ธารแสงหลายสายร่างเค้าโครงขนาดมหึมา กลายเป็นเรือยักษ์ที่เหมือนกับโปร่งแสงลำหนึ่ง
ภายใต้การครอบคลุมของม่านแสง วังฝูงมังกรอยู่อยู่ตรงกลางแกนหลักของเรือยักษ์ลำนี้
เรือยักษ์ลอยอยู่กลางหาว ค่อยๆ แล่นอยู่กลางอากาศ
ชายชราไป๋จื่อหมิงมองอย่างละเอียด อดขบขันเล็กน้อยไม่ได้ “เป็นแค่เงาแสงมายาเท่านั้น ไม่ได้มีพลังหรือความพิเศษ”
“หากสืบสาวถึงที่สุด ก็เป็นวังประหลาดนั่น เค้าโครงของเรือยักษ์รอบนอกเป็นแค่ของประดับเท่านั้น”
เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงที่อยู่ข้างเขา สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันใด
เฉินจื้อเหลียงที่มีพลังฝึกปรือต่ำกว่าเล็กน้อย บนใบหน้าปรากฏความสงสัยมากกว่า
ส่วนเจิ้งหมิงที่มีพลังฝึกปรือสูงกว่า ซึ่งกำลังขับเรือนภาร่อนวายุ บนใบหน้าปรากฏแววตื่นตระหนก
ไป๋จื่อหมิงเห็นดังนั้น รู้สึกประหลาดใจ พลันปิดปากลง
ดูจากรูปการณ์ เงาแสงเรือยักษ์นั้นมีเงื่อนงำบางอย่างชัดเจน เจิ้งหมิงกับเฉินจื้อเหลียงที่คุ้นเคยกับเรือนภาร่อนวายุ ต่างมองถึงความไม่ธรรมดาของมันออก
ในสถานการณ์เช่นนี้ ชายชราย่อไม่กล่าววาจาอีก ได้แต่ฟังให้มากพูดให้น้อย
เพียงแต่ขณะมองวังฝูงมังกร ไป๋จื่อหมิงอดรู้สึกกังขาไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งตัวตรงอยู่ในวังฝูงมังกร ใช้ญาณจริงแท้ของตนประสานกับพลังของวังฝูงมังกร วางค่ายกล ก่อนจะเปลี่ยนให้กลายเป็นเงาแสงเรือยักษ์
เรือยักษ์แล่นอยู่กลางฟ้าดิน ถึงแม้จะเชื่องช้า แต่ให้ความรู้สึกไม่อาจต้านทานอยู่หลายส่วน เหมือนกับคิดจะแล่นไปทั่วนภา
เนื่องจากธารแสงร่างเส้นสาย ประกอบเป็นภาพที่แทบจะโปร่งแสง จึงทำให้ขณะที่เรือยักษ์ลำนี้แล่นอยู่ มีลวดลายแสงหลายสายพรั่งพรูขึ้นมา ชี้ให้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์ของโครงสร้างภายในเรือยักษ์ รวมถึงหลักการและสาเหตุที่ทำให้เกิดภาพที่น่าทึ่งเช่นนี้
เห็นเงาแสงหลายสายใจกลางเงาแสงเรือยักษ์หมุนวนและพุ่งทะลัก ก่อเกิดพายุลูกหนึ่ง ดูดปราณวิญญาณของฟ้าดินรอบๆ อย่างต่อเนื่อง
ลวดลายอาคาหลายสายสลักกลางอากาศ ทอดตัวอยู่กลางฟ้าเหมือนกับบทประพันธ์อันงดงาม
เนื่องจากเยี่ยนจ้าวเกอเพียงใช้ญาณจริงแท้ของตนเลียนแบบ ทุกอย่างต่างเป็นภาพลวงตา แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงหลักการบางอย่าง
อาหู่เกาศีรษะ “คุณชาย นี่คืออะไร?”
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “มาจากเรือธารสวรรค์ที่อยู่ในตำนานเมื่อครั้งอดีต ข้านำมาจากคัมภีร์ชำรุดส่วนหนึ่งซึ่งเป็นมรดกก่อนวิกฤตการณ์ที่ข้าขุดเจอ”
“ไม่ใช่รูปโครงสร้างของเรือธารสวรรค์ แต่เป็นวิชาลับในการควบคุมหางเสือ เพิ่มแรงขับของของวิเศษชนิดนี้”
“ตอนนี้ลองอนุมานเสกออกมาดู คนบนเรือนภาร่อนวายุนั่นพอเห็นแล้ว น่าจะดูออก”
เจิ้งหมิงแม้ว่าจะไม่ได้ดูออกทั้งหมด แต่ในตอนนี้ตกตะลึง
“อีกฝ่ายเป็นใครกันแน่?” เฉินจื้อเหลียงค่อยๆ รู้สึกตัว สายตาปรากฏความตื่นตระหนกอย่างหาได้ยาก “เพราะได้รับวิชาโบราณมา หรือว่าปกติได้สัมผัสกับเรือนภาร่อนวายุอยู่แล้ว คนผู้นั้นถึงสร้างขึ้นมาได้”
เจิ้งหมิงสงบสติอารมณ์ “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ช่วยศิษย์หลานเหวินขึ้นมาก่อน”
เฉินจื้อเหลียงกล่าว “รบกวนศิษย์พี่เจิ้งแล้ว”
เจิ้่งหมิงหลับตา เจาะทะลุหลักการและทักษะที่ตีความจากเรือยักษ์เงาแสงซึ่งญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้น
เขาครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง เข้าใจแล้วว่าหลักการเหล่านี้สอดคล้องกับเรือนภาร่อนวายุของตัวเอง
ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ยืนอ้าขาเอียงข้าง งอเข่าเล็กน้อย ญาณจริงแท้อันทรงพลังผ่านสองขาลงไปที่เรือยักษ์ด้านล่าง
เงาแสงข้างใต้เจิ้งหมิงไหลเวียน ค่ายกลอาคมอันหนึ่งปรากฏขึ้น ธารแสงมากมายขยายออกรอบๆ อย่างรวดเร็ว โดยมีค่ายกลอาคมเป็นศูนย์กลาง
ผิวเรือนภาร่อนวายุขนาดมหึมา ปรากฏธารแสงลอยขึ้นมา
ธารแสงทุกสาย รวมกลุ่มกันผ่านลวดลายอาคมนับไม่ถ้วน สั่นไหวพลังที่ยิ่งใหญ่ยากประเมิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี