ประตูศิลาด้านหลังของเยี่ยนจ้าวเกอเปิดออก ความว่างเปล่าที่แสงสว่างมืดสลัวกระจายอยู่เบื้องหน้าพลันเริ่มจับตัวกันใหม่
พวกหลัวจื้อเทาและโจวฮ่าวเซิงที่อยู่ไกลออกมา และกัวซงที่กำลังจะลงมือโจมตีใส่ตนอยู่ใกล้ๆ ต่างหายไป
สุสานจักรพรรดิประกายกาฬปรากฏขึ้นอีกครั้ง พื้น ทางเดินสุสาน กำแพง และหลังคาที่แข็งแกร่งโผล่ขึ้นเบื้องหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ว่าไม่ทันไร แค่พริบตาถัดมา สุสานก็แยกตัว กลายเป็นฝุ่นผงไร้รูปร่าง กระจัดกระจายกลายเป็นความว่างเปล่าหนาหนัก
“หนีไปที่ไหน?” กลางความว่างเปล่าที่อยู่ไกลออกไป หลัวจื้อเทาถือตะเกียงประกายกาฬ สายตาวาววับ
ลวดลายแสงสว่างกระจายถี่ยิบบนผิวของตะเกียงประกายกาฬ กำลังจะจุดไฟตะเกียงให้สว่างขึ้นอีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ลุกลี้ลุกลน ฝ่ามือฟาดใส่ประตูศิลา
ด้านในประตูที่เปิดออกพลันมีลำแสงประหลาดหลายสายพุ่งออกมา
แสงสว่างในความว่างเปล่าที่เดิมทีก็มืดสลัวอยู่แล้วริบหรี่ลง ถึงขั้นที่แม้แต่ตะเกียงประกายกาฬยังสั่นไหวเบาๆ
กระแสปั่นป่วนของมิติที่สับสนหายไปอีกครั้ง กลายเป็นโครงสร้างภายในของสุสานประกายกาฬ
กัวเซิงผลักฝ่ามือใส่กำแพงของเส้นทางในสุสาน
เขาขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้า เพราะไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกออยู่ที่ใด
ทุกคนในตอนนี้ต่างยังอยู่ในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ แต่ว่าอยู่ในมิติที่แตกต่าง หลังจากความว่างเปล่ากลายเป็นสุสานจักรพรรดิแล้ว ก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งแต่ละตำแหน่งของสุสานจักรพรรดิ
ทางเดินของสุสานที่ซับซ้อน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมองเห็น แต่ตอนนี้กลับมองหาเส้นทางไม่เจอ ทำให้คนยากแยกแยะทิศทาง
จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างและจอมยุทธ์สำนักความมืดต่างกระจัดกระจายในชั่วพริบตา มีแต่คนที่กำลังต่อสู้ในมิติเดียวกันเท่านั้นที่ยังคงเผชิญหน้ากันอยู่
ตรงหน้าของหลัวจื้อเทาเหลือเพียงโจวฮ่าวเซิงและร่างความมืดสถิต
เขาไม่สนใจโจวฮ่าวเซิง แต่นิ่วหน้ามองตะเกียงประกายกาฬในมือ และสุสานที่ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้าย สายตาของหลัวจื้อเทาตกลงบนโลงศพศิลาที่ตั้งตะเกียงประกายกาฬไว้
ขณะมองโลศพศิลาที่ว่างเปล่า สายตาของเขาก็เคร่งขรึมลง ‘องค์จักพรรดิสวรรคตไปแล้วจริงๆ หรือ? ประตูบานนั้นอยู่ตรงไหนของสุสานจักรพรรดิกันแน่ ด้านหลังคืออะไร?’
โจวฮ่าวเซิงสีหน้าอึมครึม มองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันตรงหน้า รู้สึกไม่เข้าใจเช่นกัน
สุดท้ายยหลัวจื้อเทาละสายตา หลุบเปลือกตาลง
ลวดลายแสงพรั่งพรูออกมาบนตะเกียงประกายกาฬอย่างต่อเนื่อง แล้วแผ่ขยายอย่างไม่หยุดยั้ง
หลัวจื้อเทาหลอมตะเกียงประกายกาฬด้วยพลังทั้งหมด หมายจะควบคุมของวิเศษชิ้นนี้ให้ได้โดยสมบูรณ์ เพื่อจะได้เก็บไว้ให้ปลอดภัย
ณ ส่วนลึกของสุสาน เยี่ยนจ้าวเกอมองเส้นทางสุสานที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอีกครั้ง ขณะที่ถอนใจ ก็รู้สึกสนใจประตูบานใหญ่ซึ่งอยู่เบื้องหลังมากกว่าเดิม
การคุกคามจากหลัวจื้อเทาและกัวซงได้รับการแก้ไขแล้วชั่วคราว แต่วิกฤตการณ์ยังคงอยู่
การปล่อยให้หลัวเจื้อเทากับสำนักแสงสว่างได้ตะเกียงประกายกาฬไป จนทำให้พลังของสำนักแสงสว่างเพิ่มขึ้น ย่อมไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เยี่ยนจ้าวเกอต้องการจะเห็น
หลังจากสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้ว ชายหนุ่มก็สาวเท้าเข้าไปในประตูศิลาที่เปิดขึ้น
หลังจากเข้ามาแล้ว แสงสว่างมืดสลัวลวงจิตใจซึ่งกระจายอยู่ทุกที่ในสุสาน ต่างก็หายไป
ตรงหน้าคือมิติต่างแดนที่ว่างเปล่า เป็นสีดำขลับ มีแต่ที่ไกลออกไปเท่านั้นที่สามารถเห็นแสงสว่างที่พร่างพราว และบริสุทธิ์ซึ่งกำลังเปล่งประกายระยิบระยับได้
เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสกับการไหลของกลิ่นอายที่อยู่ด้านในมิติต่างแดนนี้อย่างละเอียด ครู่ต่อมาสีหน้าค่อยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมลง
มิติต่างแดนแห่งนี้เหมือนกับภาพที่ความขมุกขมัวของการเปลี่ยนแปลงจักรวาล ทุกสิ่งอยู่ในความมืดเริ่มต้น จนกระทั่งแสงแรกกำเนิดขึ้น
และหลังจากแสงสว่างจุดแรกกำเนิดขึ้น เวลาก็คล้ายกับหยุดนิ่งลง ไม่ได้ไหลเลื่อนเปลี่ยนแปลงต่อ
ทุกอย่างต่างรักษาวินาทีแรกสุดนั้นไว้ การเคลื่อนคล้อยของเวลาราวกับสูญเสียความหมาย ดูลี้ลับน่าอัศจรรย์ยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใกล้แสงสว่างจุดแรกนั้น แต่ว่าความว่างเปล่าของจักรวาลอันมืดมิดก็เหมือนกับไร้สิ้นสุด ไม่ว่าเขาจะเดินไปนานขนาดไหน แสงสว่างจุดนั้นก็คล้ายกับยังคงอยู่ห่างไกล ไม่ได้หดใกล้เข้ามาแม้แต่น้อย
ความรู้สึกนั้นราวกับตัวเองเดินอยู่ที่เดิมก็ไม่ปาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี