเข่นฆ่าเข้าไปในกองทัพจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เหลือ เหมือนพยัคฆ์กระโจนเข้าไปกลางฝูงแกะ
หกลมหายใจผ่านไป หนงอวี่ซวนส่งเสียงคำรามต่ำ
ตราประทับตะวันที่โจมตีได้เพียงครั้งเดียว เมื่อสภาวะโจมตีค่อยๆ หมดไป ก็ลอยกลับไปอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ
ปราณดาบแสงทิมฬอันน่ากลัวพลันถูกแก้ไข หนงอวี่ซวนนำกลับเข้ามาในร่างตัวเองทันที!
ในม่านตาที่มีลักษณะเหมือนอาทิตย์ยะเยือกของเฟิงอวิ๋นเซิง นาทีที่ลมหายใจที่เจ็ดมาถึง ในที่สุดก็เกิดการสั่นไหวหลายส่วน ลุกไหม้อย่างไม่เคยมีมาก่อน!
นางชักคมดาบ ทำร้ายตัวเอง เหลือรอยดาบรอยหนึ่งไว้บนแขน
เลือดไหลผ่านคมดาบของดาบเทพอาทิตย์ยะเยือก ปราณสีดำหลายสายซึมออกมาจากด้านใน เกี่ยวกระหวัดกับแสงสว่างสีฟ้า
เฟิงอวิ๋นเซิงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้านบน ถึงกับเข้าไปในกลิ่นอายมารเพลิงสีดำซัดสาดนั้น!
อาทิตย์สีฟ้าตอนนี้เหมือนกับดับแสงลง แต่ว่าเพลิงมารแสงทมิฬอันยิ่งใหญ่เริ่มสั่นไหวไม่หยุด
หนงอวี่ซวนสีหน้าเปลี่ยนเปลง สัมผัสได้ว่าเฟิงอวิ๋นเซิงถึงกับชิงปราณดาบแสงทมิฬของเขาไป
ความเป็นไปได้นี้เขาเคยคิดถึงมาก่อน แต่ตอนแรกเขาไม่ได้เอามาใส่ใจ ทว่าตอนนี้กลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ปราณดาบแสงทมิฬของตนถึงกลับสั่นสะเทือนรอบหนึ่ง
ไม่เพียงแต่ปราณดาบแสงทมิฬที่กักเก็บไว้ด้านใน ยังหลอมเปลี่ยนไม่หมดเหล่านั้นเท่านั้นที่เกิดการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ
แม้แต่พลังของพระราหูที่ถูกเขาหลอมเปลี่ยนก็เกิดอากรกระสับกระส่ายเช่นกัน เหมือนกับพร้อมจะทรยศตลอดเวลา
‘ไม่เพียงแต่ดาบเล่มนั้นเท่านั้น ตัวนางก็มีปัญหาเช่นกัน!’ หนงอวี่ซวนเข้าใจในชั่วพริบตา
หลังจากสะดุดก้อนหินก้อนเดิมสองรอบ หนงอวี่ซวนกลับต้องละทิ้งความคับข้องไปก่อน ใช้พลังทั้งหมดทำให้ปราณดาบแสงทมิฬของตัวเองเสถียร
เฟิงอวิ๋นเซิงตรงหน้านี้ใช้เคล็ดวิชาบางอย่างเพื่อรับพลังที่แข็งแกร่งชั่วคราวอย่างเห็นได้ชัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี