ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี นิยาย บท 676

คมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนที่ไปด้านหน้า

ในดวงตาของหนงอวี่ซวนปรากฏความเย็นชาและความคลุ้มคลั่ง

เขาละทิ้งการป้องกันของตัวเองโดยสิ้นเชิง หันมาโจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอสุดกำลัง คิดจะตกตายร่วมกัน!

ก่อนหน้าวันนี้ ถ้าหากมีคนพูดกับหนงอวี่ซวนว่า เขาจะต้องเสี่ยงชีวิตกับคนที่เพิ่งเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งเพื่อตายร่วมกัน หนงอวี่ซวนคงจะคิดว่าอีกฝ่ายพูดจามั่วซั่ว

แม้ไม่มีปราณดาบแสงทมิฬ พลังของเขาก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย ซึ่งถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าตายคนนั้น

เขาหลอมเปลี่ยนปราณดาบแสงทมิฬส่วนหนึ่ง อาศัยพลังระเบิดจากการกดข่มของแสงอาทิตย์และสุริยคราสพลังงานสองชนิด พลังของเขาจึงเพิ่มขึ้น คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันมีไม่กี่คน พลังย่อมล้ำเลิศยิ่ง

แต่ตอนนี้เขากลับพบว่า นอกจากนี้แล้วตนไม่อาจขอมากไปกว่านี้ได้อีก

“ดูถูกเจ้าไปจริงๆ หากรู้ว่าจะมีวันนี้ ควรจ่ายค่าตอบแทนทุกอย่าง บุกโลกแปดพิภพ ทำลายเจ้ากับเขากว่างเฉิง”

ท่ามกลางเสียงเราะ หนงอวี่ซวนลงมือสุดกำลัง จู่โจมใส่เยี่ยนจ้าวเกอ

ชายหนุ่มกลับหัวเราะ “ท่านใช้วิธีเช่นนี้ รังแต่จะตายเร็วขึ้น”

ปราณกระบี่สังหารเซียนสีขาวโพลนแบ่งเป็นสองส่วนกลางอากาศ

ปราณกระบี่สายหนึ่งป้องกันการจู่โจมของหนงอวี่ซวน ปราณกระบี่อีกสายยังคงฟันใส่ร่างของหนงอวี่ซวนโดยไร้สิ่งใดขัดขวาง!

หนงอวี่ซวนสายตาสับสน ประกายตาค่อยๆ สลาย

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าญาณจริงแท้ ลมปราณ หรือแม้แต่วิญญาณของตน นาทีนี้กำลังมุ่งสู่ความพินาศ

ตัวเขาเองจับจ้องกระบี่ในมือเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง “นี่เป็นวิชากระบี่อะไร น่ากลัวและคมกล้านัก เจตจำนงเหมือนกับทุกสรรพสิ่งสิ้นสุด เหมือนกับวันสิ้นโลกก็ไม่ปาน”

ทันใดนั้น เขาพลันตกใจ “รอเดี๋ยว หรือว่าจะเป็นสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนในตำนาน?! มีแต่กระบี่ทำลายล้างที่แสดงวิถีแห่งความพินาศเท่านั้นถึงจะมีจิตพลังเช่นนี้”

ก่อนสำนักแสงสว่างกับสำนักความมืดจะแบ่งแยกกัน สำนักประกายกาฬก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้านวรยุทธ์ที่ดำรงอยู่มาก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่

ถึงแม้ว่าจะเจออุปสรรคมากมาย หลายสิ่งสาปสูญ แต่ว่าการสั่งสมและประสบการณ์ทั้งหมดยังคงบนตัวผู้คน

หนงอวี่ซวนในฐานะที่เป็นคนสำคัญของสำนักแสงสว่าง ได้อ่านบันทึกคัมภีร์โบราณของสำนักไปมากมาย

ครั้นเขาสัมผัสได้ถึงเจตจำนงที่น่าพรั่นพรึงของเยี่ยนจ้าวเกอ จู่ๆ จิตใจของเขาก็เปิดโล่ง นึกถึงตัวตนในตำนาน

เทียบกับกระบวนท่าสูงส่งที่แข็งแกร่งทุกชนิดแล้ว สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนซึ่งเป็นตัวแทนของจุดสิ้นสุด ย่อมมีชื่อเสียงมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ทว่าเขาไม่รู้จักกระบี่สังหารเซียน เพียงแค่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

กระนั้น เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่านอกจากนี้ยังมีวิชากระบี่วิชาใด ที่แข็งแกร่งเช่นนี้และโหดเหี้ยมเช่นนี้

คมกระบี่รุ้งพร่างพราวในมือเยี่ยนจ้าวเกอหมุนครั้งหนึ่ง ขัดขวางการโจมตีที่ด้านหลังซึ่งมาจากเฉิงซง

ถึงอย่างไรเฉิงซงก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น

แม้ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจะมีพลังล้ำเลิศ อีกทั้งยังได้เปรียบด้านอาวุธ แต่ก็ได้แต่ขัดขวางไว้ ไม่อาจรับประกันว่าจะดูแลได้ทั่วถึง

เมื่อสู้ไปนานๆ เฉิงซงก็ได้โอกาสทำลายแนวป้องกัน ทว่าการโจมตีของเขายังถูกเยี่ยนจ้าวเกอหยุดไว้

ในตอนนี้ได้ยินคำพูดของหนงอวี่ซวน เฉิงซงเองก็ตกใจ “สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน วิชาสายตรงของสายเหนือพิสุทธิ์?!”

เขามองเยี่ยนจ้าวเกออย่างงงงัน “จริงสิ นอกจากนี้แล้ว จะมีวิชากระบี่ไหนที่โหดเหี้ยมและแข็งแกร่งเท่านี้อีก?”

“อานุภาพเช่นนี้ คงไม่ใช่สาขาที่พัฒนาขึ้น ต้องเป็นวิชาสายตรงในวิชาสายตรง ดั้งเดิมในดั้งเดิม!”

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอ พลันหัวเราะร่า หัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งเลยก็ว่าได้ “ฮ่าๆๆ! ที่แท้ที่มาของเจ้าคือเคล็ดวิชาสายเหนือพิสุทธิ์!”

“มิน่าถึงได้มีพลังขนาดนี้ มิน่าล่ะ ข้าแพ้โดยไม่ต้องละอายแล้ว!”

“แต่ว่าวันเวลาของเจ้าไม่มีวันยาวนาน!” สีหน้าของหนงอวี่ซวนเปล่งปลั่ง เหมือนกับเป็นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย

รอยยิ้มของเขาบ้าคลั่งและแปลกประหลาด เคียดแค้นและมีความสุข “เมื่อหนึ่งพันปีก่อนกษัตริย์ดินสั่งไว้ว่า ห้ามผู้สืบทอดของสายเหนือพิสุทธิ์เหยียบโลกซ้อนโลก!”

“ผู้ขัดขืน แม้จะออกจากโลกซ้อนโลกไปในภายหลัง ก็ต้องถูกฆ่าทิ้งไม่มีละเว้น!”

“แม้แต่สาขาย่อยยังเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้สืบทอดสายตรงอย่างเจ้ากระมัง?”

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าพลางพูดว่า “เจ้าตายแน่!”

เลือดเนื้อลมปราณที่แข็งแกร่ง ไม่มีอะไรที่ใช้ได้ ย่อยยับอย่างต่อเนื่อง

วิญญาณและจิตใจอันแน่วแน่ ไม่มีอะไรที่ใช้ได้ สูญสิ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะมองหนงอวี่ซวนที่ค่อยๆ มุ่งสู่ความพินาศ เฉิงซงเกิดความรู้สึกเย็นเยียบขึ้น

จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างทั้งหมดถูกสังหาร พลังของเยี่ยนจ้าวเกอลึกล้ำไม่อาจหยั่งถึง

ถ้าหนงอวี่ซวนตาย การร่วมมือกันระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก เฉิงซงเองมีความรู้สึกไม่อาจต้านทานได้

ความคิดของเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งร้อน หมุนตัวอย่างรวดเร็ว หนีไปทันที!

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ นาทีนี้ไม่กล้าสู้ หนีไปอย่างว่องไว

เยี่ยนจ้าวเกอมองไปยังเขา

มีเสียงของอาหู่ดังมาจากในวังฝูงมังกร “คุณชาย ให้เขาหนีไป จะมีปัญหาอะไรหรือไม่?”

อีกด้านหนึ่งข้างในวังฝูงมังกร เฟิงอวิ๋นเซิงนั่งขัดสมาธิตัวตรง หลับตาปรับลมหายใจ

กลิ่นอายเพลิงมารทมิฬที่ซัดสาดค่อยๆ ถูกดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกดูดซับ แสงสว่างสีฟ้าที่เกิดจากพลังแห่งอาทิตย์ย้อนบนผิวดาบมืดสลัวลงอย่างช้าๆ เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน

แต่ว่ากลิ่นอายอันน่าสะพรึงอันไม่เป็นมงคลด้านในกลับแข็งกร้าวและยิ่งใหญ่กว่าเดิม

ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอลงมือก่อนหน้านี้ ประตูวังฝูงมังกรเปิดออก ด้านในมีแรงดึงดูดส่งออกมา พาเฟิงอวิ๋นเซิงกลับเข้าไปด้านใน

เฟิงอวิ๋นเซิงตอนนี้ลืมตาขึ้นแล้วเช่นกัน

เฉิงซงเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ขั้นเทวะสำแดงระยะต้น ถ้าหากเขาไม่อยากสู้จนตัวตาย แต่ตั้งใจหนีสุดกำลัง การรั้งเขาไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย

เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตามองไปยังที่ไกลออกไป “ถึงพวกเราจะไม่ไล่ตาม เขาก็หนีไม่ได้อยู่ดี”

………………..

[1] สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ เป็นกลุ่มบุคคลหรือเทวดาซึ่งตำนานกล่าวว่า ปกครองภาคเหนือของจีนโบราณ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี