เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ทันขาด ก็เห็นกลางอากาศไกลออกไปมีแสงหลายสายสว่างขึ้น
ละอองแสงหลายสายพาดผ่านท้องฟ้า ตัดสลับกัน ก่อเกิดเป็นอาคมวิญญาณขนาดยักษ์อันแล้วอันเล่า จากนั้นก็ประกอบกันเป็นลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซับซ้อน
ค่ายกลยักษ์บดบังท้องฟ้า ตัดขาดบริเวณรอบๆ
ภายใต้การครอบคลุมของค่ายกล น่านน้ำบนแผ่นดินแห่งนี้ที่ทุกคนอยู่เหมือนกับถูกแยกฟ้าดินออกมา เกิดเป็นโลกที่เป็นเอกเทศ
อากาศถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง เบื้องหน้ามีละอองแสงที่พร่าเลือนหลายสายลอยขึ้นมา
พวกเยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าร่างกายเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งเหลือประมาณในชั่วพริบตา
เฉิงซงที่หนีไปไกลถูกค่ายกลคุมขัง ได้รับผลกระทบจากค่ายกลเช่นกัน ความเร็วในการเหาะเหินพลันเปลี่ยนเป็นช้าลง จากนั้นร่างก็ค่อยๆ ลอยลงด้านล่างอย่างไม่อาจควบคุม
ไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่ร่างแบกของหนักเท่านั้น แต่เหมือนทุกส่วนทั่วทั้งร่างหนักอึ้งขึ้น
กระดูกทุกท่อน กล้ามเนื้อทุกมัด หรือแม้แต่เลือดทุกหยาดหยด ต่างเกาะกันหนาทึบสุดขีด
อย่าว่าแต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเฉิงซงและเยี่ยนจ้าวเกอ แม้แต่เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ที่เป็นจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ ลมปราณก็รุ่มร้อนและเกาะตัวกันสุดเปรียบปานแล้ว
เลือดหนึ่งหยด ยังหนักยิ่งกว่าปรอท หล่นลงบนหญ้า หญ้ายังลุกไหม้ขึ้นมา
ทว่าในตอนนี้กลับรู้สึกได้เพียงว่า ทุกส่วนบนร่างของตน ต่อให้เป็นเส้นขนที่ซอยอย่างละเอียด ก็ยังหนักเหมือนเข็มนับพัน
ไม่เพียงแต่คนที่อยู่กลางอากาศเท่านั้น ในน้ำทะเลด้านล่าง หินโสโครกและเปลือกแผ่นดินที่อยู่ด้านล่างน้ำทะเล ก็เกิดการบิดเบี้ยวแปลกประหลาดเช่นกัน
แสงสว่างของค่ายกลครอบคลุม ทวีปชินเหอที่เยี่ยนจ้าวเกอต่อสู้กับพวกหนงอวี่ซวนและเฉิงซงอยู่ติดกับเกาะเทียนอิ้น ฟ้าดินและมิติเวลาของแผ่นดินเหนือเกาะราวกับเกิดการถล่ม
พวกผู้อาวุโสชีแห่งหอกระบี่ทะเลเหนือ และจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์ม่วงจางเชาที่ยังติดอยู่ในการต่อสู้ติดพันบนเกาะเทียนอิ้นพลันเคลื่อนไหวช้าลง มองทิศทางที่ทวีปชินเหออยู่ด้วยความตื่นตระหนก
คนของหอกระบี่ทะเลเหนือกับสำนักความมืดตกใจ ‘สำนักแสงสว่างส่งยอดฝีมือมารุมสังหารเยี่ยนจ้าวเกอกี่คนกันแน่?’
จางเชาตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน ‘หรือจะมีการดักซุ่มที่เกาะชินเหอ? โจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่นจงใจล่อพวกหนงอวี่ซวนกับเฉิงซงไปหรือ? เป็นยอดฝีมือสำนักใดซุ่มโจมตีสำนักแสงสว่างกัน?’
เขาอดเป็นห่วงสภาพของตัวเองไม่ได้ ถ้าหากที่ทวีปชินเหอมีการดักซุ่ม ทางเกาะเทียนอิ้นนี้จะมีรังสีสังหารที่ซ่อนไว้เพื่อรับมือเขาหรือไม่?
ทั้งสองฝ่ายมองหน้ากันเอง กลับเห็นความประหลาดใจและความตกใจของอีกฝ่าย
‘ไม่เกี่ยวกับพวกเขาหรือ?’ ทั้งสองฝ่ายเข้าใจแล้ว แต่สงสัยยิ่งกว่าเดิม
จางเชาเป็นจอมยุทธ์ของโลกแปดพิภพที่ลอยขึ้นมายังโลกซ้อนโลกได้ไม่กี่ปี
หลังจากพวกผู้อาวุโสชีคิดว่าไม่ใช่สำนักแสงสว่าง ก็ครุ่นคิดอย่างละเอียด ต่างพากันตกใจ
‘ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นแนวหลัง มียอดฝีมือระดับสุดยอดของฝ่ายต่อต้านต้าเสวียนค่อนข้างน้อย แต่คิดจะวางค่ายกลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไว้ในพื้นที่ของพรรคเรา กลับไม่ง่ายนัก’
นี่หมายความว่า ถ้าไม่ใช่อีกฝ่ายวางแผนไว้แต่ต้น ก็อาจจะวางค่ายกลชั่วคราวด้วยระยะเวลาสั้นๆ หลังจากย่องเข้ามาใกล้
ค่ายกลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ สามารถวางสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม้จะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ยังไม่อาจทำได้ จำเป็นต้องมีความสามารถด้านค่ายกลล้ำลึกถึงขีดสุด
การหาคนเช่นนี้ในทะเลหวงเจีย เป็นเรื่องลำบากยากเข็ญยิ่ง
ทันใดนั้น ในห้วงสมองของพวกผู้อาวุโสชีปรากฏชื่อของคนผู้หนึ่งขึ้น
นักพรตสือ
ยอดฝีมือระดับสุดยอดผู้สร้างแผ่นดินอันยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง ที่มายังทะเลหวงเจียพร้อมเสวียนเหวินอ๋อง และผู้วิเศษเซิง
ในขณะเดียวกันก็เป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับสูงสุด ที่เคยปรากฏตัวขึ้นที่ทะเลหวงเจียในหลายปีมานี้
หลังจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสร้างแผ่นดินสำเร็จ สถานการณ์ค่อยๆ มั่นคง เสวียนเหวินอ๋องเสด็จมายังทะเลหวงเจีย กลายเป็นจ้าวผู้ปกครอง นักพรตสือรวมถึงผู้สืบทอดของเขากลับหายตัวไป เหมือนจอมยุทธ์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้วิเศษเซิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี