ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 673

ท่ามกลางเสียงกู่ร้องของเยี่ยนจ้าวเกอ กระบี่รุ้งพร่าวพราวในมือพลันหายไป

แต่ว่าเจตจำนงอันน่ากลัวที่ทำลายทุกสรรพสิ่งยังคงคงอยู่ กระเพื่อมไปทั่วสี่ทิศ

ที่ที่เจตจำนงไปถึง ทุกสิ่งที่อยู่ในฟ้าดินรอบๆ เหมือนกับแห้งเหี่ยวโรยรา เดินสู่วันสิ้นโลกอีกก้าว

ในนาทีนี้ วิชากระบี่ที่เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝน ในที่สุดก็มีส่วนสำเร็จเล็กๆ แล้ว

เจตจำนงที่น่าสะพรึงกลัวนั้น ทำให้คนรู้สึกหวาดผวา

ภาพระหว่างฟ้าดินเปลี่ยนแปลง ถูกเจตจำนงรุกล้ำ ถึงขั้นที่เบื้องหน้าทุกคนเหมือนปรากฏนิมิตมากมาย

เวลาในตอนนี้เหมือนกับไหลทวน ทุกคนกลับสู่ยุคสมัยแรกเริ่มที่ฟ้าดินยังไม่แยกออกจากจากกัน ความขมุกขมัวยังไม่ทันหยุดนิ่ง

ทั้งๆ ที่เป็นตอนแรกเริ่มของตอนแรกเริ่มแท้ๆ ทุกสรรพสิ่งกลับเหมือนถูกย้อมด้วยสีเหลืองเข้มชั้นหนึ่ง

มุ่งไปสู่ความถดถอยและความเสื่อมสลายด้วยกัน ต้อนรับจุดจบสุดท้ายของการทำลายด้วยกัน

ตอนแรกและตอนสุดท้ายในตอนนี้เหมือนกับเป็นหนึ่งเดียว ทุกสิ่งในโลกเดินไปสู่จุดจบ สูญสิ้นมลายหาย กลับคืนสู่อนัตตาพร้อมกัน

เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองรูปญาณวรยุทธ์ที่เหมือนหายไปบนศีรษะของตัวเอง มุมปากฉาบด้วยรอยยิ้ม

‘คัมภีร์กระบี่สังหารเซียน ในที่สุดก็เข้าใจความหมายที่แท้จริงได้หลายส่วนแล้ว’

เจตจำนงที่เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนและเคี่ยวกรำคือ คัมภีร์กระบี่สังหารเซียน วิชาสายเหนือพิสุทธิ์ ซึ่งมีผลสำเร็จในวิถีกระบี่สำนักเต๋ามากที่สุด

คัมภีร์กระบวนท่าระดับสูงที่ถ่ายทอดมาจากหลิงเป่าเทียนจวิน บรรพบุรุษสายเหนือพิสุทธิ์ซึ่งเป็นหนึ่งในสามพิสุทธิ์ ถูกจัดเป็นสี่กระบี่ล้ำค่า และถูกเรียกเป็นสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน เหมือนกับคัมภีร์กระบี่ลงทัณฑ์เซียน คัมภีร์กระบี่ผนึกเซียน และคัมภีร์กระบี่ลวงเซียน

เป็นกระบวนท่าของสำนักเต๋าที่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนคัมภีร์นภาต้นกำเนิดทั้งสิบม้วน

ชั้นหนังสือวังเทพเมื่อครั้งอดีต ได้เก็บคัมภีร์กระบี่สังหารเทพที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไว้

เป็นตัวแทนจิตพลังจากมีเป็นไม่มี ผ่านการสูญสิ้น กลับคืนสู่ความว่างเปล่าของทุกสรรพสิ่ง เป็นกระบี่แห่งจุดจบที่ดุดันและแข็งแกร่ง

มีเทพนิยายจำนวนนับไม่ถ้วนเหลืออยู่ตั้งแต่ยุคสมัยตำนานมาถึงปัจจุบัน

ท่ามกลางสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน กระบี่สังหารเซียนทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่าง จริงหรือปลอม ต่อให้เปลี่ยนแปลงนับพันนับร้อย กระบี่เดียวก็สามารถส่งพวกมันสู่ความสิ้นสูญ

เวลาสิบลมหายใจผ่านไป เยี่ยนจ้าวเกอพลันเก็บกระบี่รุ้งพร่างพราวของตัวเอง

แม้แต่เจตจำนงของคัมภีร์สังหารเซียนก็หายไปด้วย รูปญาณวรยุทธ์เหนือศีรษะของเขาเปลี่ยนแปลงในทันใด กลายเป็นคนผู้หนึ่ง

คนผู้นั้นเหมือนกับนั่งอยู่ในความโกลาหล มีลักษณะเป็นจุดเดียว แต่กลับเหมือนกว้างใหญ่ไพศาล

ความโกลาหลเปิดออก ทุกสิ่งจากไม่มีกลายเป็นมี

ความขมุกขมัวถูกแยก ฟ้าดินกำเนิด เกิดการเปลี่ยนแปลง ท้องทะเลไหลเลื่อน

ต่อมารูปญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนแปลง กลายเป็นคนยักษ์ร่างสูงใหญ่ ทั่วร่างมีปราณพิสุทธิ์ไหลเวียน

ร่างของคนยักษ์ค่อยๆ เล็กลง ปราณพิสุทธิ์กลับเข้าไปในร่างของมัน กลับยิ่งมายิ่งจับตัวกัน

เงาแสงหลายสายเปล่งประกายเหนือศีรษะคนยักษ์

มีมังกรสีเขียวบินวนเวียนในอากาศ มีเทวราชนั่งอยู่บนพื้น มีพายุเพลิงพัดม้วนทั่วฟ้า มีเตาโอสถพ่นเพลิงสีม่วงออกมา…

นอกจากนี้ยังมีมังกรน้ำแข็งออกทะเล มีดวงอาทิตย์ลอยสูง มีเพลิงโหมทำลายโลก มีแสงจันทร์กระจ่างนวล ถึงขั้นมีเต่ากับงูรวมตัวกัน เทพเจินอู่[1]แสดงอภินิหาร…

ภาพมากมายสะท้อนถึงจิตวรยุทธ์มากมาย

เมื่อรวมเข้าด้วยกันกลับไม่สับสน เพราะว่าจิตเดิมแต่ละชนิดที่อยู่ด้านในต่างค่อยๆ หมดสิ้นไป สุดท้ายจับตัวกันกลายเป็นกระแสน้ำไหลบ่า

บนกระแสน้ำสะท้อนให้เห็นถึงหลักการแห่งเต๋า นั่นคือภาพองค์ศาสดาสั่งสอนสรรพสัตว์

พลังของรูปญาณวรยุทธ์นี้อ่อนแอกว่ารูปญาณที่เกิดจากคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัดก่อนหน้า แต่กลับมีจิตอันบริสุทธิ์ไม่มีสิ่งใดแทรกอยู่

ดำรงอยู่ในความมีความไม่มี เหมือนดำรงอยู่และไม่ดำรงอยู่ เหมือนมีตัวตนและไม่มีตัวตน

หลังจากนั้นรูปญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอก็สั่นไหว เปลี่ยนแปลงกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอีกครั้ง

กระบี่แทบจะโปร่งแสง เหมือนกับกลายเป็นความว่างเปล่า แต่ว่าจิตพลังงานอันน่าสะพรึงที่สามารถสังหารทุกสรรพสิ่งนั้นปรากฏออกมาหมดสิ้น

กระบี่เล่มนี้พอโผล่ขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ก็เข้าสู่ความสูญสิ้น พากันมุ่งไปสู่ที่พักพิง หายไปไร้ร่องรอย

การเกิดและการดับ ทุกสิ่งจากมีเป็นไม่มี

ลมหายใจที่สิบผ่านไป เข้าสู่ลมหายใจที่สิบเอ็ด

ภายใต้การส่องแสงจากแสงสว่างอันเจิดจ้า รูปญาณวรยุทธ์เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอค่อยๆ ลอยลงด้านล่าง ก่อนจะรวมกับเขา!

ทุกคนในสำนักแสงสว่าง รวมถึงหนงอวี่ซวนและเฉิงซง ต่างมองเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่กลางอากาศอย่างตื่นตระหนกเหลือประมาณ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี