ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 674

เทพเจ้าสามพิสุทธิ์ ผู้สูงส่งแห่งสำนักเต๋า

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่บ้างมีปณิธานสูงส่ง บ้างมักใหญ่ไฝ่สูง ต่างเคยลองวิธีการฝึกของสามพิสุทธิ์

แต่ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บ้างก็ล้มเหลว บ้างก็ยอมแพ้ไปเอง บ้างก็เข้าใจอย่างถ่องแท้

คนที่ยืนหยัดบนเส้นทางนี้ต่อได้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย

เพราะว่ายากเย็นเกินไป

ก่อนที่เยี่ยนจ้าวเกอจะฝึกฝนคัมภีร์สังหารเซียน ก็เคยลองถามตัวเองดูว่าตนต้องเดินบนเส้นทางนี้จริงๆ หรือไม่

ทว่ามีคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นวิชาอันดับหนึ่งของสายหยกพิสุทธิ์ ก็ได้พิสูจน์ถึงความราบรื่นของเส้นทางในอนาคตของตนเองแล้ว

ขอแค่ไม่ตายไปเสียก่อน จะต้องไปถึงระดับที่คนจำนวนมากเฝ้าปรารถนาแน่

หากตนไม่ยอมเสี่ยงอันตราย แล้วเดินบนเส้นทางที่ยากเย็นกว่า จะเป็นการวางอุปสรรคที่ลำบากให้ตัวเองเสียเปล่าๆ

ถึงขั้นที่อาจจะอุดเส้นทางในการพัฒนาของตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนพ่นไหมใส่ตัวเอง

หลังจากใคร่ครวญแล้ว คำตอบของเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ เดินหน้า!

ตนเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจปลอมๆ เต็มเปี่ยม แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ทำเพราะเติมเต็มความภาคภูมิใจปลอมๆ นั้น

ทุกคนล้วนนิยมความสมบูรณ์แบบ มีความใคร่ มีความคิดที่สวยงามยามอยากได้ผลสำเร็จมากๆ

เยี่ยนจ้าวเกอก็มี แต่ว่าครั้งนี้กลับไม่ได้ทำเพราะสิ่งเหล่านี้

สาเหตุเพียงเป็นเพราะ แม้เส้นทางจะยากกว่ามาก แต่กลับเดินไปสู่ระดับที่อยู่สูงได้มากกว่า

เพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ วังเทพจึงกลายเป็นฝุ่นละอองของประวัติศาสตร์

เรื่องนี้ฝังอยู่ในก้นบึ้งจิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอมาตลอด ไม่เคยลืมเลือน เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขามุ่งไปด้านหน้าและพัฒนาไม่หยุดยั้ง ไม่ยอมหยุดกระหาย ไม่มีวันเหนื่อยล้า

เขาในตอนนี้เป็นจอมยุทธ์คนหนึ่ง และเคยชินกับการเป็นจอมยุทธ์คนหนึ่งมาตั้งแต่แรก

จอมยุทธ์จะทำลายเป้าหมายที่อยู่สูงกว่าเสมอ ในขณะที่ท้าทายกับศัตรู ก็ท้าทายตัวเองไปด้วย

บางทีอาจจะสลัดความเคยชินไม่หลุด แต่เยี่ยนจ้าวเกอชื่นชอบวิธีการเช่นนี้

ดังนั้น เขาต้องเดินหน้าต่อไป!

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของหลักการแห่งฟ้าดิน เนื่องจากตนเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ จึงดึงดูดปราณวิญญาณของฟ้าดินที่อยู่รอบๆ ให้เข้าสู่ร่างกาย เพื่อชำระล้างร่างกาย

เส้นทางที่ยากลำบากเส้นนี้ การเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่จุดจบ ไม่ใช่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เส้นทางต่อจากนี้มีแต่จะยากขึ้น ยิ่งมายิ่งยากขึ้นเท่านั้น

ชายหนุ่มเข้าใจข้อนี้ดี แต่ว่าจิตใจสงบนิ่งผิดปกติ

ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนโชคดี ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่ชนะได้ตลอดกาล ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่สำเร็จเป็นคนสุดท้าย

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตนเป็นคนที่มั่นใจคนนั้น เป็นคนที่ทะนงตนคนนั้น

จะว่าใจร้อนก็ดี ไร้เดียงสาก็ดี แต่เส้นทางนี้ เขากล้าเดินหน้าต่อไป

เวลาชั่วลมหายใจที่สิบสองมาถึงแล้ว

ทว่ากระบี่รุ้งพร่างพราวกลับมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เขาฟันออกมาทั้งที่อยู่ไกลออกไป ปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์สายหนึ่งพุ่งใส่หนงอวี่ซวนตรงๆ!

อีกฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หมวกเกราะดาราเรืองรอง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำบนร่างคล้ายกับมีแสงของดวงดาวมารวมตัวกันกลายเป็นเกราะอ่อน

แต่ว่าปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ เจาะหมวกเกราะดาราเรืองรองทะลุเหมือนหั่นเต้าหู้ ประกายแสงของมันดับลงในพริบตา!

หนงอวี่ซวนตกใจ ร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหว ได้แต่ฝืนใช้ปราณดาบแสงทมิฬที่ตัวเองควบคุมได้ให้มารวมตัวกันเบื้องหน้า

ปราณกระบี่สีขาวหมุนครั้งหนึ่ง พุ่งใส่เพลิงมารสีดำที่ไร้รูปร่างนั้น

หนงอวี่ซวนครางหนักคำหนึ่ง ร่างกระเด็นออกไป

เฟิงอวิ๋นเซิงที่ถูกควันดำปกคลุมอยู่ เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของปราณดาบแสงทมิฬ ก็ถอนใจโล่งอก แสงของอาทิตย์ยะเยือกในดวงตาค่อยๆ สลายไป

ถ้าหากเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย เยี่ยนจ้าวเกอทำไม่สำเร็จ นางต้องเสี่ยงชีวิต ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ต้องสนับสนุนต่อ

แต่ว่าในนาทีสุดท้าย ความล้มเหลวของหนงอวี่ซวนได้อธิบายแล้วว่า เยี่ยนจ้าวเกอทำสำเร็จแล้ว!

“ข้าเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ไร้ผู้ต่อต้านในใต้หล้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง

เขายืดร่างขึ้น บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ทิศทางที่คมกระบี่มุ่งไป ปราณกระบี่สีขาวหลายสายเคลื่อนที่กลางอากาศ

มีปราณกระบี่บางสาย เปลี่ยนรูปร่างอย่างรุนแรง ถึงกับมีจิตพลังของกลิ่นอายมารแสงทมิฬ ซึ่งเป็นพลังของพระราหูอยู่หลายส่วน

ปราณกระบี่ที่แฝงพลังกัดกร่อน พลันสั่นไหวแสงอาทิตย์สีทองกลางท้องฟ้า

มีปราณกระบี่บางสายรูปร่างเปลี่ยนแปลงเช่นกัน กลับปรากฏพลังแห่งพระเสาร์ กลายเป็นแสงสลัวที่เหมือนสายน้ำครึ่งหนึ่ง ครอบคลุมฟ้าดิน

ปราณกระบี่ที่แฝงพลังแห่งการกัดกร่อนอีกชนิดหนึ่งทำลายแสงจันทร์สีเงินยวง

สองกระบี่ประสาน สุริยคราสกับจันทราคราสเกิดขึ้นพร้อมกัน พลังแห่งการดับสลายพุ่งสู่จุดสูงสุด รับมือกับท่าฝ่ามือเทพอาทิตย์จันทราของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ

มีปราณกระบี่บางสาย กลับกลายเป็นแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์ที่โชติช่วงสุดขีด แก้ไขฝ่ามือกลืนตะวันกินจันทราของสำนักแสงสว่าง

มีปราณกระบี่บางสาย กลายเป็นหลุมดำ กลืนกินแสงสว่างไร้ขอบเขต รับมือฝ่ามือแสงสว่างไร้สิ้นสุดของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ

มีปราณกระบี่บางสาย ลักษณะเหมือนกระแสเวลา กัดกินร่างแสงสว่างไร้วันดับที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันมากที่สุดของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง

เวลาดุจสายน้ำ ไม่มีปราณี ต่อให้เป็นแสงสว่างที่เป็นอนันต์ ต่อหน้ากาลเวลา สุดท้ายก็มีวันดับสลัว

ปราณกระบี่สังหารเทพอันน่ากลัววนเวียน เปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน มหัศจรรย์ไม่อาจต้านทาน ส่งทุกสิ่งทุกอย่างไปสู่จุดจบของตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ

ระหว่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงนับหมื่นนับพัน แต่สุดท้ายก็มีผลลัพธ์คล้ายกัน

จุดจบที่กลับไปอยู่ในเส้นทางเดียวกันมีเพียงหนึ่ง

นั่นคือความพินาศ!

เยี่ยนจ้าวเกอท่าทางสบายอารมณ์ โจมตีใส่ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามหนึ่งกระบี่ จากนั้นก็โจมตีคนอื่นอีกหนึ่งกระบี่ ต่อมาก็โจมตีผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างคนนั้นอีกหนึ่งกระบี่ จากนั้นถึงเปลี่ยนเป้าหมาย โจมตีจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างคนอื่นต่อ

ภายใต้การโจมตีจากปราณกระบี่สังหารเทพอันน่าสะพรึง แม้จะเป็นพลังที่จับตัวจากการรวมร่าง รูป วิญญาณเป็นหนึ่งของผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย หากโดนเข้าจะต้องได้รับบาดเจ็บ ถ้าฝืนปะทะจะต้องพิการ

นอกจากผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามคนนั้นแล้ว จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เข้าร่วมการรุมโจมตี ไม่มีใครต้านทานอานุภาพกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอได้!

อานุภาพที่ทำลายล้างทั่วบริเวณ ทำให้เงาของความตายทาบทับหัวใจของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างทุกคน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี