ถึงแม้โชคจะหล่นใส่พวกหลัวจื้อเทา ทำให้พวกเขาเข้ามาในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬสำเร็จ แต่ว่าโจวฮ่าวเซิงเจ้าสำนักความมืดก็ยังคงนำอยู่ครึ่งก้าว
ตัวเขาถือธงวิญญาณ ต่อสู้กับหลัวจื้อเทา ส่วนร่างความมืดสถิตคว้ามือใส่ตะเกียงประกายกาฬ มืออีกข้างใช้กระบวนท่าสำนักความมืดโจมตีใส่หลัวจื้อเทา
หลัวจื้อเทาสีหน้าเย็นชา แยกสองมืออก ประคองดวงอาทิตย์สีทองดวงหนึ่งและดวงจันทร์กระจ่างดวงหนึ่งขึ้นด้านบน
ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ลอยและตกสลับกัน แสงสว่างไร้ประมาณสาดส่องสี่ทิศ
ที่ที่แสงสว่างไปถึง ความมืดสลายไป
อาทิตย์จันทร์ไขว้สลับ หยินหยางเปลี่ยนแปลง ด้านในมีพลังยิ่งใหญ่ไร้สิ้นสุดของการกลับขั้วอยู่หลายส่วน เหมือนกับฟ้าดินถล่ม ไร้สิ่งใดกีดขวาง
เยี่ยนจ้าวเกอขณะมองภาพนี้ ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อย ‘กงจักรสุริยันจันทรา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง!’
หลัวจื้อเทาเจ้าสำนักแสงสว่างที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ยังไม่สามารถแสดงพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์
ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ในนาทีนี้เขาก็เหมือนกับมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ติดตัวประดุจเทพ เหมือนกับผู้ปกครองฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่
โจวฮ่าวเซิงเองก็ไม่กล้าฝืนปะทะ ธงวิญญาณโบกไหว กลายเป็นหุบเหวความมืดไร้สิ้นสุด ยืดระยะห่างในการสลับที่ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ธงยาวที่เหมือนกับธงและหอกกางออกกลางอากาศ เป็นสีดำทั้งแถบ
หอกพันอนธการไร้แสง กระบวนท่าของสำนักความมืดถูกใช้ออกมา สภาวะหอกกลายเป็นโลกไร้แสงแถบหนึ่ง แทบจะยึดครองที่ว่างเอาไว้ฝ่ายเดียว
ทุกสิ่งที่ทะเลวงเข้ามาในแสงสว่างของโลกใบนี้ ต่างหายไปไม่เห็นร่องรอย
การโจมตีและร่างกายของศัตรูต่างก็ไม่คงอยู่ในโลกใบนี้เช่นกัน
โลกไร้แสง เหมือนกับหุบเหวที่กลืนกินทุกสรรพสิ่ง ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเพื่อให้กลับสู่ดินแดนแห่งความมืดนิรันดร์
ทว่าสถานที่ที่หลัวจื้อเทาบังคับกงจักรสุริยันจันทราไปถึง ประกายแสงล้วนไร้ประมาณ เหมือนกับข้ามผ่านขีดจำกัดที่โลกไร้แสงใบนี้จะรองรับได้
ต่อให้แสงสว่างของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อันพร่างพราวจะถูกกลืนกิน พวกมันก็จะโผล่มามากกว่าเดิม แสงสว่างหมุนวน ทำให้เขตแดนของมิติเวลาเลอะเลือน
หากมองจากมุมมองของเยี่ยนจ้าวเกอ จะเห็นโลกแห่งแสงใบหนึ่ง เคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง กดดันขอบเขตของโลกแห่งความมืดให้หดถอยไปทีละก้าว
ร่างความมืดสถิตใช้มือหนึ่งคว้าตะเกียงประกายกาฬ อีกมือหนึ่งฟันออกไปด้านหน้า
แสงสว่างมืดสลัวครึ่งสว่างครึ่งมืดก่อตัวขึ้นแต่ไม่ได้เจิดจ้ามากนัก กระนั้นประกายดาบที่มีความกดดันเต็มเปี่ยม ก็กำลังลดแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
ภายใต้การกระตุ้นของโจวฮ่าวเซิง มันทางหนึ่งรีบหลอมตะเกียงความมืด ทางหนึ่งลองอาศัยพลังแห่งตะเกียงประกายกาฬ ต่อสู้กับหลัวจื้อเทา
เห็นบนตะเกียงประกายกาฬมีลวดลายความมืดหลายสายลอยขึ้นมา พวกมันไม่มีความแวววาวแม้แต่น้อย แผ่ขยายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด ครั้งนี้ดูออกว่า ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่ลอยตกสลับกันด้วยสภาวะยิ่งใหญ่ ดวงอาทิตย์ยังคงโชติช่วงเช่นเดิม ส่วนดวงจันทร์กลับแข็งค้างในขณะที่สูญเสียความกลม
จันทร์กระจ่างเหมือนกับไม่อาจกลายเป็นจันทร์เพ็ญที่สมบูรณ์แบบได้อีก
มักมีข่าวลือว่า กงจักรจันทราในกงจักรสุริยันจันทราเคยได้รับความเสียหาย มีข้อบกพร่องหนึ่งที่ไม่อาจซ่อมแซม
ภาพตรงหน้าเหมือนกับพิสูจน์ถึงเรื่องนี้
เป็นเพราะเหตุนี้ ถึงแม้หลัวจื้อเทาจะไล่ต้อนทีละก้าว เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่โจวฮ่าวเซิงก็ยังฝืนป้องกันได้ด้วยการช่วยเหลือของร่างความมืดสถิต
หากถ่วงเวลาต่อ รอจนโจวฮ่าวเซิงหลอมเปลี่ยนตะเกียงประกายกาฬได้โดยสมบูรณ์ แม้ตะเกียงประกายกาฬจะได้รับความเสียหาย แต่สถานการณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
จอมยุทธ์สำนักความมืดที่เหลือ ต่างเข้าใกล้การต่อสู้ของสองเจ้าสำนักอย่างบ้าคลั่ง ทว่ายอดฝีมือสำนักแสงสว่างก็ไม่ยอมอยู่ด้านหลังเช่นกัน
ขณะที่สองฝ่ายสู้กัน ก็เห็นลวดลายอาคมสีดำบนผิวตะเกียงประกายกาฬยิ่งมายิ่งรวมตัว
เหมือนกับต้องการให้กำเนิดแสงสว่างพร่างพราวด้านในความมืดไร้ขอบเขต
ตะเกียงประกายกาฬกำลังจะถูกจุดขึ้นอีกครั้ง
จอมยุทธ์สำนักความมืดเห็นดังนั้น บนใบหน้าฉายแววโล่งใจ
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดจะชมเชยแม้แต่น้อย เขาทางหนึ่งเร่งการเปิดประตูศิลา ทางหนึ่งหรี่ตาสำรวจกงจักรจันทราที่อยู่ในกงจักรสุริยันจันทราอย่างละเอียด ยิ่งมองยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง
ในตอนที่จอมยุทธ์สำนักความมืดต่างโล่งใจ เยี่ยนจ้าวเกอพลันตวาดเตือน “ระวังถูกเขาหลอก กงจักรสุริยันจันทราได้รับการฟื้นฟูแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี